จะบอกว่า คสช.ไม่วางแผนอนาคตทางการเมือง ก็คงไม่ใช่
ดูจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๕๓/๒๕๖๐ อาศัยอำนาจตามมาตรา ๔๔ ขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมตามกรอบเวลาในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ แล้ว....
มันมีอะไรในกอไผ่
มาดูกัน....
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔๐ มาตรา ๑๔๑ และมาตรา ๑๔๒ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"มาตรา ๑๔๐ ให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ และยังดำรงอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๔ เป็นสมาชิก และยังคงเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นต่อไป และให้สมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๔ และประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นต่อไปมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อหัวหน้าพรรคการเมืองนั้น พร้อมทั้งแสดงหลักฐานการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๔ และชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑ เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว สมาชิกผู้ใดมิได้มีหนังสือแจ้งยืนยันการเป็นสมาชิก ให้เป็นอันพ้นจากสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาดังกล่าว"
ข้อ ๕ เพื่อให้การจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่สามารถดำเนินการทางธุรการและมีโอกาสเตรียมการเพื่อเข้าสู่ช่วงเวลาการทำกิจกรรมทางการเมืองไปพร้อมกับพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก่อนแล้ว ให้ผู้ที่ประสงค์จะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ดำเนินการตามหมวด ๑ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ ได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๑ แต่การประชุมเพื่อยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองตามมาตรา ๑๐ ต้องได้รับอนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติและให้ดำเนินกิจกรรมได้เท่าที่ได้รับอนุญาตหรือตามเงื่อนไขที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนด
ความโดยสรุปคือ ข้อ ๑ ให้สมาชิกพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ไปรายงานตัวต่อพรรค พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรค ๑๐๐ บาท ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑
ข้อ ๕ พรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ ให้ทำได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๑ จะประชุมเมื่อไหร่ให้ คสช.ไฟเขียวก่อน
เมื่อพิจารณาจากเงื่อนเวลา พรรคเก่าได้แต่ปาดเหงื่อ!
ข้อมูลปี ๒๕๕๘ พรรคประชาธิปัตย์ มีสมาชิกพรรค ๒,๘๙๖,๑๐๙ คน
พรรคมหาชน ๑,๑๘๑,๐๒๒ คน
พรรคภูมิใจไทย ๑๕๓,๐๙๕ คน
พรรคเพื่อไทย ๑๓๔,๘๙๖ คน
คงเห็นนะครับว่าทำไมอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนถึงเดือดดาลกับคำสั่งตาม ม.๔๔ ที่ว่านี้
ประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ปวดหัวที่สุด น่าจะเป็นกรณีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทำได้ตั้งแต่ ๑ มีนาคม นั่นหมายความว่า พรรคทหาร พรรค คสช. พรรคประชารัฐ ตามแต่จะเรียก จะปรากฏขึ้นชัดเจน
และหากพรรคการเมืองนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก "กำนันสุเทพ" จะเกิดอะไรขึ้น?
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะไปรายงานตัว จ่ายค่าบำรุงพรรคหลังวันที่ ๑ เมษายนกันกี่คน
ก็รู้กันอยู่ว่าฐานของ คสช. กปปส. และประชาธิปัตย์ มันเป็นก้อนเดียวกัน
เกี่ยวดองหนองยุ่งกันทั้งหมด
ส่วนพรรคอื่นกระทบน้อยมาก
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเพื่อไทยไม่แหกปากตะโกนด่าประเด็นนี้กันมากนัก
ก็เป็นการบ้านสำหรับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชื่นชอบ "ลุงตู่" นับถือ "กำนัน" ไปคิดเอาว่า...
จะเลือกใคร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |