12 ต.ค.62 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้
เมื่อผบ.ทบ.บอกว่าที่พูดมาทั้งหมดจะไม่เชื่อก็ได้ ผมจะไม่บอกว่าเชื่อหรือไม่ แต่จะอธิบายว่าเห็นอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมเห็นการส่งสัญญาณอย่างเป็นรูปธรรมถึงคนทั่วโลกว่าแม้จะผ่านการเลือกตั้ง แต่กองทัพยังคงมีบทบาทและอำนาจอย่างยิ่ง
ผู้นำกองทัพสามารถพูดเรื่องความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ได้ตามใจตัวเอง เมื่อไหร่ อย่างไรก็ได้
ท่ามกลางแขกรับเชิญที่นอกจากข้าราชการ ทหาร ตำรวจแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่เคยชุมนุมจนเกิดรัฐประหาร ต่างกันตรงที่แกนนำผู้ปราศรัยวันนี้ไม่ใช่อดีตกำนัน และไม่มีเสียงเป่านกหวีดสนับสนุนเท่านั้น
เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในประเทศประชาธิปไตยที่พัฒนาแล้ว แม้แต่ในประเทศคอมมิวนิสต์ ก็ไม่มี
ในยุคเผด็จการคสช. ผู้นำกองทัพ 3 คนที่ทำหน้าที่ต่อจากพล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีข้อวิเคราะห์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระทบกับความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง และแก้ไขไม่ได้ง่ายๆ
โดยหลักการ รัฐบาลกับกองทัพต้องมีเอกภาพในการทำงาน แต่ในมิติทางการเมืองส่วนราชการต้องวางตัวเป็นกลาง หากมีการเลือกข้างย่อมเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง
ผบ.ทบ.มีสิทธิ์คิด พูด หรือแสดงออกถึงความรักชาติบ้านเมือง แต่ด้วยเนื้อหาแบบที่บรรยายมาผมเห็นว่าท่านควรใช้สถานะส.ว.ลากตั้ง ลุกขึ้นพูดในสภาให้มีการอภิปรายกันโดยรอบด้าน
ผมเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน สิ่งที่สะท้อนมาเป็นความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ด้วยความเคารพต่อสถาบันกองทัพ แต่เห็นว่าบุคลากรของกองทัพต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักการและกฎหมาย
อนึ่ง แม้การบรรยายจะคาดหวังอารมณ์ร่วมของผู้ฟัง แต่เสียงเพลงประกอบไม่จำเป็นต้องเปิดดังตลอดเวลา
เห็นข่าวกระทรวงดีอีเอสจะเปิดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (เฟคนิวส์) ในเดือนพฤศจิกายน
น่าเสียดาย ควรเปิดทำการตั้งแต่เดือนนี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |