“มาสิครับผมจะเล่าให้ฟัง” แคมเปญแก้รัฐธรรมนูญของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ใช้วันที่ 6 ตุลาคม เคลื่อนไหว อ้างว่าจัดงานตรงกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย คือวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ครบรอบ 43 ปี ก็หวังว่าสังคมไทยจะไม่ลืมเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีก แต่สิ่งที่ "ธนาธร" ไม่พูดถึงคือบริบทปี 2519 กับ 2562 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่พรรคพวกของ "ธนาธร" พยายามอย่างสุดฤทธิ์ ให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เป็นอย่าง "จอมพลถนอม กิตติจร" ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย แอบอยู่ข้างหลัง ยุให้คนรุ่นใหม่นำหน้า อาจเพราะหน้าบาง จากเมื่อครั้งเป็นพรรคพลังประชาชนเคยใช้บริการนักการเมืองขวาจัดอย่าง "สมัคร สุนทรเวช" เป็นนายกรัฐมนตรีนอมินี ฉะนั้น หาก "ธนาธร" จะเล่า ก็น่าจะเล่าให้หมดเปลือก เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์คือประชาชน ...๐

                "ธนาธร" บอกว่า "รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มีปัญหามาก ตั้งแต่ที่มาเนื้อหา และกระบวนการ เราต้องอาศัยความแน่วแน่ และการทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเรื่องของความฝันของยุคสมัย เป็นเรื่องของประชาชน จึงเรียนว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ ประเทศก็ไม่สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้" อยากถาม "ธนาธร" กลับว่า ทำไมถึงเดินหน้าไปไม่ได้ เพราะอย่างน้อยหลังรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ เรามีสภาผู้แทนราษฎร มี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ รวมถึงตัว "ธนาธร" เรามีรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมือง พูดได้ว่านี่คือก้าวแรกๆ ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้ คงไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญ แต่น่าจะเป็น "ธนาธร" ต่างหากที่ขวางไม่ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า....๐

                ลึกลงไปอีกนิดกับสิ่งที่ "ธนาธร" เล่า “ผมเพิ่งรู้ว่าเป็นคนเลวแค่ไหนก็ตอนตั้งพรรคนี่ละ แต่ผมคิดว่าคนที่อยู่ที่นี่น่าจะเข้าใจ เพราะสิ่งที่เราพยายามทำคือการท้าทายอำนาจ และระบอบที่ไม่เป็นธรรม ฉะนั้นไม่แปลกใจที่ระบอบนี้พยายามจะล้มเรา เพราะหมายความว่าการมีเราอยู่ทำให้พวกเขาสั่นคลอน และจำเป็นต้องจัดการกับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุกคนดีที่เกิดขึ้นเกิดจากแรงจูงใจที่จะทำลายกันทางการเมือง มากกว่าที่จะอาผิดตามตัวบทกฎหมาย”

                "หนึ่งอย่างที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่วันตั้งพรรคถึงวันนี้คือ ความแน่วแน่ที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ระบบข้าราชการรวมศูนย์ กระบวนการยุติธรรมที่ไม่สามารถผดุงความยุติธรรมไว้ได้ และกลุ่มทุนผูกขาด ที่เป็นเสาค้ำความอยุติธรรมของสังคมไว้อยู่ เราไม่ใช่กลุ่มคนแรกที่เลือกเดินทางเส้นนี้ มีคนเลือกเดินตามเส้นทางนี้ก่อนปี 2475 ด้วยซ้ำ หากพวกท่านจำกบฏหมอเหล็งได้ ส่วนใหญ่ที่เลือกส้นทางเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในคุกก็อยู่ต่างประเทศ" ไม่ต้องตีความใดๆ เพราะ "ธนาธร" รู้ดีแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่สุดท้ายไม่อยู่ในคุกก็หนีไปต่างประเทศ....๐

                "สราวุธ เบญจกุล" เลขาธิการศาลยุติธรรม เข้าเยี่ยมอาการ "คณากร เพียรชนะ" ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อัพเดตอาการล่าสุด "ปลอดภัยดีแล้ว"  ออกจากห้อง ICU พักรักษาตัวห้องพักผู้ป่วยปกติแล้ว "นพ.บรรยง เหล่าเจริญสุข" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา และ นพ.สมชาย ไวกิตติพงษ์ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก ยืนยันอีกสองเสียง โดนกระสุนปืนที่ทรวงอกด้านซ้ายด้านล่าง ทะลุออกด้านหลังซ้าย ทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จึงพบว่าบริเวณม้ามมีรอยฉีกขาด ทำให้มีเลือดออกบริเวณช่องท้อง แต่ในปริมาณไม่มาก...๐

                แพทย์วินิจฉัยว่า อาการเช่นนี้ยังไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัด จึงให้รักษาตัวตามอาการที่ตึกไอซียู และให้ยาที่ช่วยในเรื่องหยุดเลือดของม้ามได้ จากนั้นก็ให้อยู่ในห้องไอซียู 1 วัน ติดตามสัญญาณชีพ เฝ้าระวังเลือดออกในช่องท้อง ป้องกันการช็อกจากการเสียเลือด แต่จากการเฝ้าดูอาการ 1 วัน พบว่าสัญญาณชีพปกติ จึงให้เฝ้าดูอาการต่อโดยไม่ต้องตัดม้าม จากนั้นก็ได้ย้ายผู้ป่วยไปพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษ และเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ "ท่านคณากร" มีอารมณ์แจ่มใส ยิ้มแย้มแจ่มใส น่าจะต้องพักรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ หายเป็นปกติ ส่วนสาเหตุ "ยิงตัว"  วันนี้ (7 ตุลาคม) เรื่องจะเข้าสู่การสาระประชุมของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เป็นประเด็นที่ต้องตามกันต่อไป...๐ 

เกษมราษฎร์