ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 วงเงิน 3,200,000 ล้านบาท วาระแรก ขั้นรับหลักการในช่วง 17-18 ตุลาคม แต่ล่าสุดฝ่ายค้านออกมาอ้างว่าได้รับการประสานจากวิปรัฐบาลจะให้มีการประชุมสภาเพิ่มอีก 1 วัน เป็น 3 วัน 3 คืน คือ 17-19 ต.ค. ที่ก็ต้องดูท่าทีของวิปรัฐบาลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

           โดยก่อนที่เวทีประชุมสภาดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้น พบว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมีการเตรียมความพร้อมก่อนถึงศึกใหญ่การเมืองดังกล่าว บนเดิมพันที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำพลาดไม่ได้ คือ ต้องผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่านความเห็นชอบในวาระแรกให้ได้ เพราะถือว่าเป็นกฎหมายสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน หากได้เสียง ส.ส.โหวตเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภา รัฐบาลก็ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออก หรือไม่ก็ต้องยุบสภา

อันพบว่า ถึงเวลานี้แกนนำรัฐบาลและแกนนำพรรคพลังประชารัฐเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2563 จะผ่านสภาวาระแรกไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน-งูเห่า เพียงแต่ก็ต้องลุ้น ต้องเช็กชื่อ เช็กเสียงกันเข้มข้น ในช่วงท้ายๆ ของการประชุม ก่อนปิดอภิปรายเพื่อลงมติโหวต ชนิด ส.ส.รัฐบาลคนไหน ถ้าเข้าห้องน้ำไปปัสสาวะหรือเกิดท้องเสีย ก็ต้องรีบเข้า-รีบออกจากห้องน้ำ ปลดทุกข์นานไม่ได้ ทุกอย่าง ทุกเสียง วิปรัฐบาลต้องคุมเข้มหมด ตรวจดูสภาพความพร้อมของฝ่ายรัฐบาลพบว่า เนื่องจากเป็นการประชุมที่มีการแจ้งไว้ล่วงหน้านานนับเดือน จึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมีเวลาเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมาระดับแกนนำพรรครัฐบาลมีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เพื่ออุดทุกช่องโหว่ เช่น รัฐมนตรี ซึ่งโดยปกติในช่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ รัฐมนตรีแต่ละคนก็ต้องเตรียมข้อมูลไว้สำหรับชี้แจงต่อที่ประชุม หากมีการอภิปรายพาดพิง ก็จะได้ลุกขึ้นชี้แจงได้ทันท่วงที แต่มารอบนี้ ที่เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ต้องมีการกำชับมากเป็นพิเศษขึ้นไปอีก โดยเฉพาะพวกรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขตหรือบัญชีรายชื่อ มีข่าวว่ามีการสั่งการกำชับกันภายในทุกพรรคร่วมรัฐบาลว่า ช่วง 17-20 ต.ค. ให้เคลียร์ทุกภารกิจ ไม่ต้องเดินทาง ลงคิวนัดหมายไปตรวจราชการที่ไหน และขอให้ รมต.แต่ละคนขนทีมงาน มานั่งทำงาน เซ็นเอกสารต่างๆ ที่ห้องรับรอง อาคารรัฐสภา เกียกกาย ตลอดช่วงการประชุมสภาในสัปดาห์หน้า ที่จะมีการจัดเตรียมห้องทำงานไว้ให้ รมต.แต่ละกระทรวง เป็นการเฉพาะ

เช่นเดียวกับ ส.ส.รัฐบาลก็มีข่าวว่า การประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 10 ต.ค.นี้ นอกจากจะหารือเรื่องกรอบการอภิปรายของ ส.ส.รัฐบาล ที่จะใช้สิทธิ์อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะได้โควตาการอภิปรายประมาณกี่ชั่วโมง จากนั้นก็จะให้แต่ละพรรคไปจัดสรรจำนวน ส.ส.ที่จะลุกขึ้นอภิปรายกันเองภายในพรรค รวมถึงการหารือเรื่องโควตาพรรคร่วมรัฐบาลที่จะส่งคนเข้าไปเป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่จะคุยกันก็คือ แนวทางการตรวจเช็กเสียง ส.ส.รัฐบาลในช่วงการอภิปรายที่อาจจะเป็นสามวันสามคืน โดยเฉพาะที่ต้องคุมเข้มก็คือ ช่วงท้ายๆ ของการประชุมที่อาจจะเป็นช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 19 ต.ค. ที่สภาจะต้องโหวตรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระแรก คาดว่าวิปรัฐบาลคงต้องทำงานกันหนักเพื่อเช็กเสียง เช็กชื่อ กันแบบรายชั่วโมง รายพรรค ว่าส.ส.รัฐบาลแต่ละพรรคอยู่กันครบหรือไม่ พรรคไหนอยู่ไม่ครบ หากหายไปแบบไม่แจ้งล่วงหน้า วิปรัฐบาลก็ต้องโทรศัพท์ไล่ตามกันเรียงตัว

ขณะที่การเตรียมพร้อมของฝ่ายค้าน พบว่าระดับแกนนำฝ่ายค้านและวิปฝ่ายค้านจะนัดคุยกันต้นสัปดาห์หน้าเพื่อกำหนดกรอบการอภิปราย โดยเฉพาะการจัดสรรเวลาของฝ่ายค้านในการอภิปราย ซึ่งการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ เป็นเวทีที่เปิดกว้าง ส.ส.แต่ละคนสามารถอภิปรายงบประมาณในกระทรวง-หน่วยงานที่ตัวเองสนใจ มีข้อมูลและทำการบ้านมา

เพียงแต่ก็ต้องอยู่ในแนวฝ่ายค้าน คือเน้นการอภิปรายเชิงวิพากษ์วิจารณ์–ตั้งข้อสังเกต ไม่ใช่มาอวย ชื่นชมรัฐบาล แต่ก็แน่นอนว่า ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน โดยเฉพาะพวกหัวหมู่ทะลวงฟัน–คีย์แมนแถวหน้าของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ย่อมต้องใช้เวทีสภารอบนี้อภิปรายชำแหละงบประมาณไปในแนวตำหนิติติง-ไม่เห็นด้วย-ตั้งข้อกังขา กับกรอบการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล โดยเฉพาะในกระทรวงหลักๆ ที่เป็นเป้าหมายใหญ่ของฝ่ายค้าน เช่น กระทรวงกลาโหม-กระทรวงการคลัง ด้วยการอภิปรายตัวเม็ดเงินงบประมาณ แล้วลากโยงสถานการณ์ต่างๆ ไปถึงตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี–รมว.กลาโหม ในงบด้านต่างๆ เช่น การจัดซื้ออาวุธของกองทัพ งบด้านความมั่นคง เป็นต้น ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าแกนนำรัฐบาลที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ในกระทรวงหลักๆ ก็น่าจะอยู่ในลิสต์บัญชีดำของฝ่ายค้านรอบนี้หลายคน อาทิ อุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ซึ่งคาดว่าจะมี ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายกรอบงบของกระทรวงการคลัง โยงไปถึงเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลอย่าง ชิม-ช้อป-ใช้ ด้วยแน่นอน

เวทีประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ  ปี 2563 ในสัปดาห์หน้า ที่จะได้เห็นการเผชิญหน้ากันระหว่างรัฐบาล VS ฝ่ายค้าน จึงเป็นฉากคั่นกลางก่อนจะเปิดสมัยประชุมสภา 1 พ.ย. ที่แม้ดูแล้ว คงไม่ถึงกับดุเดือดเลือดพล่าน แต่ก็น่าจะร้อนแรงระดับหนึ่ง แต่ไฮไลต์สำคัญจะไปอยู่ที่การโหวตเสียงเพื่อให้ผ่านวาระแรกมากกว่า เพราะเวทีนี้จะเป็นบทพิสูจน์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้ว่า สุดท้ายแล้วหากพรรครัฐบาลแท็กทีมกันแน่น โดยไม่ต้องมี ส.ส.งูเห่ามาเติม มันจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่?.