อภิมหาเศรษฐีฮ่องกง ลี กา-ชิงเคยถูกเรียกว่าเป็น "ซูเปอร์แมน" ของเกาะแห่งนี้ เพราะสามารถสร้างอาณาจักรธุรกิจระดับโลกจากเกาะเล็กๆ แห่งนี้มายาวนาน
วันนี้ท่ามกลางความวุ่นวายของการประท้วง เขาถูกตราหน้าโดยนักธุรกิจเชียร์ปักกิ่งว่าเป็น "หัวหน้าแมลงสาบ"
เพราะลีซื้อเนื้อที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์จีนเมื่อเร็วๆ นี้เรียกร้องให้เกิดความสงบโดยเร็ว
นายลีเสนอให้ทางการฮ่องกงเห็นใจคนรุ่นใหม่ที่ร่วมประท้วง และควรจะฟังเสียงของพวกเขาและเธอด้วยการ "เปิดพื้นที่" และ "หาทางออก" ให้เยาวชนที่มีความอึดอัดคับข้องใจกับปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของฮ่องกง
เท่านั้นแหละ มหาเศรษฐีวัย 91 คนนี้ก็ถูกตั้งข้อสังเกตจากปักกิ่งว่าไม่จงรักภักดีต่อผู้นำจีน และมีใจฝักใฝ่กับผู้ประท้วงหรืออย่างไร
บทความในเว็บไซต์ทางการของจีนบทหนึ่งกล่าวหาว่าลีแสดงท่าทีโอนอ่อนตามผู้ประท้วง และดูเหมือนจะ "ให้ท้ายการก่ออาชญากรรม" ในระหว่างการชุมนุม
ลีออกแถลงการณ์ว่านั่นเป็นการตีความผิด เพราะเจตนาของเขาไม่ใช่เช่นนั้น เขาเพียงเป็นห่วงอนาคตของฮ่องกงและต้องการเห็นการร่วมกันหาทางออกอย่างสันติเท่านั้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางการจีนเริ่มจะมีความสงสัยคลางแคลงในจุดยืนของลี
คำว่า "หัวหน้าแมลงสาบ" ในภาษากวางตุ้งนั้นเป็นการดูถูกเหยียดหยาม เป็นการเปรียบเปรยว่าผู้ประท้วงทั้งหลายเป็นแมลงสาบที่คลานยั้วเยี้ยอย่างน่าขยะแขยง ขณะที่นายลีต้องการจะทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊งที่จะท้าทายอำนาจรัฐบาลกลางที่ปักกิ่ง
ผมไม่เชื่อว่านายลีมีเจตนาจะท้าทายสี จิ้นผิง เพราะความจริงก่อนหน้านี้เหล่าบรรดานักธุรกิจยักษ์ ๆ ของฮ่องกงก็พยายามตีสนิทกับปักกิ่งมาตลอด
นายลีอาจจะมีบารมีมากกว่าเศรษฐีคนอื่นๆ ในฮ่องกงเพราะมีสถานะเป็นผู้อาวุโส และผู้นำจีนก็เคยพยายามจะเชิญชวนให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จีนขยับเข้ามามีบารมีในฮ่องกงมากขึ้น
นักวิเคราะห์ที่สนับสนุนปักกิ่งอ้างว่านายลีไม่ค่อยจะมีความจงรักภักดีต่อปักกิ่งนัก เพราะได้พยายามจะขยายธุรกิจของตนไปอยู่นอกฮ่องกงมาระยะหนึ่งแล้ว จึงไม่มีความรู้สึกผูกพันกับจีนมากนัก
สื่อมวลชนทางการของจีนได้วิพากษ์อีกบางบริษัท ที่พวกเขามองว่าไม่ออกมาประณามการประท้วงอย่างเต็มรูปแบบ
เช่นสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก และบริษัทแม่ Swire Group รวมถึงธนาคารบางแห่ง เช่น HSBC และ BNP Paribas ก็โดนหางเลขไปด้วย
นักธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์บางคนถูกวิพากษ์ว่า มีส่วนทำให้คนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางไม่สามารถจะหาซื้อที่พักอาศัยในราคาสมเหตุสมผลได้ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนฮ่องกงที่แฝงตัวมายาวนาน จนระเบิดเป็นการประท้วงที่ลามไปสู่ความรุนแรง
หลังจากถูกโจมตีจากปักกิ่ง นายลีก็ประกาศมอบเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงค่อนข้างรุนแรง
ธุรกิจระดับกลางและเล็กอาจจะเจ๊งไปต่อหน้าต่อตา หลังจากการประท้วงทำให้ฮ่องกงกลายเป็นอัมพาต แถลงการณ์ของมูลนิธิการกุศลของนายลีบอกว่า เขาหวังว่าการบริจาคจะสามารถช่วยเหลือและเยียวยาความเสียหายที่เกิดกับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
"เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว นอกจากนี้เศรษฐกิจของฮ่องกงกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" มูลนิธิของนายลีกล่าวในแถลงการณ์
การบริจาคของนายลีมีขึ้นเพื่อเสริมมาตรการรัฐบาล ที่เพิ่งประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะจัดสรรเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็ก
หากดูจากภาพรวมแล้ว รัฐบาลได้อัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยหวังจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยที่กำลังจะกลายเป็นความจริงที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
สถานภาพของนายลีจึงค่อนข้างเปราะบาง แต่หากสี จิ้นผิงต้องการจะกู้สถานการณ์ในฮ่องกงให้กลับสู่สภาพปกติในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้นำจีนก็คงจะต้องวิพากษ์ผู้นำเอกชนในฮ่องกงน้อยลง และหันมาขอความร่วมมือและเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นต่างมากขึ้น
หาไม่แล้ว วิกฤติฮ่องกงจะยืดเยื้อต่อไปอีกนาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |