ทำได้ไม่เลว...
ลีลา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” คล้ายๆ ซีอีโอยุคใหม่ขึ้นเวทีบรรยายทิศทางบริษัท
ชัดถ้อย ชัดคำ สุภาพและหนักแน่น ตามสไตล์ชายชาติทหาร
จากนี้ไปสังคมไทยจะได้ถกเถียงประเด็น "ความมั่นคง" กันอย่างจริงจังเสียที
หลังจากปล่อยให้เด็กเขี่ยไฟเล่นมาหลายวัน
"บิ๊กแดง" พูดหลายประเด็น ย่อยมาก็ตามนี้
..........."ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่กับ Hybrid Warfare หรือ สงครามลูกผสม
หมายถึง สงครามที่ใช้การผสมผสานกันของเครื่องมือ ทั้งจากสงครามตามแบบ และสงครามไม่ตามแบบ ซึ่งไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นทฤษฎี และไม่ใช่สิ่งที่อุปโลกน์ขึ้นมา
แต่ถูกศึกษาทำเป็นทฤษฎีจากประสบการณ์จากประเทศต่างๆ ที่ล่มสลายไป Hybrid Warfare หรือ สงครามลูกผสม
แบ่งเป็น ๒ ส่วน
ส่วนแรก คือ Regular Military Forces คือ กองกำลังของรัฐบาล คือ กำลังทหารปกติ ที่รักษาเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ และ Special Forces คือ กำลังทหารรบพิเศษ ใช้ต่อต้านการก่อการร้าย และปฏิบัติการรบในสงครามนอกรูปแบบ
ส่วนที่ 2 คือกองกำลังของฝ่ายตรงข้าม คือ Irregular Forces คือ กลุ่มกองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น กลุ่มก่อการร้าย การก่ออาชญากรรม มวลชน การต่อต้านอำนาจรัฐ หรือกลุ่มที่เข้ามาวางระเบิดใน กทม. ๘ จุด และไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่
ผมไม่ได้พูดเพื่อท้าทาย และที่ผมพูดครั้งนี้จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบจากสังคมโซเชียล แต่อย่าทำร้ายประเทศ ซึ่งผมอยากให้ทุกคนได้รู้เท่าทันว่า Hybrid Warfare เกิดขึ้นแล้วในประเทศ
Support Of Local Unrest คือ การสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งหมายรวมประชาชนทั่วไป รวมถึงต่างประเทศในโลก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนในท้องถิ่น เช่น นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น เศรษฐีบริจาคเงินให้ไปทำกิจกรรมทำเว็บไซต์ หรือแหล่งข่าวให้กับฝ่ายตรงข้าม
Information Warfare Propaganda คือ กลุ่มสงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อ ถือเป็นเรื่องใหญ่ของทั่วโลก
แต่สำหรับประเทศไทยหนักมาก
น่าห่วง การโฆษณาชวนเชื่อที่สำคัญ ที่เป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้กลับตัวกลับใจ ยังมีแนวความคิดล้มล้างระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ประเทศไทยเป็นรูปแบบคอมมิวนิสต์
คนพวกนี้อายุมากแล้ว ไม่ออกตัว แต่เป็นมาสเตอร์มายด์ คือ นักวิชาการ ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่นและผนึกกำลังร่วมพวกอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไร้จรรยาบรรณ ปลูกฝังนักเรียนสิ่งที่ผิด เด็กก็ต้องเชื่อ
ซึ่งเป็นความคิดของกลุ่มคอมมิวนิสต์เดิม ที่อยู่ในฐานะมาสเตอร์มายด์ กับครูอาจารย์ที่ไปเรียนต่างประเทศ เป็นพวกซ้ายจัด และเรียนในประเทศที่เคยล่าอาณานิคมที่ยึดประเทศไทย
เอาความคิดผสมผสานรวมกัน สร้างโฆษณาชวนเชื่อ แล้วนำแนวความคิดของตัวเอง ผ่านโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ออกข่าวลวงเฟกนิวส์
หรือแม้แต่การสร้างสัญลักษณ์เพื่อให้เป็นที่จดจำ เช่น เสื้อเหลือง เสื้อแดง ชู ๓ นิ้ว
Diplomacy คือ ทูต คือการใช้บุคคลระหว่างประเทศ องค์กรอิสระ เพื่อยกระดับเหตุการณ์และความสำคัญของกลุ่มตัวเองขึ้นมา
เช่น การนำฝรั่งมาถ่ายรูปที่หน้าโรงพัก หรือนำมายืนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้เห็นว่าเป็นสากล และมีความรุนแรง
Cyber Attacks คือการโจมตีด้านไซเบอร์
และ Economic Warfare คือสงครามเศรษฐกิจ เช่น สงครามการค้าของจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจ หรือประเทศเล็กๆ ก็ย่อมมีคนจน ซึ่งการทำให้คนในประเทศรวยเท่ากันนั้นยาก แต่การทำให้คนในประเทศจนเท่ากันนั้นง่าย ซึ่งเป็นแนวความคิดของคอมมิวนิสต์
ที่พูดมาทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเชื่อผม แต่ขอถามว่าปัญหาเรื่องความมั่นคงจะให้ใครแก้ นักวิชาการหรืออาจารย์ที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์ ร่วมกับนักเรียนนอกซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนมาจากประเทศที่ล่าอาณานิคม อบรมสั่งสอนไร้จรรยาบรรณ
ชอบอ้างเลข ๒๔๗๕ ชี้นำอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่ว่ามีวาทกรรมจาบจ้วง หรือเลือกกลุ่มนักการเมืองที่มุ่งหาประโยชน์ส่วนตัว เพื่อพวกพ้อง
และยังมีนักการเมืองบางคนใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เคยเกาะแข้งเกาะขานายทหารใหญ่ที่เป็นพ่อของผม ตั้งพรรคการเมืองมาจนบัดนี้เป็นใหญ่เป็นโต นำเรื่องศาสนาและแบ่งแยกดินแดนมาเป็นเครื่องมือ เพื่อหาเสียง หรือเชื่อกลุ่มนักการเมืองที่เป็นผึ้งแตกรัง ลูกพี่ใหญ่หนีคดีไปต่างประเทศ หรือจะเชื่อนักธุรกิจที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ชีวิตไม่เคยลำบาก เหมือนพวก “ฮ่องเต้ซินโดรม” เคยชุมนุมร่วมกับคนเผาบ้านเผาเมือง สมคบคิดกับชาวต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน เจาะพฤติกรรมล้างสมองคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นฐานให้กับตนเข้าสู่การเมือง ล้มล้างชาติ สถาบัน
วันนี้ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน ถามว่าวันนี้ใครอยากไปฮ่องกง เขาเกิดเหตุการณ์อะไร ไม่ค่อยมีคนอยากไป
แต่กลับพบว่ามีบางคนไปพบนายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง และการที่นายโจชัว หว่อง มาไทยเคยมาพบกับใคร มาพบกับคนประเภทไหน มาไทยเพื่อมาวางแผนอะไรหรือเปล่า หรือมาสมคบคิดอะไร พร้อมการไปเยี่ยมในลักษณะแบบให้กำลังใจและให้การสนับสนุนด้วย ไปหาดูได้ในสื่อต่างๆ
ฮ่องกงเป็นเกาะ เคยเป็นอยู่ภายใต้อังกฤษ ที่ผมพูดถึงภูมิศาสตร์ เพราะแตกต่างจากไทยที่เป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน ซึ่งคนที่ออกมานั้นวัยรุ่นทั้งนั้น ผมจึงขอถามนักศึกษา ว่าคนที่ปลุกปั่น คนที่ใช้กำลังโซเชียลฯ การโฆษณาชวนเชื่อมาดึงเรต มาปั่นสมอง แล้วให้ออกมาแบบฮ่องกง จำภาพเหตุการณ์บ้านเมือง ปี ๒๕๕๒-๒๕๕๓ ได้หรือไม่
ผมอยากบอกว่ากองทัพรับใช้ทุกรัฐบาล ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่มีการเลือกนาย แต่กลุ่มคนพวกนี้รู้ดี ไม่ได้ดูทหารเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ ปกป้องบ้านเมือง
แต่เขากลับมองทหารเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ซึ่งทหาร ตำรวจ ก็คือประชาชน เมื่อไม่ได้สวมเครื่องแบบ มีเหตุผลอะไร เพราะทหารคือหลักของความมั่นคง การที่เราป้องอธิปไตย
จึงมีวาทกรรมหวังผลทางการเมือง เอาใจวัยรุ่น เช่น เสนอไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม และกองทัพ จัดซื้ออาวุธทำไม หนักแผ่นดิน"..............
