ประวัติศาสตร์ที่ควรเคารพ


เพิ่มเพื่อน    

                 ๑๔ ตุลา ๑๖, ๖ ตุลา ๑๙, พฤษภาทมิฬ ๓๕ ล้วนเป็นบาดแผลในอดีต

                ที่สำคัญเป็นประวัติศาสตร์ร่วมของคนไทยทั้งชาติ 

                สองสามวันมานี้มีความพยายามยกเอาเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ มาเหมารวมว่า ไม่ต่างจากประเทศไทยยุคสมัยที่ปกครองโดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

                และคงตอกย้ำไปจนถึง ๑๔ ตุลาคมที่จะถึงนี้

                ว่า...เป็นยุคเผด็จการทหาร ตั้งหน้าตั้งตาเข่นฆ่าประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย 

                ถนอม ณรงค์ ประภาส เป็นอย่างไร ประยุทธ์ ก็เป็นอย่างนั้น

                เป็นสมการเผด็จการ

                แต่...มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ

                ปี ๒๕๑๖, ๒๕๑๙ หรือแม้กระทั่ง ๒๕๓๕ ทุกบริบทเหมือน ๒๕๖๒ อย่างนั้นหรือ

                ที่เหมือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ มีจุดเริ่มต้นจากรัฐประหาร

                แต่สาเหตุ...ไม่เหมือน

                ที่จริงการต่อสู้ทางอุดมการณ์ปี ๒๕๑๖, ๒๕๑๙ นั้นซับซ้อนกว่า ยุคปัจจุบันมาก

                ในอดีตมี "คอมมิวนิสต์" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ต่างฝ่ายต่างต่อสู้อยู่บนความหวาดกลัว

                แม้แต่คำว่า "ประชาธิปไตย" ก็ยังติดอยู่ในวงล้อมความขัดแย้ง

                อเมริกาเห็นว่า คอมมิวนิสต์ เป็นภัย จึงยืนอยู่ข้างฝ่ายขวา

                และผลลัพธ์ที่จะเกิดในวันนั้นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน หากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยชนะ รูปแบบการปกครองของไทยก็เปลี่ยนไป

                ไม่ใช่อย่างที่เป็นในวันนี้

                แต่...ไม่มีใครแพ้ใครชนะ เพราะประเทศไทยเป็นฝ่ายชนะด้วยนโยบาย ๖๖/๒๓ ในรัฐบาลป๋าเปรม

                ความขัดแย้งในอดีตยังแยกย่อยมีฝ่ายขวาจัด สร้างความวิปโยคให้ประเทศไทย

                "สมัคร สุนทรเวช" คนที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ใช้เป็นหุ่นเชิด ในอดีตก็คือ "ขวาจัด" ผู้คนที่ผ่านเหตุการณ์นองเลือดต่างรู้ดีว่า "สมัคร" มีส่วนร่วมอย่างไร

                ที่เหลือเชื่อกว่านั้น คนในเหตุการณ์เดือนตุลา ผันตัวมาทำงานเป็นลูกน้องทักษิณ กลับอยู่ร่วมรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" ในภายหลัง

                ในแง่อุดมการณ์จึงไม่ควรพูดถึงให้เปลืองน้ำลาย

                และปัจจุบันพรรคการเมืองนี้ อ้างว่าตัวเองคือฝ่ายประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ

                ประวัติศาสตร์ส่วนนี้ มิได้ถูกบันทึกเป็นตำราเรียน

                ไม่แม้กระทั่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย เอ่ยปากถึง

                กำเนิด คสช. คือการรัฐประหาร ใช้กำลังทหารล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ตามตำราคือผิด แต่นอกตำราอาจไม่เสมอไป

                แม้แต่อเมริกาประเทศต้นแบบประชาธิปไตย ยังให้การสนับสนุนการทำรัฐประหารในอียิปต์ หรือแม้กระทั่งอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหารที่เวเนซุเอลา

                เพราะบริบทของอเมริกามันเป็นเช่นนั้น

                เช่นเดียวกับไทย รัฐประหารโดย คสช. มีบริบทที่ต่างออกไปจากรัฐประหารในอดีต ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว เพราะความเลวร้ายของระบอบทักษิณ ที่ทำได้ทุกอย่าง จับขวาผสมพันธุ์ซ้าย แล้วอ้างว่าข้าคือฝ่ายประชาธิปไตย

                ทำให้ประชาชนจำนวนมากแคลงใจ ว่าสิ่งที่เห็นคือ ประชาธิปไตยสีเทา

                และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม คสช.จึงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกลุ่มใหญ่

                ใช่ว่าคนกลุ่มนี้ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์รัฐประหาร แต่เขาไม่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยสีเทาที่มีประวัติโกงแผ่นดิน

                เหตุการณ์เดือนตุลาคมคือประวัติศาสตร์ร่วมของคนไทยทั้งชาติ

                ใครก็ตามที่นำมาเพื่อสนองจริตทางการเมืองของตนเอง นอกจากไม่เคารพประวัติศาสตร์แล้ว

                ยังหยาบช้า น่ารังเกียจ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"