ถ้าหากบรรดา กองหนุน ที่เคยเนื่อง เคยหนุน ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ มาโดยตลอดช่วงระยะเวลาแห่งการ เราจะทำตามสัญญา-ขอเวลาอีกไม่นาน จะค่อยๆ ทยอยปลีกตัวไปเป็น กองเกิน ทีละราย-สองราย หรือกลุ่ม-สองกลุ่ม จนแทบไม่เหลือติดปลายนวมกันในช่วงระยะนี้ ก็ยังอาจถือว่า...ไม่ถึงกับหนักหนา-สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ เพราะอย่างน้อย...ก็ยังพออาศัย ติ่ง หรือ หูด ที่ประดิษฐ์ คิดค้น ขึ้นใหม่ พอทดแทนได้มั่งไม่มากก็น้อย...

                                                              ------------------------------------------------------

                แต่ถ้าหากบรรดา กองเกิน ในแต่ละราย แต่ละกลุ่ม ดันหันมาแปรสภาพตัวเองเป็น กองหลอน กันไปซะแทนที่ ด้วยความอดรนทนไม่ได้ หรือด้วยความที่ไม่ได้มี อุเบกขา เพียงพอ ที่จะจับแข้ง จับขาตัวเอง ไม่ให้เกิดอาการสั่น อาการกระตุกขึ้นมาได้ง่ายๆ คือชักเกิดอาการเปรี้ยวมือ เปรี้ยวตีน ขึ้นมาบ้างแล้ว อันนี้นี่แหละ...ออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล มิใช่น้อย และเป็นเรื่องที่ตัวของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ เองนั่นแหละ คงต้องหาเวลามานั่งตรวจสอบ ทบทวน ไม่ว่าก่อนหรือหลังการดูหนังสืบสวนสอบสวน Netflix กับ อาจารย์น้อง หรือระหว่างนอนเอาเท้าก่ายหน้าผากในช่วงไหนก็ย่อมได้...

                                                                ------------------------------------------------------

                เพราะถ้า กองเกิน มันดันแปรสภาพตัวเองไปเป็น กองหลอน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานนี้...ออกจะเป็นอะไรที่ลำบาก ตึงมือ ตึงไม้ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากโดยส่วนใหญ่นั้น ต้องเรียกว่า...ค่อนข้างมีมาตรฐานทางคุณภาพและคุณธรรมพอสมควร ถึงได้พร้อมที่จะอาสาสมัครเป็น กองหนุน ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ มาตั้งแต่แรก ต่างไปจากพวก ติ่ง หรือพวก หูด ที่ถึงแม้จะสั่งได้ ไว้ใจได้ พร้อมหันขวา-หันซ้าย พร้อมพิทักษ์ปกป้องนายกรัฐมนตรียิ่งกว่าไข่ในหิน ไปจนถึงพร้อมที่จะแหกทวารดมเพื่อสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจวันละ 3 เวลาหลังอาหาร แต่ในแง่ของมาตรฐานทางคุณภาพและคุณธรรมแล้ว อาจไม่ถึงกับ ได้ระดับมาตรฐาน มากมายซักเท่าไหร่...

                                                                 -----------------------------------------------------

                การพิทักษ์ปกป้อง หรือการสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ในบางครั้ง บางครา...มันเลยอาจกลายเป็นการเพิ่มจำนวนศัตรู เพิ่มผู้คนที่เกิดอาการมวนท้อง มวนลำไส้ ต่อสถานะบทบาทของนายกรัฐมนตรีขึ้นมาโดยใช่เหตุ ต่างไปจากพวก กองหนุน เดิมๆ ที่พร้อมอาสาสมัครเป็นกองหนุนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความเชื่อมั่น-ศรัทธา ว่า เราจะทำตามสัญญา...ขอเวลาอีกไม่นาน โดยพยายามฮึ้มฮึม ฮึ้มหึ่ม หรือพยายามร้องคลอเป็นลูกคู่มาโดยตลอด แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงหลังๆ นี้ หรือหลังจากผ่านมาประมาณ 4 ปี 5 ปี บรรดา คอรัส จำนวนไม่น้อย มันชักออกไปทาง รัดคอ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                                                 ----------------------------------------------------------

                แต่จะยังไงก็ตาม...ด้วยเหตุเพราะ ศัตรู ของ บิ๊กตู่ นั้น ออกจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว ยิ่งกว่าตัว บิ๊กตู่ ประมาณสองร้อยห้าสิบเท่าเป็นอย่างน้อย บรรดา กองหนุน เหล่านี้...แม้จะเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า เพียงใดก็แล้วแต่ อย่างมากก็แค่ปลีกตัวออกไปเป็น กองเกิน ไม่ถึงกับคิดจำแลงแปลงกายไปเป็น กองหลอน เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนสมาธิของ บิ๊กตู่ ในการที่จะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูฝ่ายตรงกันข้ามมากมายเกินไปนัก ฉากสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงท้ายๆ จึงหนักไปทาง พออยู่ๆ กันไป แบบชนิดเบื่อๆ อยากๆ กันไปเป็นพักๆ...

                                                                  --------------------------------------------------------

                อีกทั้งด้วยเหตุเพราะพระบารมีของ พระสยามเทวาธิราช หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ได้มีส่วนดลบันดาลให้บรรดา ศัตรู ของ บิ๊กตู่ ตายโหง ตายห่า กันไปเป็นแถบๆ ตายแบบไม่ต้องเสียเวลาลงมือ ลงตีน คือจู่ๆ ก็ตายไปเอง หรือออกไปทาง ฆ่าตัวตาย อะไรทำนองนั้น เลยทำให้ฉากสถานการณ์แบบ พออยู่ๆ กันไป จึงยังคงอยู่ได้ ไปได้ ไม่ถึงกับต้องตึงมือ ตึงไม้ ไม่ถึงกับก่อให้เกิดความวิตก กังวล ชนิดหนักหนา สาหัส มากมายซักเท่าไหร่นัก รวมไปถึงการที่บรรดา กองเกิน ทั้งหลาย ยังไม่หายเกลียด-กลัวศัตรูของบิ๊กตู่ ที่ค่อนข้างมีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับ ศัตรูของชาติ อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกทำนองนี้ จึงกลายเป็นตัวช่วยพิทักษ์ ปกป้อง บิ๊กตู่ ไปโดยอัตโนมัติ...

                                                                  --------------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปในแบบ อยู่ๆ กันไป ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะมีลูกฮึด ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้มันผิดแผก แตกต่าง ไปจากที่แล้วๆ มา อันนี้นี่เอง...ที่มันอาจทำให้บรรดา กองเกิน ชักเริ่มหมด อุเบกขา ไม่สามารถจับแข้ง จับขาตัวเอง ไม่ให้ชักกระตุกขึ้นมาในจังหวะไหน หรือเมื่อไหร่ ก็ย่อมได้ ด้วยเหตุนี้...คงต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาทไว้ซะแต่เนิ่นๆ ต้องระมัดระวัง ตรวจสอบ ทบทวน ถึงสถานะและบทบาทตัวเองระดับนาทีต่อนาทีเอาเลยก็ว่าได้ เพื่อไม่ให้บรรดา กองเกิน ทั้งหลาย ต้องแปรสภาพเป็น กองหลอน กัน ณ จุดใด จุดหนึ่ง หรือในฉากสถานการณ์ใด สถานการณ์หนึ่ง...

                                                                  -------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Publilius Syrus รัฐบุรุษและนักประวัติศาสตร์โรมัน... He is best secure from dangers who is guard even when he seems safe. – เขาคือผู้ปลอดภัยจากนานาอันตรายทั้งปวง ด้วยเหตุเพราะเขาระมัดระวังตัวทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองปลอดภัย...

                                                                   ---------------------------------------------------------