ครับ...สิ้นเสียง ผบ.ทบ. ฮ่องเต้ซินโดรม ดิ้นเป็นไส้เดือน
มารู้จัก "ฮ่องเต้ซินโดรม" กันก่อน
เป็นโรคทางจิตเวช เกิดกับเด็กไทยรุ่นใหม่ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเทวดา เปราะบาง รักสบาย
ใครขัดใจไม่ได้ ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์ หรือระเบิดอารมณ์ไม่ได้ ก็ระเบิดใส่ตัวเอง
อีกชื่อที่เรียกคือ "สตรอว์เบอร์รีเจนเนอเรชัน"
เมื่อวันเสาร์ที่ ๕ ตุลาคม วันที่ "ธนาธร" พบกับ "โจชัว หว่อง" ยังมีอีกหลายประเด็นที่ล่อแหลม
รู้มั้ยทำไม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถึงต้องออกแถลงการณ์ เรื่อง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และระบุถึงนักการเมืองไทยโดยตรง
"กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนยังได้สมคบกับกลุ่มอิทธิพลภายนอก เผยแพร่ข่าวลือ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อวัตถุประสงค์ที่มิอาจเปิดเผยของตน นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย"
เพราะรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เห็นในสิ่งที่ สตรอว์เบอร์รีเจนเนอเรชันในเมืองไทยมองไม่เห็น
หรืออาจเห็น แต่.....อยากท้าทาย
ลองต่อจิกซอว์ดู
ในงาน Open Future Forum ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ที่เกาะฮ่องกง
"ธนาธร" บอกว่าม็อบฮ่องกงเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งพรรคอนาคตใหม่
ส่วน "โจชัว หว่อง" ชื่นชม "ธนาธร" ว่า
.......เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่มีนโยบายที่ก้าวหน้า เน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม และยังสนับสนุนการให้นำทหารออกจากการเมืองของไทยและการกลับคืนสู่รัฐบาลของประชาชนที่แท้จริง
หวังว่าในเวลาที่ฝ่ายอนุรักษนิยมหรือเผด็จการกำลังขยายตัวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เราจะสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองและส่งเสริมค่านิยมประชาธิปไตยก้าวหน้าในเอเชียตะวันออกให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง.......
และที่นอกเหนือการชื่นชม "ธนาธร" คือประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจกันอย่างจริงจัง
การเสวนาเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม มีการถ่ายทอดสดเชื่อมไปยังสำนักงานบีบีซีเมืองแมนเชสเตอร์ บนเกาะอังกฤษด้วย
มีคำถามจากเมืองแมนเชสเตอร์เจาะจงถาม โจชัว หว่อง ว่า ทำไมการประท้วงที่ฮ่องกงถึงต้องใช้ความรุนแรง ทำไมไม่ยึดแนวสงบสันติอหิงสา อย่าง "มหาตมะ คานธี"
"โจชัว หว่อง" ตอบว่า
“เราทราบดีว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้นกลุ่มผู้ประท้วงใช้กำลังความรุนแรง แต่แทนที่จะประณามการใช้กำลังและความรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วง ผมคิดว่ารัฐบาลฮ่องกงได้สอนให้คนฮ่องกงรู้ว่า การประท้วงโดยสงบสันตินั้นไม่มีประโยชน์อะไร
หรือ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ....!
...ดังนั้นผมขอกล่าวต่อว่า แม้การยกระดับของการใช้กำลัง การยกระดับขึ้นของความรุนแรง จะไม่ทำให้เกิดผลบวกต่อคนทั่วโลก แต่เราต้องทราบว่าพื้นฐานของปัญหา อะไรคือรากของปัญหาที่ทำให้คนมากกว่า ๒๕% เดินลงสู่ถนน
โดยสรุปแล้ว ถ้าประชากรชาวสหราชอาณาจักร ๒๕% เดินประท้วงบนท้องถนน ผมเชื่อว่ารัฐบาล (อังกฤษ) จะรีบลาออกทันที แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดในฮ่องกง เพราะที่นี่คือฮ่องกงที่ไม่มีประชาธิปไตย”...
นั่นคือแนวทางของ "โจชัว หว่อง"
ไม่เชื่อในแนวทางสันติ
จึงไม่แปลกที่จีนกังวลและเตือนนักการเมืองไทยคือ "ธนาธร" ว่า อย่าไปสมคบคิดแยก ฮ่องกงไปจากจีน
เพราะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของ "ธนาธร" ก็มีแนวคิดล้มล้างราชอาณาจักรไทย
อ้างว่าประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตย ไม่ควรเป็นรัฐเดี่ยว
บรรพบุรุษ "ธนาธร" หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากไหน มาพึ่งบารมีใคร?
ฉะนั้นอย่าเนรคุณ.
ผักกาดหอม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |