“การออกกำลังกายถือเป็นยาวิเศษ” ที่ช่วยป้องกันและรักษาสุขภาพได้ดีกว่าการไปหาหมอเพื่อรับยามารับประทานเป็นไหนๆ งานนี้จึงไม่แปลกที่คนวัยเก๋าหันมาดูสุขอนามัยด้วยการเอกเซอร์ไซส์เป็นประจำ และสิ่งที่ลืมไม่ได้นั้น การออกกำลังยังช่วยคลายเครียด ทำให้มีเพื่อน ที่สำคัญยังได้ฝึกสมาธิไปด้วยในตัว คุณประโยชน์สารพัดแบบนี้ ...บรรดาคนวัยเก๋ารักการออกกำลังมาบอกให้ทราบถึงกีฬาในดวงใจของตัวเอง ที่ช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพดี เจ็บป่วยน้อย ที่สำคัญไม่ต้องใช้เงินมากในการขยับร่างกาย
รำกระบอง, ไท้เก๊ก, เต้นทิเบต
(นฤมล จันทนโชติวงศ์)
คุณป้านฤมล จันทนโชติวงศ์ วัย 72 ปี ข้าราชการบำนาญศาลยุติธรรม บอกว่า “ตอนนี้เกษียณจากงานมาหลายปีแล้ว เวลาว่างจะชอบออกกำลังมากที่สวนหลวง ร.9 โดยเฉพาะการรำกระบอง ที่ช่วยทำให้ตัวเองได้ออกกำลังแบบสุด อาทิ เตะขาได้ไกลสุด ตรงนี้จะช่วยคลายเส้นและกล้ามเนื้อที่ยึดได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้จะมีการเต้นทิเบต ซึ่งเป็นลักษณะการออกกำลังโดยการยักไหล่ พยักหน้าไปตามจังหวะเสียงเพลง ซึ่งจะช่วยลดอาการหินปูนเกาะที่ไขข้อได้ค่อนข้างดี ป้องกันไหล่ติด และก็เป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไป และปกติก็มักจะออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ ประโยชน์ของการเอกเซอร์ไซส์ก็มีด้วยกันหลายด้านค่ะ ทั้งทำให้ร่างกายแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ได้เพื่อน มีสังคม เพราะการที่เราออกกำลังคนเดียว สุดท้ายเราก็จะเบื่อ แต่ถ้าไปออกกำลังกายเราจะได้เพื่อน ซึ่งนั่นไม่เพียงทำให้การขยับร่างกายเป็นไปอย่างสนุก เพลิดเพลิน และรู้จัก พูดคุย ซักถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อน นั่นจึงทำให้เรามีเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น”
ปั่นจักรยานตะกร้า-เล่นเครื่องออกกำลังในหมู่บ้าน
(กิม แซ่จง)
ป้ากิม แซ่จง วัย 68 ปี บอกว่า “ป้ามีโรคประจำตัวทั้งเบาหวานและไขมันสูง จึงเป็นจุดเปลี่ยนให้ตัวเองเริ่มหันมาออกกำลังในหมู่บ้าน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับคือช่วยคลายเครียดได้ดีมากๆ เพราะเวลาลูกหลานไปทำงาน ป้าต้องอยู่คนเดียว การออกกำลังกายจึงช่วยส่งเสริมสุขภาพได้เป็นอย่างดี ปกติก็จะชอบปั่นจักรยานตะกร้ารอบหมู่บ้าน ส่วนช่วงเย็นๆ ก็ไปสลับไปเล่นเครื่องออกกำลังกายในหมู่บ้าน ที่เป็นเครื่องเล่นยืนโยกตัวไปมา พอเหนื่อยก็หยุดพัก พอหายเหนื่อยก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือน้ำหนักตัวลดลง และรู้สึกเบาตัวเวลาที่เดินไปไหนมาไหน ที่สำคัญการออกกำลังกายถือเป็นการรักษาสุขภาพ ที่ไม่ต้องไปหาหมอและเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด”
นั่งปฏิบัติภาวนา-เต้นสมาธิ
(รัชพล เดชสุวรรณ)
คุณลุงรัชพล เดชสุวรรณ วัย 68 ปี ข้าราชการบำนาญโรงงานยาสูบ บอกว่า “ผมเกษียณราชการมา 8 ปีแล้ว ประกอบกับในช่วงที่ไม่ได้ทำงานแล้ว ผมเริ่มป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะอยู่บ้านไม่มีงานทำ และภรรยาป่วยกระทั่งเสียชีวิตไป แต่ตอนหลังจึงได้เริ่มไปปฏิบัติธรรมที่ศูนย์พลาญข่อย ช่องเม็ก ครั้งละ 10 วัน และไปอยู่ 1 ปีกว่า จึงทำให้หายจากโรคซึมเศร้า ทั้งจากการนั่งสมาธิปฏิบัติภาวนา รวมถึงการเต้นสมาธิที่ทางศูนย์จัดขึ้น ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการเต้นแอโรบิก แต่ขณะที่เราเต้นนั้นเราจะมีสมาธิ จิตจะรู้ทุกการเคลื่อนไหว ต่างจากการเต้นแอโรบิกที่เรามักจะขยับตามสติ การเต้นสมาธิก็จะคล้ายคลึงกับการปฏิบัติภาวนาไปด้วยในตัวครับ และเวลาที่ฝึกเราก็จะมีเหงื่อออกตามร่างกาย และได้ฝึกสติ เรียกความสงบให้เกิดขึ้นในใจ ดังนั้นการใช้เวลาว่างไปกับการออกกำลังกายและฝึกสมาธิ ก็เป็นตัวช่วยสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยทุกคน”
ปั่นจักรยาน
(ร.ต.พชร แก่นสำโรง)
ร.ต.พชร แก่นสำโรง ทหารเกษียณราชการ วัย 70 ปี บอกว่า “ผมขี่จักรยานเป็นประจำทุกวัน วันละประมาณ 4 กิโลเมตร และปั่นมาประมาณ 5 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นโรคปวดเข่าจึงออกกำลังด้วยวิธีนี้แทนที่จะวิ่งออกกำลัง และการปั่นจักรยานนั้นก็ทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ และทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น อีกทั้งการปั่นจักรยานก็ทำให้เรามีเพื่อนฝูงมากขึ้น อีกทั้งไม่รู้สึกเหงาครับ ดังนั้นถ้าอยากสุขภาพดีก็อยากให้คนเกษียณหันมาออกกำลังกันครับ แค่เดินสลับวิ่งเบาๆ เช้า-เย็นก็ได้เช่นกัน”
เต้นแอโรบิก-เดินออกกำลัง
(ลำไย ไชยลาด)
คุณป้าลำไย ไชยลาด บอกว่า “ปกติชอบเต้นแอโรบิกมาก ก็จะไปเต้นที่สวนมหาดไทย ส่วนหนึ่งก็อายุมากขึ้น ประกอบกับมีเวลาว่างก็เลือกมาออกกำลังกาย ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนสาธารณะ และยังได้เพื่อนเยอะขึ้น ได้พูดคุยกับคนโน้นคนนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วการเต้นแอโรบิกเป็นการช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ทางหนึ่ง ดังนั้นถ้าใครมีเวลาว่างและชอบออกกำลังกายกับคนหมู่มาก ที่ช่วยให้การขยับร่างกายคึกคักและสนุก ก็สามารถไปเต้นแอโรบิกตามสถานที่ต่างๆ ได้ นอกจากนี้พี่ก็จะเดินออกกำลังในสวนสาธารณะเช่นกัน เพราะการเดินจะช่วยลดการปวดกระดูกได้ และอีกทั้งยังทำให้ข้อต่อยืดหยุ่นได้ดี หรือแม้แต่การเดินออกกำลังในบ้านด้วยการทำงานบ้าน ก็เท่ากับเป็นการเอกเซอร์ไซส์ร่างกายไปด้วยในตัว”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |