เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ต.ค. 2562) ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เปิดการแถลงข่าวที่ จ.นครราชสีมาถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ทางรัฐบาลต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อขับเดินบ้านเมืองเดินหน้า โดยเฉพาะการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีพลเอกอภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง ว่า วันนี้ตนเองต้องขอสนับสนุนคำพูดของพล.อ.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในประเด็นการบรรยายหัวข้อเรื่อง แผ่นดินของเราในมุมมองสายตาฝ่ายด้านความมั่นคง พวกเราเป็นห่วงเป็นใยวันนี้สถานการณ์การเมืองต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชนได้ช่วยกันที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ 

แต่ยังมีนักการเมืองบางกลุ่มบางคนพยายามที่จะเล่นการเมืองในลักษณะที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยก มีหลายสถานการณ์ที่ได้ทำขึ้นมาในกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมไปประชุมที่ UN ได้จ้างชาวต่างชาติมายืนขับไล่ประท้วงนายกรัฐมนตรี และมีเรื่องการไปจ้างล็อบบี้ยิสในการที่จะเขียนวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาลไทย นี่เป็นการทำลายประเทศไทยตรงนี้เป็นการสร้างความขัดแย้ง ส่วนประเด็นของ ผบ.ทบ. การวิพากษ์วิจารณ์กรณีการบรรยายพิเศษนั้น ตนเห็นว่าการที่พล.อ.อภิรักษ์ฯ ผบ.ทบ.ออกมาเตือนเป็นเรื่องที่พล.อ.อภิรักษ์ฯปรารถนาดีต่อบ้านเมือง และปรารถนาที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขอย่างมั่นคง ตนเองไม่อยากเห็นพี่น้องนักการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดๆที่จะต้องมาจ้องทำลายบรรยากาศ

“ ผมเป็นห่วงที่สุดคือสองบรรยากาศการเมืองในขณะนี้ก็คือ ทางคุณธนาธรฯเองก็ดี หรือฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองก็ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณจาตุรนต์ ฉายแสง , คุณวัฒนา เมืองสุข , คุณอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด , คุณณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ แม้กระทั่งฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทยซึ่งร่วมมือกับพรรคอนาคตใหม่ ในการที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์และมาโจมตี สร้างความยุยงแตกแยกให้เกิดขึ้นในบรรยากาศของการเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะสิ่งที่เห็นชัดเจนว่า ประเทศจีนได้ออกมาตักเตือนนักการเมืองที่ไปเกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ฮ่องกง อย่างนี้เราเห็นว่านักการเมืองไทยไม่ควรไปก้าวก่าย ไม่ควรไปก้าวล่วงในประเทศอื่นเขาแล้วก็อย่าทำให้ภาพพจน์ของประเทศไทยเสียหาย แต่ว่าเราก็มองว่าเป็นการทำเฉพาะบุคคล ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น คุณธนาธรฯจะมีคิดมีแผนอะไรก็ต้องได้รับการดำเนินการตามขั้นตอนของคุณธนาธรฯไป แต่ว่าอย่าคิดเอาประเทศชาติ อย่าคิดเอาบ้านเมือง อย่าคิดเอาประชาชนคนไทยไปเป็นเครื่องมือ เราไม่ปรารถนาที่จะเห็นคุณธนาธรฯ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เอาประเทศไทยไปเป็นจุดชนวนในการที่จะเกิดความขัดแย้งกับประเทศอื่นๆในโลกนี้ “ นายสุภรณ์ กล่าว

นายสุภรณ์ฯ กล่าวว่า การเล่นการเมืองมีกรอบกติกาอยู่ มีระบบรัฐสภาที่เล่นกันฝในระบบรัฐสภา แต่วันนี้ตนกลับมองว่า คุณธนาธรฯกำลังจะเล่นการเมืองนอกระบบรัฐสภา แม้กระทั่งการชุมนุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มพี่น้องประชาชนเดือดร้อนที่มาเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนคุณธนาธรฯก็จะเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วเข้าไปวุ่นวายเหมือนกับไปยุยงปุกปั่นในลักษณะอย่างนี้ ผมก็ไม่อยากเห็นบรรยากาศอย่างนี้เหมือนกัน การที่คุณธนาธรฯไปฮ่องกงครั้งนี้ไปถ่ายรูปกับ โจ หว่อง ให้เห็นภาพปรากฏว่า ไปเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือเปล่าหรือไม่อย่างไร เราก็เห็นภาพชัดเจนแล้วทางรัฐบาลจีนก็ได้เตือนมาว่าไม่ควรจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ก็ให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้ใช้ดุลยพินิจวิเคราะห์กันให้เห็นว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร อันนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะเตือนถึงคุณธนาธรฯว่า การกระทำของคุณนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ควรอย่างยิ่งและไม่เหมาะสมที่จะใช้พฤติกรรมที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งหลายๆพฤติกรรมเราสังเกตแล้วว่า คุณธนาธรฯใช้พฤติกรรมค่อนข้างจะทำให้เกิดความเสียงและหล่อแหลมต่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง 

ส่วนประเด็นของพล.อ.อภิรักษ์ฯ ผบ.ทบ.ที่ออกมาพูดนั้น  ตนไม่ได้มองว่าออกมาพูดในลักษณะที่จะต้องการสร้างความแตกแยก ท่านไม่ได้ประสงค์ที่จะสร้างความแตกแยกกลับเป็นสิ่งที่ดีที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดเพื่อให้นักการเมืองที่จะเอาประเทศชาติบ้านเมืองไปเล่นการเมือง สร้างความเสียหายและแตกแยก ท่านพูดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ตนมองส่วนตัวว่าท่านพูดด้วยความรักบ้านรักเมือง รักประเทศชาติประชาชนคนไทยและแผ่นดินไทย และท่านต้องการที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราคนไทยทุกคนให้ความจงรักภักดี ดังนั้นการจะไปพูดถึงการแก้กฎหมาย รธน.มาตรา 1 มันทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะประเทศไทยเป็นเอกราชไม่มีใครที่จะมาแบ่งแยกผืนแผ่นดินไทยเอกราชของไทยออกไปได้ 

ดังนั้นการเอาไปวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะต้องการแก้กฎหมาย รธน.ต้องการแบ่งแยกผืนแผ่นดินไทย ตนว่ามันก็ไม่ควรอย่างยิ่ง อะไรก็แล้วแต่คนกลับมองว่า ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.อภิรักษ์ฯ ผบ.ทบ.ไม่ได้มาพูดเพื่อจะมาเล่นการเมืองหรือการวางตัวไม่เป็นกลางใดๆทั้งสิ้น ตนมั่นใจในตัวเองว่า พล.อ.อภิรักษ์ฯ ผบ.ทบ.ขอย้ำเลยว่า เป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง สำคัญที่สุดและตนย้ำว่า ท่านต้องการที่จะเตือนสตินักการเมืองหรือกลุ่มการเมือง หรือกลุ่มคนที่จะทำให้ประเทศชาติเกิดความแตกแยก เกิดปัญหา เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ท่านต้องการจะเรียกสติให้กลับคืนมาให้คนเหล่านั้นได้มีสติในการคิดที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสมัครสมานสามัคคี

