หมอประกิตจม.ถึงนายกฯ ขึ้นภาษียาเส้นแลกสุขภาพ


เพิ่มเพื่อน    


    หมอประกิตส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ชี้รัฐบาลมี 2 ทางเลือก แก้ปัญหาภาษียาเส้น ตามใจเกษตรกรยอมแบกคนป่วย หรือเยียวยาเกษตรกร หาอาชีพทดแทน แก้ปัญหาสุขภาพ
    ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากกรณีการเดินขบวนประท้วงการขึ้นภาษียาเส้น สืบเนื่องจากกระทรวงการคลังได้ขึ้นภาษียาเส้น แต่มีผู้ค้ายาเส้นและชาวไร่ยาสูบประท้วงขอให้ลดภาษีที่ขึ้นไปแล้ว และให้ชะลอการขึ้นภาษีตามแผนที่กำหนดไว้นั้น ตนจึงได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องนี้ของรัฐบาล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของคนไทย และต่อเนื่องมาถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคคนที่ป่วยจากการสูบบุหรี่ ซึ่งการสูบบุหรี่ยาเส้นเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและเรื้อรังของไทยมาโดยตลอด จากการเก็บภาษีที่ต่ำมาก ส่งผลให้ราคายาเส้นถูกมาก เป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เด็กๆ และเยาวชนเสพติดบุหรี่ และทำให้คนยากจนที่สูบบุหรี่ไม่เลิกสูบ ทั้งที่ยาเส้นก็มีอันตรายเหมือนกับยาสูบชนิดอื่นๆ 
    ศ.นพ.ประกิตกล่าวว่า รัฐบาลมีทางเลือกในการแก้ปัญหา 2 แนวทาง คือ 1.รัฐบาลทำตามที่ชาวไร่และผู้ค้ายาสูบเรียกร้องลดภาษียาเส้นที่ขึ้นไปแล้ว เรื่องก็จะจบ เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็ว แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะจะทำให้วัตถุประสงค์ของการขึ้นภาษี ที่ต้องการจะลดจำนวนคนไทยสูบบุหรี่ยาเส้นเกือบ 5 ล้านคนให้น้อยลง ก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น คนที่จะเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ก็จะไม่ลดลง รัฐบาลจะต้องรับภาระการรักษาพยาบาลคนที่ป่วยเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มภาระแก่โรงพยาบาล และงบประมาณ สปสช. ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกประเมินไว้ว่า การขึ้นภาษียาเส้นของรัฐบาลไทยครั้งนี้จะลดจำนวนคนที่สูบบุหรี่ยาเส้นลง 240,000 คน และจะทำให้ลดจำนวนคนที่จะป่วยและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 120,000 คน จากสถิติที่พบว่า ครึ่งหนึ่งของคนที่สูบบุหรี่จะป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ 
    เลขาฯ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่กล่าวว่า แนวทางที่ 2 คือ รัฐบาลทำตามข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก และข้อกำหนดของอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ที่ให้มีการขึ้นภาษียาสูบ และให้ใช้มาตรการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบด้วยวิธีอื่น โดยคงแผนการขึ้นภาษีไว้ เช่น เยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการขึ้นภาษี สนับสนุนให้ทำอาชีพอื่น หรือสนับสนุนการปลูกพืชทดแทน โดยอาจจะเอาเงินภาษียาเส้นที่เก็บเพิ่มขึ้นได้มาใช้เป็นงบประมาณในการแก้ปัญหา วิธีนี้จะส่งผลดีต่อแผนการขึ้นภาษีที่ศึกษาเตรียมการไว้อย่างดีมานานแล้ว ซึ่งจะทำให้คนสูบบุหรี่ลดลง คนเจ็บป่วยลดลง ประหยัดงบประมาณรักษาสุขภาพ และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ลดข้อครหาที่ว่า รัฐบาลทำอะไรที่ย้อนแย้ง คือทางหนึ่งก็จะเอาใจชาวไร่ยาสูบ อีกทางก็ลงแส้หน่วยงานต่างๆ ให้หาทางรณรงค์ลดการบริโภคยาสูบ ที่สำคัญ วิธีนี้แม้จะทำยากกว่า แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ซึ่งไม่ช้าก็เร็ว รัฐบาลจะต้องเดินทางนี้อย่างแน่นอน เพราะผู้คนจะปฏิเสธการใช้ยาสูบมากขึ้นๆ ความต้องการใบยาสูบมีแต่จะลดลงๆ
    "ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการยอมลดภาษียาเส้นตามที่มีการเรียกร้อง จะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง และลบล้างความพยายามควบคุมยาสูบที่หน่วยงานต่างๆ พยายามทำอยู่ สุขภาพของคนไทยก็ไม่ต้องหวังว่าจะให้ดีขึ้น เราเข้าใจ เห็นใจเกษตรกรและรัฐบาลต้องช่วยเหลือ เหตุการณ์การประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นวิกฤติ รัฐบาลต้องแก้ปัญหาโดยแปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเหมือนกับไม่ได้แก้ ขอให้รัฐบาลตัดสินใจเพื่ออนาคตสุขภาพของลูกหลานไทย ให้เราภูมิใจและศรัทธา".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"