12 ต.ค.62 - นายเมธี มหายศนันท์ ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสถานการณ์พายุฮากิบิส ที่พัดปกคลุมประเทศญี่ปุ่น ว่าจากการตรวจเช็คเรดาร์สภาพอากาศ "พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส" ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ ยังอยู่ห่างจากญี่ปุ่น 200 กิโลเมตร คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศญี่ปุ่น ในเวลา 21.00 น.-22.00 น ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ประมาณ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งพื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบจากพายุพัดขึ้นฝั่งคือ "นาโกย่า" และ "โตเกียว"

จากนั้นจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปยัง "เซนได" และ "โอซากา" ทำให้ฝนตกหนัก ลมแรง น้ำหลาก ดินโคลนถล่ม รวมถึงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน สูง 10 เมตร หรืออาจเกิด สตอร์มเซิร์จ โดยจะต้องเฝ้าระวังตั้งแต่คืนนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.62) พายุจึงจะอ่อนกำลังลง

ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่า พายุฮากีบิส จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย แต่ถึงแม้พายุจะพัดผ่านไปสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นก็จะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมต้องใช้เวลาในการระบาย และฟื้นฟู คล้ายกับสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งการคมนาคมอาจถูกตัดขาด 

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังเปรียบเทียบความรุนแรงของพายุฮากีบิส ที่เคลื่อนตัวสู่ประเทศญี่ปุ่นล่าสุด กับสถานการณ์พายุ ไต้ฝุ่นหมายเลข 19 ที่เคยพัดถล่มญี่ปุ่น เมื่อ 60 ปีก่อน หรือปี 2522 ว่า ความรุนแรงของพายุคล้ายกัน แต่ความเสียหายจะแตกต่าง เนื่องจากเมื่อปี 2522 ระบบการแจ้งเตือนภัยต่างๆ ยังไม่ครอบคลุม จึงมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน อีกทั้งโครงสร้างอาคาร บ้านเรือน ระบบคมนาคม ยังไม่ทันสมัย ดังนั้นความเสียหายต่อชีวิต จากผลกระทบฮากีบิสจะน้อยกว่า แต่ความเสียหายทางทรัพย์สิน จะมากกว่าในปี 2522