17 ต.ค. 2562 น.ส. วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจภายในปี 2565 ได้เตรียมงบประมาณไว้ 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนา 17 โครงการ ได้แก่ 1. การเข้าไปสร้างมิกซ์ยูสใน 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา, ศรีราชาชลบุรี และจันทบุรี 2. สร้างเมืองให้เกิดความเป็นเมืองใหม่ในเซ็นทรัลพลาซา พระราม2 และรามอินทรา 3. การปรับโฉมศูนย์การค้าอีก 12 สาขาทั่วประเทศ เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เข้าไปลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะประกอบไปด้วยศูนย์การค้า แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักอาศัยและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เนื่องจากมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่แต่ละปีจะมีนักเดินทางมาเยือน 8.4 ล้านคน รวมถึงยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีส่วนต่อขยายจากกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำนักแห่งหนึ่ง และการลงทุนเกี่ยวกับที่พักอาศัยช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมามีมากถึง 50 โครงการ หรือประมาณ 5,800 ยูนิต ขายไปแล้ว 61% ส่งผลให้มีการขยายตัวทางเศรษฐีติดอันดับ 5 ของประเทศ บริษัทต้องการส่งเสริมความเป็นเมืองมรดกโลก โดยการนำเกียวโตโมเดลมาเปิดต้นแบบการผลักดันโครงการ และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2564 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง 85% และอีก 15% เป็นต่างชาติ
ส่วนโครงการเซ็นทรัลศรีราชา จะอยู่ภายใต้แนวคิด ลิฟวิ่ง กรีน อิน สมาร์ท ซิตี้ ออฟ อีอีซี เซ็นเตอร์ ( Living Green in Smart City of EEC Center) ประกอบด้วย ศูนย์การค้า คอนเวนชั่นฮอลล์ เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ออฟฟิศ และโรงแรม รวมถึงยังจะนำโมเดลเดียวกับเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ไปนอกเขตพื้นที่ครั้งแรก โดยบริษัทมองว่าพื้นที่แห่งนี้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเป็นอันดับ2 ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ ทั้งยังมีโครงการอีอีซีที่ภาครัฐกำลังพยายามผลักดัน ซึ่งจะสร้างการลงทุนให้เติบโตอีกมากในอนาคต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส2 ปี 2564
ขณะที่โครงการมิกซ์ยูสหรือเซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี จะประกอบไปด้วยศูนย์การค้า ตลาดท้องถิ่น คอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย โดยจังหวัดแห่งนี้เป็นเมืองที่กำลังถูกผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรชาติ รวมถึงยังเป็นเมืองของผลไม้เมืองร้อน เป็นศูนย์กลางการค้าพลอยและอัญมณีด้วยมูลค่ามากกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี คาดว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2565
น.ส. วัลยา กล่าวว่า การรีดีเวลลอปเม้นท์ของเซ็นทรัลพลาซา พระราม2 จะปั้นให้เป็นรีจินอลมอล์ของกรุงเทพฯทางใต้ จากก่อนหน้ามีรีจินอลมอลล์กระจายตัวในกรุงเทพฯทางเหนือ คือเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซา บางนา กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และเซ็นทรัลเวิลด์พลาซา ปิ่นเกล้า เป็นกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก โดยศูนย์การค้าแห่งนี้เปิดบริการมา 15-16 ปีแล้ว และบริเวณดังกล่าวมีการขยายตัวความเป็นเมืองมากขึ้นจากในอดีต บริษัทเตรียมปรับปรุงศูนย์ใหม่ทั้งหมด ทั้งด้านดีไซน์และเพิ่มร้านค้าใหม่ๆ รวมถึงพื้นที่สีเขียวอย่างเซ็นทรัล เพลิน พาร์ค ขนาด 37 ไร่ คาดว่าจะเปิดให้บริการไตรมาส 1 ปี 2565
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมปรับโฉมครั้งใหญ่รอบ 26 ปีให้กับเซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา ภายใต้แนวคิด ลิฟวิ่ง แลบ ออฟ รามอินทรา ( Living Lab of Ramindra) โดยพื้นที่แห่งนี้นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก ทั้งความหนาแน่นของประชากร การคมนาคมที่จะมีโมโนเรลสายสีชมพู รวมถึงที่พักอาศัย คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2564
อย่างไรก็ดี บริษัทยังเตรียมปรับปรุงและขยายพื้นที่อีก 12 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่แอร์พอร์ต, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัล มารีนา พัทยา, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย และเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ อีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |