ฝุ่นละอองท่วมกรุง 6จุดเกินมาตรฐาน


เพิ่มเพื่อน    

    สถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ ยังอยู่ในอันตราย กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดพบเกินค่าทั้ง 6 สถานี เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ส่วนผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์และเด็กเล็กให้สวมหน้ากากขณะออกนอกอาคาร
    กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2561 เวลา 08.00 น. ตรวจวัดได้ระหว่าง 64-79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 6 สถานีได้แก่ 1.เขตบางนา 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 2.เขตวังทองหลาง 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 3.ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 4.ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 5.ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 6.ริมถนนพญาไท เขตราชเทวี 64 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกสถานี ทั้งนี้ เกณฑ์ที่อยู่ในมาตรฐานคือ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
    ข้อมูลยังบ่งชี้ด้วยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม สถานการณ์ในวันนี้ซึ่งถือเป็นต้นสัปดาห์ของการทำงานค่า PM2.5 นั้นพุ่งสูงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับการที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ กทม. ในวันจันทร์ มีเมฆเป็นส่วนมาก ความชื้นร้อยละ 84 ลบสงบ ลักษณะเช่นนี้อาจทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง
    ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนด้วยว่า ประชาชนทั่วไปให้ลดหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ส่วนผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ควรลดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงอย่างหนักกลางแจ้ง เช่น ออกกำลังกาย หากต้องออกนอกอาคารต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน เช่น N95 เป็นต้น 
    ขณะที่ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคาร หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน เช่น N95 เป็นต้น และให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น หากมีอาการหายใจลำบาก หายใจถี่แน่นหน้าอก ให้รีบปรึกษาแพทย์
    ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐ กรมควบคุมมลพิษระบุว่า ได้มีการตรวจสอบ ตรวจจับและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษอย่างเข้มงวด มีการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนสถานการณ์มลพิษและผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงลดฝุ่นละอองที่สะสม เช่น ดำเนินการล้างถนน ส่วนในภาคประชาชนได้มีการขอความร่วมมือให้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ปล่อยควันดำ, งดการเผาขยะ ใบไม้ กิ่งไม้, ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และขอความร่วมมืองดการจอดรถริมทางในช่วงที่การจราจรติดขัด
    ต่อมาในช่วงเวลา 12.00 น. คพ.ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 อีกครั้ง โดยพบว่ามีค่าเพิ่มละอองเพิ่มสูงขึ้นทุกสถานี โดยเขตบางนาวัดได้ 76 มคก./ลบ.ม., เขตวังทองหลาง 75 มคก./ลบ.ม., ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน 77 มคก./ลบม., ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี 86 มคก./ลบ.ม., ริมถนนลาดพร้าว เขตวังหลาง 73 มคก./ลบ.ม. และริมถนนพญาไท เขตราชเทวี 69 มคก./ลบ.ม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกสถานี
    ยังมีรายงานในช่วงเวลา 15.00 น. ระบุว่าสามารถตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่าง 71-88 มคก./ลบ.ม. เกินเกณฑ์มาตรฐาน 6 สถานี ได้แก่ 1.เขตบางนา 2.เขตวังทองหลาง 3.ริมถนนพระราม 4 4.ริมถนนอินทรพิทักษ์ 5.ริมถนนลาดพร้าว และ 6.ริมถนนพญาไท โดยมีแนวโน้มสูงขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"