วิจารณ์กระหึ่ม! วัดศรีชุมฟ้องกรมศิลป์เรียก 50 ล้าน ทวงคืนมรดกโลก “พระอจนะ” เผยร้องศาลไต่สวนฉุกเฉินให้มีคำสั่งหยุดเก็บค่าบัตรเข้าชมโบราณสถาน ปลายเมษายนนี้
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วัดศรีชุม หมู่ 10 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกเงินจำนวน 50 ล้านบาท พร้อมทวงคืนที่ดินบริเวณที่ตั้งมณฑป “พระอจนะ” ตำนานพระพุทธรูปพูดได้ ซึ่งเป็นมรดกโลก จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (จำเลยที่ 1) , สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย (จำเลยที่ 2) และกรมศิลปากร (จำเลยที่ 3) จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความถูกต้องเหมาะสม และทำได้หรือไม่ อีกทั้งทำให้เกิดความสงสัยในเจตนาของการฟ้องร้องครั้งนี้ด้วยนั้น
     ล่าสุด พระครูสังฆรักษ์เกรียงไกร สุภาทโร เจ้าอาวาสวัดศรีชุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย และการติดตามเอาที่ดินคืนจากกรมศิลปากรในครั้งนี้ เป็นเพราะข้อขัดแย้งที่มีมานานไม่ได้รับการแก้ปัญหา จึงทำให้ทางวัดต้องหันหน้าไปพึ่งอำนาจศาลแทน เนื่องจากวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1900 แต่หลังจากที่กรมศิลป์ได้เข้ามาดูแล ก็มีการล้อมรั้วลวดหนาม ก่อนสร้างรั้วกั้นถาวรในปัจจุบัน แยกเขตสังฆาวาสและเขตโบราณสถานวัด ถือเป็นการปิดกั้นสิทธิของวัดที่เป็นเจ้าของที่ดิน
     นอกจากนี้ยังมีการเก็บค่าเข้าชมโบราณสถานวัดศรีชุม ชาวพุทธที่จะเข้าไปกราบไหว้ขอพรพระอจนะ ถ้าเป็นคนไทยต้องซื้อบัตรราคา 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้นับถือพระพุทธศาสนา การที่ต้องซื้อบัตรเพื่อมากราบพระนั้น ไม่มีธรรมเนียมที่ใดกระทำกัน ดังนั้นคนไทย ชาวพุทธ จึงไม่ควรถูกจำกัดสิทธิ์ในการเข้าไปกราบไหว้พระ ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
     พระครูสังฆรักษ์เกรียงไกร กล่าวว่า ประเด็นที่ว่าทางวัดฟ้องทวงคืนเงินจำนวน 50 ล้านบาท ต้องการจะเอาเงินไปทำอะไรนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นความจำเป็นที่คดีแพ่งนั้น ต้องประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งทางวัดได้ประเมินว่ากรมศิลปากรได้มีการจัดเก็บค่าเข้าชมโบราณสถานวัดศรีชุมไปโดยมิชอบ ตลอดเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา จึงอยากให้ชี้แจงว่าเงินเหล่านั้นนำไปใช้อะไร ถ้ามีหลักฐานชี้แจงได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทางวัดไม่ได้ต้องการเงิน เพียงแต่ต้องการความชัดเจนและถูกต้อง
     “โดยสรุปก็คือ ทางวัดฟ้องกรมศิลป์เพราะต้องการให้มีการยกเลิกเก็บเงินค่าเข้าชมโบราณสถานวัดศรีชุมตลอดไป เพื่อให้ชาวพุทธได้เข้ากราบไหว้พระอจนะอย่างสะดวก และให้กรมศิลป์ชี้แจงหลักฐานการใช้จ่ายเงิน 50 ล้านบาท รวมทั้งต้องการให้ศาลชี้ชัดว่าสิทธิในการครอบครองที่ดินบริเวณที่ตั้งมณฑปพระอจนะ เป็นของทางวัดศรีชุมหรือของกรมศิลป์ ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ยินดีปฏิบัติตาม” เจ้าอาวาสวัดศรีชุมกล่าว และว่า ในวันที่ 23 เมษายน 2561 จะมีการนัดไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอให้เปิดสะพานที่ปิดกั้นระหว่างวัดกับเขตโบราณสถาน พร้อมขอให้มีการหยุดเก็บเงินค่าบัตรผ่านเข้าชมโบราณสถานวัดศรีชุมอีกด้วย