นายสุภรณ์ฯ  กล่าวอีกว่า สำคัญอีกเรื่องที่ตนห่วงใยคือ ฝ่ายค้านหรือกลุ่มการเมืองทั้งหลายทั้งปวงนั้น วันนี้ยังมีพฤติกรรมเดิมๆ ต้องถามตนเลยว่า ถ้าเอาข้อเท็จจริงเลย ตนเองเคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน และเคยอยู่ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ตนเองไม่อยากจะพูดว่าการเล่นการเมือง พรรคเพื่อไทยยังเล่นการเมืองเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเล่นการเมืองแบบประเภทไม่สร้างสรรค์และเล่นการเมืองต้องการที่จะทำร้าย ป้ายสี พรรคเพื่อไทยน่าจะใช้วิกฤติในอดีต ใช้ประสบการณ์ในอดีตหันมาคิดหันมาทบทวนว่าที่บ้านเมืองมันแตกแยก เกิดความวุ่นวาย เพราะอะไร เพราะใคร และใครที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย และบ้านเมืองมีปัญหาจนทุกวันนี้เพราะพรรคการเมืองใด ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทบทวนย้อนอดีตว่าวันนี้หยุดได้หรือยังพฤติกรรมการที่จะต้องมายุยงปุกปั่น พฤติกรรมที่จะต้องมาสร้างความแตกแยกและทำลายให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบสุข ตนว่ามันหยุดพฤติกรรมนี้ได้แล้ว โดยเฉพาะการสัมภาษณ์ของโฆษกพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ฯก็ดี , นายวัฒนาฯก็ดี , นายจาตุรนต์ ฉายแสง  และหลายๆคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อเหมือนกับต้องการให้บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ 

ตนกลับมองว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เอาประสบการณ์ในอดีตที่บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งแตกแยกเอามาเป็นบทเรียนเลย พอถึงวันนี้ก็ยังใช้พฤติกรรมการเมืองเหมือนเดิม การเมืองที่จะต้องทำลายล้างกัน การเมืองที่จะต้องสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นเกิดความแตกแยกในชาติบ้านเมืองอีก ตนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะถ้าตนพูดแล้วก็ต้องไปพูดถึงอดีตว่า ใครกันแน่ที่ทำให้บ้านเมืองแตกแยกและบ้านเมืองทุกวันนี้เป็นอย่างนี้ จนกระทั่งรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาแก้ไข ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการชักใยให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านในเมือง ตนไม่อยากพูดและถ้าพูดไปมันก็ไปย้อนหาอดีตก็ไปสาวไส้กันตลอดเวลาคงไม่เหมาะสม วันนี้ควรหยุดที่จะสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ยังมีความคิดเหมือนเดิมคือพรรคเพื่อไทยพอตัวเองไม่ได้เป็นรัฐบาล พอตัวเองได้เป็นฝ่ายค้านก็จะหาเรื่องที่จะทำลายฝ่ายรัฐบาลและใส่ร้ายฝ่ายรัฐบาลอย่างนี้ตนเองก็คงทนไม่ได้เลยต้องขออกมาพูดบ้างว่า หยุดเถอะ พฤติกรรมเหล่านี้ พฤติกรรมที่จะมาสร้างความแตกแยกทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสนวุ่นวาย ตนไม่เห็นด้วย วันนี้ภารกิจของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ฯพยายามลุยสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน แก้ไขปัญหาความทุกข์ยากความเดือดร้อน เอานโยบายทุกนโยบายลงไปถึงประชาชนให้มากที่สุด แต่กลับจะมีการจ้องทำลายล้างกันหรือต้องการที่จะล้มรัฐบาล ต้องการที่จะเชิญชวนกลุ่มบุคคลออกมาชุมนุมข้างถนนอย่างนี้มันไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง ดังนั้นพอเล่นการเมืองยังใช้พฤติกรรมคุณธนาธรฯเองก็ต้องการใช้วิธีการปลุกระดมมวลชน คุณปิยบุตรฯเองก็พยายามที่จะปลุกระดมมวลชน โดยเฉพาะคุณปิยบุตรฯ เลขาฯพรรคอนาคตใหม่ตนก็มองว่า เป็นบุคคลที่เหมือนไม่ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองอะไรเลย กลับมองชาติบ้านเมืองเอามาเล่น เอามายำ เอามาทำลายกันได้ อย่างนี้มันไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง และสิ่งที่ ผบ.ทบ.ออกมาเตือนสติตนยืนยันว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว นายสุภรณ์ฯกล่าว.