12 มี.ค.61 - นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่าน thai voice เผยแพร่ทางยูทูปช่องของนายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ซึ่งได้รับสถานะลี้ภัยที่สหรัฐอเมริกา ถึงทิศทางของพรรคเพื่อไทย ช่วงหนึ่งว่าวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องทำ 3 อย่าง 1. นำประชาธิปไตย และอำนาจกลับคืนประชาชน
2.ปฏิรูปองค์กรที่ทำให้เกิดวิกฤติ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพที่เป็นเครื่องมือการรัฐประหาร รวมถึงการปฏิรูปการศึกษา และระบบสาธารณสุข ซึ่งรัฐบาลคสช.เข้าใจผิดหลายอย่างเช่น 30 บากรักษาทุกโรค 3.เรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งยึดโยงกับประชาธิปไตย ตั้งแต่ยึดอำนาจ ประเทศขาดความเชื่อมั่น นักลงทุนไม่มั่นใจ
นายจอม ถามว่าทำไมไม่คิดปฏิรูป เช่นปฏิรูปกองทัพ ตอนที่พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคไทยรักไทยยังมีอำนาจ นายวัฒนา อ้างว่าเพราะตอนนั้นมันยังไม่เกิดเหตุ เราเข้ามาหลังรัฐธรรมนูญปี 40 ช่วงที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย และกองทัพก็อยู่ในความสงบดี อยู่ดีๆเราจะไปาเหตุไปรื้อไม่ได้ มันจะเกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาแทน
"เพียงแต่คร้ังนี้มันมีเหตุแล้ว จึงจำเป็นต้องปฏิรูปกองทัพ แม้แต่องค์กรอิสระอย่างปปช. ที่ปัจจุบันกลายเป็นองค์กรฟอกขาวให้เผด็จการ เช่นเรื่องนาฬิกา" นายวัฒนาระบุ
นายวัฒนา เล่าถึงเมื่อครั้งไปฮ่องกงพบนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่า ไม่มีเรื่องการเมือง เราไปพบเพราะอยากกราบไว้ ในฐานะท่านทั้งสองเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรึกษาด้านการเมือง เพราะทั้ง 2 เพราะท่านไม่ได้อยู่เมืองไทย จะรู้เรื่องการเมืองเท่าคนที่อยู่ในประเทศได้อย่างไร อาจจะมีแค่เล่าสู่กันฟัง
ส่วนที่พูดกันว่าท่านจะให้คนนั้นคนนั้นคนนี้เป็นหัวหน้าพรรค บริบทการเมืองต่างจากอดีตแล้ว เป็นช่วงการต่อสู้กับเผด็จการ ถ้าจะเอาคนไม่เคยต่อสู้มาด้วยกันมาเป็นหัวหน้าพรรค พรรคก็แตก พวกตนก็คงไม่ยอม ต้องเอาคนที่ต่อสู้เพื่อประชาชนมา สมาชิกของพรรคถึงจะยอมรับ
"วันนี้ไม่มีความเป็นชินวัตรในพรรคแล้ว ถ้าสมัยเมื่อก่อน เรามีท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งมีความเป็นชินวัตร คนก็ถอยให้ แต่วันนี้นึกอยากจะเอาคนที่ไม่เคยต่อสู้มา คิดว่าคนในพรรคจะยอมรับหรือ"นายวัฒนา กล่าว
นายจอม ซักว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ถือเป็นคนร่วมต่อสู้กับพรรคด้วยมั้ย นายวัฒนานิ่งไปสักครู่ ก่อนตอบว่า ยังไม่ยุติ และต้องแยกจากกันระหว่างคนที่จะถูกเสนอเป็นหัวหน้าพรรค กับผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ คนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรค ส่วนคนที่จะถูกเสนอชื่อขึ้นเป็นนายกฯจำนวน 3 คนนั้น จะต้องเป็นคนที่ประชาชนยอมรับ
"คนที่ไม่เคยต่อสู้ร่วมกับพรรคเลย แต่ประชาชนให้การยอมรับ ก็มีสิทธิที่พรรคจะต้องเสนอชื่อเป็นนายกฯ เช่นกันหากสู้กับพรรคมา แต่ประชาชนไม่ยอมรับ ก็เสนอชื่อเป้นนายกฯไม่ได้ เสนอไปพรรคแพ้เลือกตั้งเลย ซึ่งจะต้องทำโพลแน่นอน" นายวัฒนากล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |