ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ตั้งแต่เป็นนายกฯ สมัย 2 อารมณ์เกรี้ยวกราดน้อยลงเยอะ แม้บางครั้งยังมีหลุดบ้าง แต่ก็พยายามหยอดจ๊ะๆ จ๋าๆ ลดดีกรีความร้อนแรงลง เปิดฉากอภิปรายงบประมาณวันแรก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเข้าสภา มีหยอกสื่อให้ใจร่มๆ ก่อนโซโล่ยาว 2 ชั่วโมง แถลงรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท "อยากฝากให้ทุกคนช่วยกรุณาศึกษารายละเอียด ท่านศึกษามาอยู่แล้ว แต่อย่าศึกษาเฉพาะประเด็นที่จะสร้างความไม่เข้าใจต่อกัน ถ้าถามมาอธิบายมา ผมก็รับฟังและคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็รับฟัง และยังมีการพิจารณาวาระสองต่อไป วันนี้อยู่ในวาระแรกเท่านั้นเอง ทั้งนี้ ขอร้องว่าอย่าไปดูเฉพาะยอดวงเงินของกระทรวงเขา จะต้องดูรายละเอียดข้างในว่ามีการทำงานอย่างไร ซึ่งตัวเลขทั้งหมดคือตัวเลข 3.2 ล้านล้านบาท ที่มีการแบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ งบกลางและงบต่างๆ ไปดูว่างบกระทรวงศึกษาฯ ทำไมถึงน้อยลง ก็เพราะเอาไปเพิ่มให้กับกระทรวงการอุดมศึกษาฯแล้วจะมาบอกว่างบการศึกษาลดลงได้อย่างไร ไปดูงบของกระทรวงกลาโหม ทำอย่างไร เขาซื้ออะไรแค่ไหน ตรงไหน" บิ๊กตู่ ตบท้ายขอเสียงสมาชิกโหวตสนับสนุนผ่านร่างกฎหมายในวาระแรก ก่อนจบยังแจกมุกกระจาย เช็กเรตติ้งนิดนึง "ดีมั้ยครับ ดีนะตรงกลางพอได้ไหม ทางซ้ายโอเคนะครับ เราคนไทยด้วยกัน โครงการทั้งหมดก็ลงพื้นที่ของท่านไม่มีที่ไม่ลงไป" งานนี้รู้ตัวดีว่าโดนฝ่ายค้านล็อกเป้าไว้แล้ว ทั้ง "งบกลาง" ภายใต้การดูแลของนายกฯ และ "งบกระทรวงกลาโหม" ในฐานะ รมว.กลาโหม

                ๐ กลายเป็นตัวพ่อป่วนสภาไปซะแล้ว "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขึ้นอภิปรายทีไร พร้อมมีเรื่องตลอด เปิดศึกรอบด้าน คู่ปรับหมายเลข 1 "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" รองๆ ลงมา ก็อย่างประธานสภาฯ "ชวน หลีกภัย" ประธานวุฒิสภา "พรเพชร วิชิตชลชัย" ล่าสุดก็ถึงคิว "ครูแก้ว" ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 อดีต ผบ.ตร.ที่ได้โควตาอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ยังติดหล่มปมถวายสัตย์ฯ ลุกขึ้นพูดเรื่องเดิมๆ ยกทฤษฎีผลไม้พิษ อ้างว่าทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พูดวกไปวนมาหลายนาที รอง ปธ.ศุภชัยซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเลยต้องเบรกให้เข้าประเด็นเรื่องงบประมาณ กลับไปกระตุ้นต่อม สวนประธานทันทีว่าเรียนกฎหมายมาหรือเปล่า แถมยังใช้คำพูดถากถางตามมาอีก เรียกว่าถ้อยคำที่ออกจากปากห่างไกลกับคำว่ามารยาทเหลือเกิน ทั้งที่เป็นกฎกติกาสากลที่สมาชิกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายควรให้ความเคารพผู้ที่ทำหน้าที่บนบัลลังก์ในฐานะประธานในที่ประชุม ไม่ใช่อวดอ้างว่ารู้กฎหมายดี  แต่ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม ข้อบังคับสภา แค่ลมผ่านหู ขยันขู่ฟ่อฟ้องร้องท่าเดียว

                ๐ วันศุกร์นี้ 18 ตุลาคม ทุกฝ่ายจับตาไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพราะจะมีการเปิดห้องไต่สวนคำร้องคดีถือหุ้นสื่อของ "ไพร่หมื่นล้าน" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่จะมีการไต่สวนพยานสิบปาก โดยยังไม่มีความแน่ชัดว่าพยานทั้งสิบปากดังกล่าวประกอบด้วยใครบ้าง และคาดหมายกันว่า ศาลอาจจะนัดอ่านคำตัดสินคดีทันทีหลังการไต่สวนสิ้นสุดลงที่คาดว่าอาจเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ตามมาย่อมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย เรื่องนี้หากไปดูประกาศข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 ที่ออกมาเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาเขียนไว้ว่า ห้ามวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล โดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำ หรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย จนคนบอกกันว่า ศาลรัฐธรรมนูญวิจารณ์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม “จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาล รธน.” ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ไทยโพสต์ฉบับพิเศษ ที่จะตีพิมพ์วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม" ในโอกาสครบรอบ 23 ปี ก้าวสู่ปีที่ 24 ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ไว้ถึงเรื่องนี้ว่า “ข้อกำหนดบอกว่าไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ก็แปลว่า หากวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต ก็ทำได้ และก็ทำกันทั่วโลก ผมก็ทำมาตลอด ผมก็วิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาทั้งศาลปกครอง ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็วิพากษ์วิจารณ์ แต่ผมทำโดยสุจริต ผมไม่ได้ทำไปเพื่อให้ร้าย หรือทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อศาล เพราะเราจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อศาลไม่ได้ เพราะจะทำให้ทำหน้าที่ไม่ได้ ประโยชน์ที่จะเคยเกิดกับประชาชนจะเสียหมด ต้องวิพากษ์วิจารณ์ในเชิง constructive ไม่ใช่ destructive การวิพากษ์วิจารณ์มีสองแนว คือ วิพากษ์วิจารณ์เพื่อชี้จุดอ่อน ข้อด้อย ข้อผิดพลาดเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนา หรือ constructive ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์แบบชี้นำ เคยเห็นไหม เช่นบอกว่า ศาลแกงการู คำออสเตรเลีย แบบนี้ไม่ได้ เขาไม่ยอมหรอก หรือมาบอก ”ไอ้ศาล อยุติธรรม” “ไอ้ศาลรับใบสั่ง” “ศาลหน้าด้าน” แบบนี้ วิพากษ์วิจารณ์หรือ นี่คือคำด่า คำดูหมิ่น ..." โปรดติดตามอ่านได้ในวันจันทร์นี้.

ลี้คิมฮวง