แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ กล่าวชมนักเตะสิงโตคำราม ยืนหยัดต่อสู้กับกองเชียร์เหยียดผิวในกีฬาฟุตบอล หลังไล่ถล่ม บัลแกเรีย ย่อยยับ 6-0 ที่กรุงโซเฟีย ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันจันทร์
ในขณะที่ อังกฤษ ดาหน้าถล่มเอาชนะ เจ้าบ้าน บัลแกเรีย ได้สบายๆ มีประตูสวยๆให้เห็นอยู่หลายลุก แต่แมทช์นี้กลังด่างพร้อยด้วยกองเชียร์ที่มีพฤติกรรมเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ ที่ส่งเสียงสบถด่าพุ่งเป้าเล่นงานนักเตะสิงโตคำรามบางคน โดยเฉพาะ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกผิวสีจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ไทโรน มิง ที่เพิ่งประเดิมเกมแรกกับทีมชาติ
เซาธ์เกต ให้สัมภาษณ์หลังเกม กล่าวชมทีมงานของผู้ตัดสินทั้งหมดภายหลังจากที่ผู้ตัดสิน อิวาน เบเบ็ค ตัดสินใจหยุดเกมไป 2 ครั้งในครึ่งเวลาแรก ตามกฎยูฟ่าในการรับมือกับสภานการณ์เหยียดผิว
"ผมต้องบอกว่าทาเงจ้าหน้าที่ตัดสินพยายามทุกอย่างแล้ว เรารายงานทุกสิ่งในทันทีเมื่อเราได้ยินสิ่งเหล่านั้น" บอสทีมชาติอังกฤษ กล่าว
"เรามีการสื่อสารกันอยู่ตลอดวเลากับผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 4 และผู้ตัดสินในสนาม และผมยังสื่อสารกับผู้เล่นหลายๆคนตลอดในช่วงครึ่งเวลาแรก และอย่างละเอียดอีกครั้งตอนพักครึ่ง"
"เรารู้ว่านั่นเป็นสถานการณ์ที่ยอมรับไม่ได้ และผมคิดว่าเราจัดการตอบโต้ได้ 2 อย่าง อย่างแรกโดยการเอาชนะเกมนี้ได้ นอกจากนั้นแล้วยังทำให้เกิดความตื่นตัวเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้กับทุกคน เกมนี้มีการหยุดเกมไป 2 ครั้ง และผมรู้ว่าสำหรับบางคนก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี"
ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ เวลานี้ ได้เดินทางกลับสโมสรของตัวเองเรียบร้อยแล้ว หลังจากช่วยให้ทีมเตรียมลอยลำเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลยูโร 2020 ด้วยเกมนัดต่อไป ที่จะเจอกับ มอนเตเนโกร ในเดือน พฤศจิกายน นี้ ซึ่งพวกเขาขอเพียงแค่แต้มเดียวก็ตีตั๋วรอทัวร์นาเมนท์ใหญ่ในซัมเมอร์หน้าได้ทันที
เกมที่ โซเฟีย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผานมา อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 7 จาก มาร์คัส แรชฟอร์โ จากนั้น รอสส บาร์คลี่ย์ ซัดรวดเดียว 2 ประตู นาทีที่ 20, 32 ต่อด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 45+4 และ 69 ก่อน แฮร์รี่ เคน ปิดท้าย นาทีที่ 85
ทางด้าน คราซิเมียร์ บาลาคอฟ เฮ้ดโค้ช บัลแกเรีย หลังเกม อ้างว่าเขาไม่ได้ยินหรือพบเห็นการเหยียดผิวระหว่างเกมกลุ่ม เอ นัดนี้
"ผมมีสมาธิอยู่แต่กับเกมการแข่งขัน"
"ผมไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นระหว่างเกม ผมได้คุยกับสื่อจากอังกฤษที่ด้านล่างแล้ว ผมบอกพวกเขาว่าถ้ามีหลักฐานก็เอามาพิสูจน์ว่าจริง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเราก็รู้สึกเสียใจและต้องขอโทษด้วย แต่เรื่องนี้ต้องมาพิสูจน์ให้เห็นก่อน"
นักเตะหนึ่งคนที่ดูเหมือนจะเป็นพยานที่ดีได้เกี่ยวกับพฤติกรรมเหยียดผิวของแฟนบอล คือ กัปตันทีมบัลแกเรีย อิเวลิน โปปอฟ ที่ แรชฟอร์ด ถึงกับเข้าไปขอบคุณเขาทางทวิตเตอร์ ที่ช่วยปรามแฟนบอลตอนพักครึ่ง
แต่ บาลาคอฟ เชื่อว่า การสนทนาระหว่างกัปตันทีมกับแฟนบอลนั้นน่าเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของ บัลแกเรีย มากกว่า เรื่องเหยียดผิว
นอกจากประเด็นนี้แล้ว เกมนัดนี้ ยังมีแนวโน้มว่าจะสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดย นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย ออกมาเรียกร้องให้ ประธานเอฟเอของตัวเอง ลาออกหลังจากมีภาพแฟนบอลทำสัญลักษณ์นาซี และแสดงพฤติกรรมเหยียดผิวในแมทช์นี้ ขณะที่ผู้จัดการทีมชาติก็ดูจะพยายามโบ้ยไปที่กองเชียร์ทีมสิงโตคำราม
โดย นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย บอยโก บอริซอฟ บอกว่าทางรัฐบาล จะหยุดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับทางสมาคมฟุตบอลบัลแกเรีย ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงการสนับสนุนด้านการเงินทุกอย่าง จนกว่า บอริสลาฟ มิไฮลอฟ จะยอมลงจากตำแหน่ง