ว่าด้วยเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องปากท้อง ปัญหาแรงงาน ปัญหาของเกษตรกร และปัญหาด้านอื่นๆ อีกมากมาย ที่ดูเหมือนเวลานี้จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงต้นรัฐบาล "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เข้ามาทำงานในฐานะรัฐบาลเลือกตั้ง
ซึ่งแน่นอนว่าการบริหารจัดการมวลชนในรัฐบาลปัจจุบัน ย่อมใช้วิธีการที่แตกต่างจาก 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรัฐบาลทหาร หรือรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพราะด้วยความที่เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลผสมจากหลากหลายพรรคการเมือง มีนักการเมืองจากขั้วต่างๆ เข้ามาเสริมทัพ ครม.ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ "บิ๊กตู่" ได้มือดีที่มีประสบการณ์ คุ้นเคยกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เข้ามาช่วยสะสางปัญหาได้อย่างลงตัว และสามารถเข้าถึงประชาชนได้ดี
ทำให้เวลานี้ไม่มีม็อบรุนแรงลงถนนขับไล่บิ๊กตู่ข้างทำเนียบฯ จะมีบ้างก็แต่การเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนเท่านั้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ต้องถึงมือบิ๊กตู่ลงมาเคลียร์ด้วยตัวเอง เพราะบิ๊กตู่ได้จัดทัพ วางคนที่สามารถเคลียร์ความเดือดร้อนของชาวบ้านไว้หมดแล้ว
อย่างปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่ชาวบ้านรวมตัวกันมาปักหลักชุมนุม ทวงสัญญากันถึง กทม.กันอยู่หลายวัน ล่าสุด "นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงมาเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง นัดถกคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นนัดแรก หลังตั้งคณะกรรมการกองทุนชุดใหม่ โดย "บิ๊กตู่" มอบหมายให้เป็นประธาน พร้อมดึงตัวแทนภาคเกษตรกรร่วมวงหารือด้วย
โดยมีการอนุมัติกรอบวงเงิน สำหรับดำเนินงานกองทุนฟื้นฟู 2,463 ล้านบาท ในวงเงินปี 2563 พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในเรื่องหนี้สิน และยังรับข้อเสนอ 7 ข้อ ตามคำเรียกร้องของเกษตรกรที่มาชุมนุม จนเป็นที่พอใจ เกษตรกรส่งตัวแทนมามอบดอกไม้ขอบคุณกันถึงทำเนียบรัฐบาล
และอีกคนที่เข้าถึงมวลชนจนได้ใจ กระทั่ง "บิ๊กตู่" มอบหมายให้เป็นผู้ทำหน้าที่เจรจาแก้ปัญหาแทนนายกรัฐมนตรี คือ "นายเทวัญ ลิปตพัลลภ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนนี้ลงมาพบปะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาเยือนทำเนียบฯ ด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ
ทั้งกลุ่มสลัม 4 ภาค และกลุ่มสมัชชาคนจน ที่มาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติดำเนินคดีที่ดินกับผู้ไร้ที่ดินทำกินและไร้ที่อยู่อาศัย และยังเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทุนยุติธรรม เพื่อให้คนจนได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม
ซึ่งนายเทวัญได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม โดยจะนำปัญหาความเดือดร้อนทั้งหมดประสานไปยังแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และมีการนัดประชุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมในประเด็นความเดือดร้อนต่างๆ เป็นระยะอีกด้วย
ส่วนมือดีอีกคนที่เข้ามาเสริมทัพเคลียร์ม็อบให้บิ๊กตู่ คือ "แรมโบ้อีสาน" นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายนี้เก๋าประสบการณ์ มาช่วยงานที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลอีกแรง ทั้งออกหน้างานเป็นตัวแทนรัฐบาลรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน นั่งหัวโต๊ะถกแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มต่างๆ จนงานมีความคืบหน้าไปมาก มวลชนมีความพึงพอใจ
รวมถึงปัญหาร้อนๆ ตอนนี้ กับปม 3 สารพิษทางการเกษตร พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ที่มี "น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไล่รุกฆาตแก้ปัญหาให้ประชาชนตั้งแต่ต้น ท่ามกลางแรงกดดันที่มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม รวมถึงมี “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ลุยแก้ปัญหานี้ด้วย ดังนั้นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งหมดจะผ่านกระบวนการแก้ไขจากฝ่ายต่างๆ ที่บิ๊กตู่วางไว้เป็นอย่างดี
ทำให้เวลานี้การเดินงานของ “รัฐบาล” เพื่อดูแลทุกข์สุข และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังคงไปได้ด้วยดี ส่วนวันข้างหน้าจะมีเหตุใดเข้ามาทำให้สะดุดหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |