ก็ถูกของ "ปิยบุตร" นะ
รัฐธรรมนูญมาตรา ๑ แก้ไม่ได้
เพราะถูกบังคับโดยมาตรา ๒๕๕
"การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทํามิได้"
และมาตรา ๒๕๖ (๘)
ในกรณีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ หรือหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออํานาจของศาลหรือองค์กรอิสระ หรือเรื่องที่ทําให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติตามหน้าที่หรืออํานาจได้ ก่อนดําเนินการตาม (๗) ให้จัดให้มีการออกเสียงประชามติตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ดําเนินการตาม (๗) ต่อไป
แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะรู้กันอยู่แล้ว
สำหรับข้อวิตกกังวลเรื่องการแก้ไขมาตรา ๑ เปลี่ยนรูปแบบประเทศไทยจากรัฐบาลเป็นหลายรัฐ ไม่ใช่แค่เรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าแก้ไม่ได้
แต่เป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าแก้ไม่ได้ ก็ยังเอามาพูด ในทำนองท้าทายว่า ถ้าจะแก้ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร
สิ่งที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ และแนวร่วมไม่แสดงออกมาตรงๆ ต่างหาก คือที่สิ่งสร้างความกังวลว่าอาจไปไกลกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๑
หากอยากรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
ให้ย้อนกลับไปดูความเคลื่อนไหวของ แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ก่อนที่จะมาตั้งพรรคการเมือง
ตรงนั้นชัดเจนที่สุดว่า ลึกๆ แล้วคนกลุ่มนี้ต้องการอะไร
อยากให้ประเทศไทยมีการปกครองในลักษณะไหน
คำอธิบายของ "ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์" อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง ดูจะเป็นความจริงที่ตรงประเด็นที่สุด
"..........ปิยบุตรยังจะประดิษฐ์คำโดยเอาประวัติศาสตร์การเมืองยุโรปเมื่อ 500-600 ปีที่แล้วมา สมัยที่กษัตริย์หรือผู้ปกครองมีความศักดิ์สิทธิ์จากศาสนาหรือสิทธิอันชอบธรรม (Divine Right) มาเพื่ออะไร?
ทั้งที่ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาจนถึงทุกวันนี้ พระมหากษัตริย์ก็ไม่ได้มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองโดยตรงด้วยพระองค์เองอยู่แล้ว
ทุกวันนี้จะพิจารณางบประมาณ จะจัดซื้อจัดจ้าง จะทำนโยบายรถคันแรก จำนำข้าว บ้านเอื้ออาทร ชิมช้อปใช้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประกันราคาสินค้าเกษตร ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษและอื่นๆ
ทั้งหมดก็เป็นนโยบายที่ทำโดยนักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการเทคโนแครต (และการล็อบบี้ของกลุ่มทุนใหญ่) ผมก็ยังไม่เห็นว่าพระมหากษัตริย์จะลงมาควบคุมสั่งการอะไรเลย
โหวตก็โหวตกันในสภาตามหลักการเสียงข้างมาก จะผ่านกฎหมายก็โหวตกันในสภา จะผ่านงบประมาณก็โหวตในสภา
แล้วจะไปพูดพาดพิงเสมือนว่าพระมหากษัตริย์เป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินแล้วไม่มีใครกล้าคิดเห็นต่างเหมือนสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเพื่ออะไร อย่างไร?........"
ครับ....ธนาธร, ปิยบุตร, ชลิตา บัณฑุวงศ์ และใครๆ อีกหลายคนลองกลับไปไตร่ตรองดูว่า อุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศอยู่ตรงไหน
แต่ถ้ายังนับถือคนโกง ยังอยากรื้อคดีให้คนโกง ก็ป่วยการ
และในความเป็นจริง ไม่เคยได้ยิน ธนาธร, ปิยบุตร พูดถึงปัญหาคอร์รัปชันในรัฐบาล ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฝนตกขี้หมูไหลอย่างแท้จริง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |