เมืองอ่างทอง เมืองใกล้ๆ กรุงเทพฯ ที่มีอะไรน่าสนใจให้ได้เที่ยวมากมาย และควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง จะเลือกมาแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือสักคืนก็ยังได้เรียกได้ว่า ครบทุกอารมณ์ ทุกรสชาติ ในแบบฉบับเที่ยวไทยเท่ ทั้งนี้ จากข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวภาคกลาง.com จึงนำเสนอ10 สถานที่เที่ยวที่กินที่ช็อปปิ้งและพักผ่อนในคราวเดียว เพื่อสะดวกในการตัดสินใจไว้ดังนี้

เริ่มจากที่แรกคือ “ตลาดศาลเจ้าโรงทอง” หรือตลาดวิเศษไชยชาญ แหล่งตั้งรกรากของคนไทยเชื้อสายจีนมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เคียงคู่ศาลเจ้าโรงทองที่ชาวบ้านนับถือ เป็นบ้านเรือนไม้เก่าแก่ผสมบ้านสร้างใหม่ที่ยังคงลักษณะแบบโบราณเอาไว้ พร้อมร้านค้าและของกินเก่าแก่คู่ตลาด เช่น ขนมเกสรลำเจียก ขนมบ้าบิ่น ขนมไข่ปลา ก๋วยเตี๋ยวโต๊ะเดียว ร้านกาแฟกาเจ๊า ฯลฯ เปิดทุกวัน

2.“วัดม่วง” เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ที่แค่มองจากถนนก็ได้เห็นถึงความอลังการขององค์พระแล้ว ยิ่งเข้ามาชมใกล้ๆ ก็ยิ่งต้องแหงนคอตั้งบ่า เพราะองค์พระมีความสูงถึง 95 เมตรเลยทีเดียว ใครขับรถมาถึง อ.วิเศษชัยชาญทั้งที ต้องห้ามพลาด

3. “วัดขุนอินทประมูล” โดดเด่นใจกลางวัดคือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับสองของไทย สร้างโดยขุนอินทประมูลในสมัยกรุงศรีอยุธยา อันกลายเป็นที่มาของชื่อวัด นอกจากโบสถ์โบราณที่ปกคลุมด้วยรากไม้ ยังมี “โบสถ์ไฮเทค” ประดับภาพจิตรกรรมสวยงาม พร้อมลิฟต์และบันไดเลื่อนให้บริการญาติโยม

4.“ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ” เป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  มีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น ทุกวันนี้นอกจากจะมีตุ๊กตาชาววังจำหน่ายหลากหลายรูปแบบแล้ว ยังมีการสาธิตปั้นตุ๊กตาชาววังให้ชมด้วย เปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. สอบถามโทร. 0-3566-2995

 5.“อินทร์โตฟาร์ม” เที่ยวฟาร์มเมลอนบรรยากาศน่ารักๆ ชมแปลงเมลอนหลากสายพันธุ์กว่า 40 โรงเรือน สวนดอกไม้ ร้านอาหาร และร้านกาแฟสุดเก๋ ที่ห้ามพลาดเลยคือบรรดาผลิตภัณฑ์จากเมลอน ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมเมลอน น้ำเมลอน เค้กเมลอน เปิดทุกวัน 10.00-18.00 น. สอบถามโทร. 09-2729-4433

6.“วัดจันทรรังสี” เป็นวัดใน อำเภอเมืองอ่างทอง ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพรทั้งจากองค์หลวงพ่อสด ซึ่งตั้งอยู่ภายในวิหารทรงจัตุรมุขที่สวยงาม รวมทั้งหลวงพ่อโยก พระเก่าแก่ศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยเรียกตามเรื่องเล่าว่ามีชาวบ้านเห็นองค์พระโยกไปมาเองได้

7.“วัดไชโยวรวิหาร” ประดิษฐานหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมารัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวิหารครอบองค์พระ โดยหันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ภายในประดับภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยนั้นอย่างสวยงาม

8.“วัดป่าโมกวรวิหาร” ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่มาของตำนาน พระพูดได้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยบอกสูตรยารักษาโรคระบาดในสมัยนั้น เมื่อชาวบ้านนำไปใช้รักษาจนหาย กลายเป็นที่เลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ นอกเหนือจากตำนานพระนอนวัดป่าโมก ยังมีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งของไทยด้วย

 9.“หมู่บ้านทำกลองเอกราช” อยู่ที่บ้านบางแพ อำเภอป่าโมก ชมวิธีทำกลองแบบต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งตะโพน กลองทัด กลองโทน กลองยาว รำมะนา ตามวิธีที่สืบทอดมาแต่โบราณ ไปจนถึงกลองนานาชาติ เช่น กลองไทโกะของญี่ปุ่น, กลองเซมเบ้จากทวีปแอฟริกา เป็นต้น นอกจากจะได้ความรู้ไปเต็มๆ ยังสามารถช็อปกลองใหญ่กลองจิ๋ว กลับไปเป็นที่ระลึกได้ด้วย สอบถามโทร. 08-6379-9186

ปิดท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สิบ “พิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทอง” ปูแบ็กกราวด์เกี่ยวกับจังหวัดอ่างทองกันก่อน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งบอกเล่าทั้งประวัติศาสตร์ ยุคสมัยต่างๆ วัฒนธรรมประเพณี อาหารการกิน ศิลปหัตถกรรม มาแล้วจะได้ความรู้ ไม่ว่าจะเรื่องความเป็นมาของวีรชนคนอ่างทอง เช่น ขุนรองปลัดชู พันท้ายนรสิงห์ เป็นต้น รวมทั้งวัฒนธรรม อย่างการเล่นลิเก การปั้นตุ๊กตาชาววัง การทำกลอง การแข่งเรือยาว ใครไม่เคยมาอ่างทองจะได้รู้ว่าจังหวัดนี้มีหลายอย่างให้น่าออกไปค้นหา ที่ตั้ง : ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เวลาเปิด-ปิด : 08.30-16.30 น. (เปิดวันอังคาร-อาทิตย์) โทร. 0-3561-3464

                เชื่อว่า 10 แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวนี้ จะทำให้ทุกท่านมาเยือนเมืองอ่างทองแห่งนี้ได้ไม่ยาก และมั่นใจจะได้รับความสุขกลับออกไปอย่างแน่นอน  ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง 1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2250-5500 TAT Call Center: 1672