อิหร่านระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันของตนลำหนึ่งโดนมิสไซล์ 2 ลูก โจมตีนอกชายฝั่งใกล้กับเมืองท่าเจดดาห์เมื่อวันศุกร์ เรือยังลอยลำอยู่ได้ แต่น้ำมันรั่วไหลสู่ทะเลแดง ถือเป็นครั้งแรกที่เรือน้ำมันของอิหร่านตกเป็นเป้าหมายโจมตีลักษณะนี้

ภาพจากสถานีโทรทัศน์ IRIB ของทางการอิหร่านวันที่ 10 ตุลาคม 2562 เรือบรรทุกน้ำมัน ซาบิตี ของอิหร่าน ขณะแล่นในทะเลแดง / IRIB TV / AFP

    เอเอฟพีรายงานอ้างคำแถลงของบริษัท เรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านแห่งชาติ (เอ็นไอทีซี) ซึ่งเป็นเจ้าของเรือลำที่โดนโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562 ว่าเรือซาบิตีลำนี้โดนระเบิด 2 ลูกที่ตัวเรือ ที่อาจเกิดจากการโดนมิสไซล์ยิง ขณะเกิดเหตุเรือลำนี้อยู่นอกชายฝั่งซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 100 กิโลเมตร

    "ลูกเรือทุกคนปลอดภัย และเรือยังลอยลำอยู่ได้" เอ็นไอทีซีกล่าว และว่า พวกที่อยู่บนเรือกำลังพยายามซ่อมแซมความเสียหาย พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดเพลิงไหม้บนเรือ

    การโจมตีครั้งนี้ทำให้มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลแดง นอกชายฝั่งเมืองท่าเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียด้วย

    ข่าวการโจมตีเรือน้ำมันอิหร่านส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นอยู่แล้วจากอานิสงส์ของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มดีขึ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกทันที  โดยน้ำมันเบรนต์เพิ่มขึ้น 2.3% อยู่ที่ 60.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัสเพิ่มขึ้น 2.1% อยู่ที่ 54.69 ดอลลาร์

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากโรงงานน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุด 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียโดนถล่มเมื่อเดือนที่แล้ว กระทบต่อการผลิตน้ำมันในตลาดโลก 5% สหรัฐและซาอุดีอาระเบียกล่าวโทษอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการใช้โดรนระเบิดและมิสไซล์ครูซโจมตี แม้ว่ากบฏฮูตีในเยเมนจะอ้างผลงานก็ตาม

    เจ้าหน้าที่สหรัฐยังกล่าวโทษอิหร่านด้วยว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในอ่าวเปอร์เซียเมื่อเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม และการโจมตีเรือน้ำมันอีก 4 ลำเมื่อเดือนพฤษภาคม

    นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่อังกฤษยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่าน และอิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการยึดเรือน้ำมันของอังกฤษ ซึ่งต่างปล่อยคืนในภายหลัง

    อิหร่านอยู่ในภาวะคุมเชิงกับสหรัฐและชาติพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาคอ่าวมานับแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากความตกลงนิวเคลียร์ที่กลุ่มชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2558 แล้วรื้อฟื้นการคว่ำบาตรอิหร่านแบบเต็มสูบ.