นับเป็นมาราธอนแห่งปีที่นักวิ่งทั้งสายแข็งและสายชิวไม่ควรพลาด กับเส้นทางในเมืองสามหมอก ใน แม่ฮ่องสอน ครอสคันทรี่ 2019 เมื่อเดือน กันยายน ที่มีให้เล่นทั้งทางราบและครอสคันทรี่ สนุกกับทางลาดชัน ผ่านวัดวา ชุมชน ธรรมชาติ  ป่าเขาแม่น้ำลำธาร ใครวิ่งถึงระยะมาราธอน  ก็จะได้ลุยเส้นทางวิบากไปจนถึงหมู่บ้านของชาวกระเหรี่ยง ก่อนกลับมาจบที่สนามบินแม่ฮ่องสอน ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย เพราะลมหนาวมาถึงบนดอยแล้วตั้งแตต้นเดือนกันยายน ใครได้ไปสัมผัสต้องกลับมาพร้อมกับความประทับใจแน่นอน

    แม่ฮ่องสอน เมืองรองที่ใครได้ไปสัมผัสแล้ว จะยอมรับเลยว่าไม่ได้เป็นรองเมืองไหนสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ  และการเดินทางสัญจรโดยรถที่ต้องผ่านโค้งกันเป็นพันโค้งกว่าจะถึง ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ต้องขอลองสักครั้งแม้ปัจจุบันจะสามารถบินไปแลนดิ้งสบายๆถึงตัวเมืองแล้วก็ตาม และเมืองรองแสนสงบที่กำลังรุกสปอร์ตทัวริสซิ่มเมืองนี้แหละที่ช่วงหลังผมได้ไปถี่เสียยิ่งกว่าเมืองท่องเที่ยวหลักเสียอีกทั้งวิ่งทั้งจักรยานและงานดนตรีแจ๊ซซ์  และนี่เป็นปีที่สองแล้ว สำหรับงานวิ่ง Maehongson Cross Country 2019 หลังจากปีที่แล้วอั้นที่ระยะฮาล์ฟฯ มาปีนี้ขยับเพิ่มเป็นมาราธอน ในเส้นทางแบบครอสคันทรีที่มีเทรลให้เลอะกันนิดๆสำหรับระยะฟูล และถึงแม้นักวิ่งจะต้องเจอทางชันขึ้นลงไปตลอดทางซึ่งยากขึ้นกว่าปกติแล้ว แต่หลายคนก็ถือโอกาสขยับตัวเองเล่นระยะที่ไกลขึ้นด้วยเป็นครั้งแรก นั่นเพราะอากาศที่ดีเหลือเกินของที่นี่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว อีกทั้งรายการนี้ ยังให้เวลาวิ่งแบบเต็มที่ แทบไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาคัทออฟ เพราะเผื่อให้แบบเหลือเฟือ เชื่อว่าจบได้สบายๆทุกคนแน่

    แม่ฮ่องสอน ครอสคันทรี 2019 เอาแค่จุดสตาร์ท ก็ไม่ซ้ำใครแล้ว ออกตัวกันจากสนามบินแม่ฮ่องสอน เส้นทางของทุกระยะจะใช้ร่วมกันในช่วงต้น ผ่านตลาดสายหยุด วัดจองกลาง วัดจองคำ และวิ่งขึ้นพระธาตดอยกองมู (ห่างจากสนามบินฯ ราว 3 กม.) ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์แห่งความเหนื่อยระดับตับแล่บ ใครใคร่วิ่งวิ่งไปเลย แต่ส่วนใหญ่จะเดินเสียมากกว่า ซึ่งจุดนี้ฟันรันอดครับ น่าเสียดาย ขึ้นทางเดินขึ้นเป็นขั้นบันได วิ่งลงใข้เส้นทางรถขึ้นลง มีเพื่อนวิ่งแซงไปอย่างเร็วเหมือนกันแต่มันบอกเบรกไม่อยู่

    ปีที่แล้วเห็นสวนสาธารณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดูเขียวครึ้มร่มรื่นและกว้างใหญ่มากในใจคิดว่าอยากจะมาวิ่งข้างในสักครั้ง แล้วหนนี้ก็สมใจ เพราะระยะฮาล์ฟ กับ ฟูล (ค่าความชัน หรือ Elevation Gain 820 เมตร) ได้เข้าไปชิลในสวนป่ากลางเมืองแห่งนี้ เช่นเดียวกับอีกที่คือ พื้นที่ของโครงการกรมวิชาการเกษตรแม่ฮ่องสอน ที่ก่อนเข้าต้องข้ามสะพานท่าโป่งแดงข้ามแม่น้ำปาย จากนั้นฟูลมาราธอน จะวิ่งยิงยาวไปถึง บ้านห้วยปูแกง ได้สัมผัสวิถีกระเหรี่ยงกันแบบเหงื่อท่วมแต่กลมกลืนโดยเสื้อวิ่งปีนี้ใช้สีและลวดลายสไตล์ลาหู่ ชาวเขาเผ่าหนึ่งของไทย  หรือเรียกอีกชื่อที่คุ้นกันคือ ชาวมูเซอ แล้วจากนั้นก็วกกลับไปสนามบิน ใครไม่กลับ วิ่งต่อไปอีกนิดก็เตรียมยื่นพาสปอร์ตเข้าพม่าได้เลย สำหรับเส้นทางก่อนถึงเส้นชัย เราต้องวิ่งเลาะรั้วไปชมวิวที่ปลายรันเวย์ก่อน แล้วสปีดกลับมาเข้าเส้นชัยใกล้อาคารผู้โดยสาร รับเหรียญรางวัลและถ้วยรางวัลแกะจากไม้ฝีมือชาวกระเหรี่ยงคอยาวนั่นเอง

    งานวิ่ง แม่ฮ่องสอน ครอสคันทรี 2019 จัดโดยหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนและกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC แม่ฮ่องสอน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องขอบอกว่างานนี้ทางผู้จัดใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งที่มาจากทั่วสารทิศจริงๆ จุดให้น้ำพร้อมมากทุก 2 กม.กล้วยแตงโม ยาฉีดพ่น เหลือเฟือมากๆต่างจากรายการอื่นที่เจอะเจอมา

การเปิดรับสมัครแบบจำกัดจำนวนคน ก็ทำให้รู้สึกเสียดายแทนใครที่สมัครไม่ทัน  แต่นั่นก็เพื่อไม่ให้เกินการรองรับของระบบนิเวศน์และขนาดของเมืองแม่ฮ่องสอน ดังนั้นปีหน้าเล็งไว้เลย เปิดเมื่อไหร่ รีบกดสมัคร งานเส้นทางดี จัดการดีระดับนี้พลาดไม่ได้สำหรับนักวิ่ง