“ธนารักษ์” จ่อลุยลงพื้นที่สางปัญหาบุกรุกที่ทำกิน วางเป้าจัดสรรกรรมสิทธิ์ผู้เช่า 1ล้านไร่


เพิ่มเพื่อน    

8 ต.ค. 2562 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ธนารักษ์จังหวัดเร่งแก้ปัญหาการบุกรุกที่ทำกินในพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งมีผู้บุกรุกทั้งหมด 1.39 แสนราย ในพื้นที่ 1.36 ล้านไร่ทั่วประเทศ  ซึ่งกรมฯตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จะเร่งลงพื้นที่สำรวจรังวัด และจัดสรรกรรมสิทธิ์สัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ผู้บุกรุกได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย มีเนื้อที่กว่า 1 ล้านไร่ เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีสัญญาที่ทำกินถูกต้องตามกฎหมาย โดยกรมจะคิดค่าเช่าในราคาขั้นต่ำ ถ้าเป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตรจะเสียค่าเช่าปีละ 200 บาทต่อไร่ ขณะที่ค่าเช่าสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไป จะคิดตารางวาละ 25 สตางค์ต่อเดือน หรือปีละ 300 บาทต่อ 100 ตารางวาเท่านั้น

“การแก้ปัญหาที่ทำกินนี้ มีเป้าหมายเพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่ได้ให้ความสำคัญทางรายได้ โดยหากผู้บุกรุกไม่มีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ก็จะได้รับการรับรองสิทธิ์ด้วยการจัดสัญญาให้เช่า ซึ่งสามารถนำสัญญาเช่าไปใช้ยื่นประกอบการขอกู้กับธนาคารรัฐ รวมถึงสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอื่น ๆ ได้ เช่น กรณีเกิดภัยพิบัติจะได้รับเงินช่วยเหลือชดเชย แต่หากยังมีสถานะเป็นผู้บุกรุกจะไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย” นายยุทธนา กล่าว

ทั้งนี้ กระบวนการทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุกับธนารักษ์นั้น ธนารักษ์พื้นที่จะเร่งลงสำรวจพื้นที่ที่มีการบุกรุก พร้อมทั้งมีแผนจ้างบริษัทเอกชนภายนอก หรือข้าราชการที่มีความรู้และเกษียณไปแล้วมาช่วยจัดทำข้อมูล ซึ่งปัจจุบันพบว่าพื้นที่บุกรุกส่วนใหญ่ อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือจังหวัดสุราษฎร์ธานี และราชบุรี

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า กรมธนารักษ์ยังได้จัดทำโครงการ ศูนย์รวมชุมชนเพื่อพัฒนาเป็นตลาดนัดชุมชน จุดค้าส่งสินค้าชุมชน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว ตามโครงการประชารัฐสร้างไทย ซึ่งในวันที่ 11 ต.ค.นี้ จะนำร่องเปิดโครงการแรกในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กส.63 ตำบลหนองกุงศรี อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื้อที่ประมาณ1 ไร่ 1 งาน ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างจากส่วนราชการที่ส่งคืนมาให้กรมธนารักษ์จัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และเป็นช่องทางสร้างรายได้ในชุมชน

นอกจากนี้ กรมมีแผนเจรจากับหน่วยงานราชการให้มีการคืนที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์มาทำประโยชน์ให้กับชุมชนมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าภายในปีงบประมาณ 2563 กรมฯจะขยายศูนย์รวมชุมชนดังกล่าวให้ได้ 100 ชุมชน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมขายสินค้า หรือแผนการพัฒนาพื้นที่ในโครงการ ได้ที่ธนารักษ์จังหวัดทั่วประเทศ 

“การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ เพราะสามารถลดต้นทุนการจำหน่ายสินค้าได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้นตามไปด้วย โดยมีธนารักษ์จังหวัดเป็นผู้จัดสรรความต้องการการใช้พื้นที่ของคนในชุมชน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว” นายยุทธนา กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"