9 ต.ค. 62 – นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “การต่อสู้ ที่ไม่มีวันชนะของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ภายใต้รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช.” ว่า “เห็นความมุ่งมั่น เพียรพยายามเดินสายของแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค และภาคประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มรดกบาปของเผด็จการ คสช. อันเป็นต้นตอวิกฤติชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ก็ได้แต่ชื่นชมและเป็นกำลังใจว่าทุกท่านทำดีที่สุดแล้วภายใต้บริบทสังคมไทยที่ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญโจรกบฏเผด็จการ และ ระเบียบกฎหมาย คำสั่งของเผด็จการ ที่สืบทอดอำนาจมาโดยมีอำนาจรัฐ ในนามรัฐบาล มีข้าราชการ 2 ล้านกว่าคนต้องปฏิบัติตามคำสั่ง มีบรรดาเหล่าทัพ ที่มีอาวุธหนัก เบา ครบมือค้ำยันสนับสนุน มีองค์กรอิสระที่พร้อมสนองอำนาจเป็นองครักษ์มีการโกงการเลือกตั้ง มีบัตรเขย่ง มีการใช้เงินภาษีแจกโปรยว่านหาเสียง เอาเปรียบทุกอย่าง คะแนนบริสุทธิ์ของประชาชน ไม่สามารถสู้กับคะแนนการโกงของฝ่ายเผด็จการได้
พวกเขามีกระบวนการยุติธรรมที่คอยรับใช้เผด็จการแบบมีธง โดยเฉพาะคดีการเมืองที่นักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นผู้ต้องหาส่วนใหญ่จะไม่รอดคุก หรือไม่ก็ต้องหนีเพื่ออิสรภาพ จากเหล่าอธรรม แต่ฝ่ายเผด็จการต่อให้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงใด เช่น มีนาฬิกาหรูหลายสิบล้าน มีเงินทองเป็นร้อยล้านพันล้าน โดยไม่มีเหตุผล มีบ้านมีคฤหาสน์สุดหรูโดยไม่มีที่มาก็ไม่ผิด คดีความต่างๆ ก็ได้รับการขจัดปัดเป่าให้หลุดพ้นความผิด ทุกอย่างขอเพียงอยู่ฝ่ายเผด็จการ รับใช้ระบอบเผด็จการเท่านั้น
ฝ่ายค้านพยายามชี้แจงให้ประชาชนได้เห็นถึงปัญหาของประเทศ ปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาการเมืองว่ามาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นสากล วิปริตผิดเพี้ยนอัปลักษณ์ที่สุด เท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา ทั้งยังเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศไทยทุกมิติ ชีวิตของประชาชนและลูกหลานของเราจะย่ำแย่ หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยจะมีชีวิตและความเป็นอยู่เลวร้ายลงเรื่อยๆ มากกว่าที่เป็นอยู่
แต่พอไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และเปิดเวทีเสวนาหาทางออกเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขปัญหาประเทศและประชาชน พร้อมยืนยันว่าหากได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายยังพอมีช่องทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช.ได้ ตามแนวทาง7 แนวทาง แต่ให้รู้ไว้เลยว่า ทั้งรัฐบาลประยุทธ์ พรรคร่วมรัฐบาล และบรรดาสมาชิกวุฒิสภาที่ คสช. แต่งตั้งมา ไม่มีทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. แน่นอน เพราะพวกเขาได้ประโยชน์สูงสุด และเป็นกลไกสืบทอดอำนาจระบอบเผด็จการ
7 พรรคร่วมฝ่ายค้านกลับถูกนายพลในสังกัด กอ.รมน ภาค 4 ที่ ผอ.กอ.รมน. ของประเทศ ก็คือตัว พลเอกประยุทธ์ ไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาล้มล้างการปกครอง แบ่งแยกดินแดนทั้งที่แกนนำทั้ง 7 พรรค ไม่ได้พูด มีเพียงอาจารย์ท่านหนึ่งที่ร่วมเสวนาพูด ถึงหมวด 1 และหมวด 2 และเป็นการพูดในทางวิชาการด้วย ไม่ได้พูดว่าจะแบ่งแยกดินแดน แบ่งแยกประเทศ อันจะเข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง มันเป็นสัญญาณว่าระบอบเผด็จการพร้อมแตกหัก พวกเขาประเมินสถานการณ์แล้วว่า พวกเขากุมสภาพอยู่ ฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคอยู่ในกำมือต่อสู้ ดิ้นรนในกรอบที่พวกเขากำหนด จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด เพราะองคาพยพของระบอบเผด็จการควบคุมเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทุกภาคส่วนแห่งอำนาจรัฐแล้ว ดิ้นไปทางไหนก็ติดล็อกติดกับดักของเครือข่ายเผด็จการทุกทาง หากจะสู้นอกเกมอำนาจก็ถูกกล่าวหาว่า ไม่เคารพกฎหมาย เล่นนอกกติกา จนถึงกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ล้มล้างการปกครอง และมีลิ่วล้อบริวารของเผด็จการยื่นให้ยุบพรรคอีก
แกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้านจึงควรร่วมหารือกันอย่างจริงจัง ว่าพวกเราจะเล่นในเกมที่เผด็จการกำหนดเพื่อสร้างความชอบธรรมให้เผด็จการ ในสังคมโลก ให้ระบอบเผด็จการอ้างเป็นความชอบธรรมบริหารประเทศ ใช้เงินภาษีประชาชน เสวยสุข บนความทุกข์ยากแร้นแค้นของประชาชน สร้างความหายนะให้ชาติบ้านเมืองของเราต่อไปเป็นเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย ที่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีวันชนะแบบนี้หรือ
หรือว่าพวกเรา จะไม่สยบยอม ไม่เล่นในเกมอำนาจ ที่เผด็จการกำหนด แล้วมาอยู่กับประชาชน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ปล่อยให้เผด็จการและบรรดาบรรดาลิ่วล้อบริวารของเผด็จการ เล่นไปฝ่ายเดียว พวกเผด็จการก็จะไม่มีความชอบธรรมต่อสายตาคนไทย และต่อสายตาชาวโลก หากพรรคมีมติที่จะไม่เล่นในเกมที่เผด็จการกำหนด ผมหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอันดับหนึ่งของประเทศไทย ก็พร้อมที่จะตัดสินใจ ตามมติของพรรคเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประชาธิปไตย เพื่ออนาคตลูกหลานของเราทุกคนครับ”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |