เมื่อพูดถึงบริการรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถตู้ หรือรถแท็กซี่ก็ตาม ก็ล้วนแล้วอยู่ในความดูแลของกรมขนส่งทางบกทั้งสิ้น ซึ่งในแต่ละวันก็มักจะมีเรื่องร้องเรียนมาที่สายด่วน 1584 แต่ละเรื่องก็แตกต่างกันไป ปัจจุบันแม้กรมขนส่งทางบกจะมีการลงพื้นที่ตรวจเข้มแต่ก็ไม่วายมีรถสาธารณะที่ฉกฉวยโอกาสไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธผู้โดยสาร หรือแม้แต่ไม่กดมิเตอร์ เป็นต้น ปัญหาก็ไม่ได้หมดไป
ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงออกประกาศเข้ม สั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กวดขันการให้บริการรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจจับ เปรียบเทียบปรับสูงสุดเด็ดขาดทุกกรณีความผิด ซึ่งดำเนินการมาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูงสุด และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยได้จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่เพื่อสุ่มตรวจสอบการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะที่ประชาชนนิยมใช้บริการ คือ รถแท็กซี่ รถตู้โดยสารสาธารณะ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง
และจากผลการตรวจสอบการให้บริการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการสุ่มตรวจสอบรถโดยสารทั้งสามประเภทดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 19,864 คัน พบผู้ฝ่าฝืนทำความผิดรวม 767 ราย เป็นรถแท็กซี่กระทำความผิดจำนวน 592 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 10,653 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ ฝ่าฝืนใช้รถไม่จดทะเบียน นำรถหมดอายุมาให้บริการ และใช้รถไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด
ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะพบกระทำความผิดจำนวนรวม 131 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 6,664 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ นำรถออกนอกเส้นทาง บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง
มาดูในส่วนการตรวจสอบการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะพบฝ่าฝืนทำความผิดรวม 44 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 2,547 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ การฝ่าฝืนนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลป้ายดำมารับจ้างส่งผู้โดยสาร ใช้รถไม่จดทะเบียน และใช้รถไม่ชำระภาษี
การกระทำผิดกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
กรมการขนส่งทางบกได้มีมาตรการลงโทษเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดเข้มงวดอย่างจริงจัง และผู้กระทำความผิดจะถูกส่งตัวเข้ารับการอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกการให้บริการและสร้างความตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อผู้โดยสารทุกคน บันทึกประวัติการกระทำผิดไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ หากพบการกระทำความผิดในลักษณะเดิมพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ
เรื่องนี้กรมการขนส่งทางบกได้แนะนำให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย (ป้ายเหลือง) เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการบริการ เนื่องจากผู้ขับรถให้บริการจะเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านกระบวนการอบรมและทดสอบความสามารถในการขับขี่ได้เป็นผู้รับใบอนุญาตขับรถสาธารณะถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ แล้วประชาชนที่ใช้บริการก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูว่ารถสาธารณะที่ตัวเองใช้บริการถูกต้องตามที่กฎหมายระบุไว้หรือไม่ หากพบว่ารถจักรยานยนต์สาธารณะที่ใช้บริการไม่ใช่ป้ายเหลืองก็ไม่ควรใช้บริการ ซึ่งเราต้องตระหนักว่า หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างที่ใช้บริการ เราจะไม่ได้รับการคุ้มครอง ที่สุดแล้วมีแต่เสียกับเสีย
สำหรับประชาชนที่ใช้บริการรถสาธารณะ เบื้องต้นแนะนำให้สังเกตหมวดอักษรบนแผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ก่อนเลือกใช้บริการ โดยหมวดที่ยังอยู่ในช่วงอายุการใช้งาน ประกอบด้วย ทศ, ทษ, ทส, ทห กรณีเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลือง ประกอบด้วย มช, มฎ, 1มก, 1มข ส่วนรถแท็กซี่หมวด ทว และหมวด มฉ จะทยอยครบอายุการใช้งานภายในปีนี้ ขอให้ผู้ประกอบการและพนักงานขับรถตระหนักถึงการให้บริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร
ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ หากพบรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือการลักลอบให้บริการผิดกฎหมายทั้งรถแท็กซี่หมดอายุการใช้งาน รถจักรยานยนต์ป้ายดำ แนะนำหลีกเลี่ยงการใช้บริการและแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก หรือทางสายด่วน 1584 เพื่อเป็นการตัดตอนกลุ่มคนที่มาฉกฉวยและเอาเปรียบผู้ใช้บริการ ก็ได้แต่หวังว่าการให้บริการที่ไม่มีมาตรฐานจากรถสาธารณะทั้งหลายจะหมดไปไม่มากก็น้อย.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |