12 ต.ค. 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมชมธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ที่ศูนย์ปฎิบัติการ จังหวัดชลบุรี ว่าได้ให้นโยบายเรื่องของทิศทางจะต้องขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว(ฮับแอลเอ็นจีของภูมิภาคอาเซียน) ให้ได้ ซึ่งขณะนี้ ปตท.ก็อยู่ระหว่างการจัดทำแผนอยู่ พร้อมคาดว่า ภายใน 2 เดือนนี้จะเห็นแผนระยะแรกของการผลักดันเป็นฮับนำเข้าแอลเอ็นจีเพื่อกระจายไปประเทศอื่นได้ ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)พิจารณาต่อไป

"เบื้องต้นอาจทำให้รู้ทิศทางว่าจะเป็นฮับแอลเอ็นจีได้ในช่วงปีใด เพื่อสอดรับกับทิศทางของอาเซียนที่ต้องการให้เกิด Small Scale LNG หรือการกระจายแอลเอ็นจีให้ไปได้ทั่วภูมิภาค"นายสนธิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในรายละเอียดของแผนการขับเคลื่อนเป็นฮับแอลเอ็นจีนั้น ปตท.จะเป็นองค์กรหลัก เพื่อดูแลโครงสร้างหลักของการบริหารจัดการก๊าซอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อม ส่วนนโยบายจะเป็นอย่างไรยังต้องรอพิจารณาภาพรวมของแผนอีกครั้ง โดยสิ่งสำคัญของแผนจะคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงาน ทำให้ต้นทุนก๊าซต่ำ แข่งขันได้ และนำไปสู่ประโยชน์ของผู้บริโภค

ส่วนกรณีนโยบายที่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)นำเข้าแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตันนั้น ขณะนี้กฟผ.อยู่ในขั้นตอนการนำเข้าแอลเอ็นในรูปแบบสปอร์ต และทดลองใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าตามวัตถุประสงค์ที่จะต้องนำเข้าที่ 140,000 ตันก่อน โดยล่าสุดในจำนวนนี้ยังเหลือการนำเข้าอีก 70,000 ตัน ทั้งนี้ เมื่อสองล็อตนำเข้ามาแล้วเสร็จได้มอบหมายให้นำความคืบหน้ากลับมารายงานในที่ประชุม กบง.จากนั้นจะหาแนวทางพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเดินหน้าเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)