12 ต.ค 62 - ที่พรรคอนาคตใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมในกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวบรรยายเรื่องแผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย วันนี้บางช่วงตอน มีชายคนหนึ่งที่เดินทางมาร่วมฟังพยายามกล่าวแทรกตอบโต้เล็กน้อยบางครั้งในช่วงการบรรยาย จนครั้งที่ 3 ได้มีการปะทะคารมกับผู้ฟังคนอื่นและพยายามเชิญตัวออกไปนอกห้องแถลงข่าว
แต่นายปิยบุตรเรียกร้องขอไม่ให้มีการเชิญตัวออก จึงมีการให้ชายคนดังกล่าวกลับมานั่งฟังแถวหน้า และมีการเจรจาขอให้คุยกันในช่วงถามตอบแทน ซึ่งภายหลังการบรรยายเสร็จสิ้น
นายวรัญชัย โชคชนะ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กลุ่มกรุงเทพก้าวหน้า ได้จุดเทียนแสดงสัญลักษณ์ไปยืนกล่าวแสดงความคิดเห็นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ห้ามปรามการกระทำของ ผบ.ทบ. ด้วย
ขณะที่ชายคนดังกล่าว ได้พูดหลังการบรรยายเสร็จสิ้น ว่า ตนเดินทางมาจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ เพื่อฟังนายปิยบุตรพูดในวันนี้ ในแนวคิด และการจัดตั้งของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเห็นชื่อพรรค ครั้งแรกตนยอมรับว่าตนชอบ แม้แต่หลานของตนก็ยังเลือกพรรคนี้ ในช่วงตอนต้นตน รู้สึกเสียดายที่มาฟังไม่ทัน ที่นายปิยบุตรพูดเรื่องความเป็นชาติ ที่กล่าวว่า หากไม่มีชาติไม่มีประชาชน ถ้าไม่มีประชาชนไม่มีชาติ อันนี้ตนคิดว่าใช่ แต่ตนขอถามย้อนนายปิยบุตรว่า ถ้าไม่มีชาติ แล้วจะมีประชาชนได้หรือไม่ ยกตัวอย่างประเทศซีเรีย ทุกวันนี้เขามีชาติ แล้วประชาชนทุกวันนี้เขาอยู่อย่างไร เขามีชาติหรือไม่
สอง ความเป็นเจเนอเรชั่น ตนไม่อยากให้มองคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่แตกต่างกัน ตนเห็นด้วย ถ้าไม่มีคนรุ่นเก่าก็คงไม่มีคนรุ่นหลานนี้ มีเชื้อชาติ มีตระกูล มีพ่อมีแม่ มีปลูกฝัง ที่ต่อสู้กับอดีตกาลมา จนกระทั่ง ทำให้ลูกหลานมีความสุขสบายมาทุกวันนี้ ความคิดของคุณนั้นตนชอบ สร้างสรรค์ดี ที่ว่าคนไทยเราขัดแย้งกันมา 13 ปีนั้นตนเห็นด้วย อยากจะฝากให้พรรคอนาคตใหม่คิดบวก รัฐบาลชุดนี้ถ้าทำดีก็ส่งเสริมเขาไป ถ้าเขาทำไม่ดี ไม่ดีตรงไหน เอาตรงนั้นมาพูดในรัฐสภา ไม่อยากให้เอาปัญหาไปพูดตามภาคต่างๆ สร้างความเครียดให้ประชาชน ตนก็ยอมรับว่าตนเครียด อยากเห็นคนไทยรักกัน อย่ามีสี
ในส่วนที่นายปิยบุตร ถามว่า ถ้าไม่มีประชาชนจะมีประเทศชาติหรือไม่ ตนเข้าใจ ส่วนที่บอกว่า ลอว์แฟร์ มีบางกลุ่มแทรกแซงกระบวนการศาล ทำให้ศาลถูกมองว่าไม่มีความยุติธรรม ตนขอถามว่า กรณีผู้พิพากษายะลาที่ยิงตัวเองนั้น ที่ว่าส่งข้อความให้นายปิยบุตร 25 หน้านั้น จริงหรือไม่ หากจริง ขอให้นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน อย่าพูดว่าได้รับมาแล้วไม่บอก ในฐานะที่ตนเป็นประชาชนรู้สึกแคลงใจอยากทราบ
นายปิยบุตร ตอบคำถามว่า ท่านผู้พิพากษาคณากร เพียรชนะ ได้ส่งข้อความผ่านเพจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และเพจของพรรคอนาคตใหม่ สองครั้ง ครั้งหนึ่งปลายเดือนสิงหาคม ครั้งหนึ่งต้นเดือนกันยายน เป็นข้อความสั้นๆ ครั้งที่หนึ่งถามว่า พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายในการแก้ไขกฎหมายเพื่อประกันความเป็นอิสระขององค์คณะหรือไม่
ครั้งที่สอง ติดต่อขอพบ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานที่จะแสดงว่าองค์คณะของท่านมีการแทรกแซง ทั้งนี้เรายังไม่เคยได้รับเอกสารดังกล่าว เอกสาร 25 หน้าเกิดจากหลังการยิงตัวเองไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ก็ได้มีการโพสต์เอกสาร 25 หน้าและตอนนี้ก็ได้หายไปแล้ว ดังนั้น เราก็ได้เห็นเอกสาร 25 หน้า พร้อมๆ กับทุกคนผ่านเฟซบุ๊กผู้พิพากษาคณากร ซึ่งไม่ได้เป็นเอกสารที่ปิดบังแล้ว หาดูได้ตามสื่อมวลชนทั่วไป ดังนั้นที่มีสื่อบางคนพูดว่า มีการทำให้พรรคอนาคตใหม่ รู้คำพิพากษาก่อนล่วงหน้านั้นไม่จริง ตนไม่เคยเจอนายคณากรมาก่อน เมื่อได้รับข้อความ เราก็พยายามตรวจเช็ค แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องขึ้นก่อน
นายปิยบุตร กล่าวว่าอีกเรื่องที่เป็นข้อสังเกตคือ สาเหตุที่ตนไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อ เนื่องจากมีความพยายามเอาความเป็นพรรคการเมือง การเมืองไปปะปนกัน ลดทอนเจตนารมณของนายคณากรไป การยิงตัวเองของนายคณากรถือว่ากล้าหาญใจเด็ดมาก และเป็นเรื่องดีที่ไม่เสียชีวิต เราอย่าให้นายคณากรตายทั้งเป็น ตายซ้ำสองอีกรอบ ทำให้ตนหยุดพูดเรื่องนี้ และปล่อยให้วงวิชาการนำไปพูดกัน เพราะหากตนพูดเมื่อใด จะถูกฝ่ายที่ไม่ชอบพรรคอนาคตใหม่ นำไปปลุกปั่น อ้างว่านายคณากรเป็นกองเชียร์พรรคอนาคตใหม่ สมรู้ร่วมคิดกัน อันนี้ตนคิดว่าเป็นการฆาตกรรมเขาครั้งที่สอง ทำลายชีวิตเขาอีกรอบหนึ่ง จึงหยุดพูดเรื่องนี้ทันที และปล่อยให้กลไกดำเนินไป
อีกส่วนหนึ่ง ในส่วนที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษชน ตนก็คิดว่าควรจะใช้คณะกรรมาธิการนี้ผลักดัน ประเด็นนี้แทน เพื่อให้กรณีนี้เป็นบทเรียน ว่าเราจะหาจุดสมดุลกันระหว่างประกันความเป็นอิสระขององค์คณะผู้พิพากษา หรือควรให้มีผู้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสร้างบรรทัดฐานในแนวคำพิพากษาศาล อีกทั้งมีอีกคณะกรรมาธิการ ที่ต้องการทำเรื่องเดียวกัน คือ คณะกรรมาธิการศาล ซึ่งก็ต้องมาดูกันอีกครั้งว่าใครจะทำ หรือทำร่วมกัน จุดเน้นย้ำของตนคือ ตนพยายามจะถอนความเป็นการเมืองออกจากกรณีนี้ เพื่อให้การตัดสินใจของนายคณากร เป็นความบริสุทธิ์ จากเจตจำนงค์ของเขาเอง
ตนยืนยันว่า ในตอนที่ก่อตั้งพรรค เราไม่ได้คิดเรื่องการแบ่งแยกรุ่น แต่เป็นความบังเอิญหรือไม่ก็ไม่ทราบว่า มีเยาวชน คนรุ่นใหม่เลือกพรรคอนาคตใหม่เยอะ แต่บางคนก็ว่าไม่จริงผสมกันไป บางคนก็ว่าคนรุ่นใหม่บอกให้พ่อแม่เลือก อีกคำถามหนึ่ง ตนขอตอบว่า เราคงได้พิสูจน์แล้ว ในสมัยประชุมแรก ว่าเราเป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ เราพิสูจน์ตัวเองเป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่ง สิ่งที่เรานำเสนอค่อนข้างในในทิศทางสร้างสรรค์
เรื่องการรณรงค์กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ นั้นเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ปัจจัยหลักที่เราไปเดินสาย คือ เพื่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เราต้องอาศัยมติมหาชน ช่วยผลักดัน กดดันให้ ส.ว.ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ
เรื่องสีเสื้อ ตนคิดว่าทุกคน ต้องถูกฉาบสีว่าสังกัดสีใดสีหนึ่ง เป็นแบบนี้ตลอดเวลา หลายเรื่องคนที่อยู่ต่างสี เห็นตรงกัน ตนจึงเชิญชวนให้ทุกคน เห็นว่าทุกคนคือประชาชนที่เดือดร้อน เช่นเดียวกัน ไม่แบ่งแยกในหมู่ประชาชนด้วยกัน ไม่แบ่งฝักฝ่าย ไม่แบ่งรุ่น แต่นี่คือโจทก์ร่วมกันของคนทั้งประเทศ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |