ผู้เสียชีวิตในเหตุประท้วงนองเลือดทั่วอิรักตั้งแต่วันอังคารเพิ่มเป็นอย่างน้อย 46 ศพแล้วในวันศุกร์ ส่วนใหญ่สังเวยการปะทะช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ขณะสถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำศาสนานิกายชีอะห์เตือนนักการเมืองฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน

รถของตำรวจปราบจลาจลโดนเผาระหว่างการปะทะที่กรุงแบกแดดเมื่อวันพฤหัสบดี / AFP

    อยาตุลเลาะห์ อาลี อัลซิสตานี ผู้นำศาสนาสูงสุดของนิกายชีอะห์ในอิรัก กล่าวถึงสถานการณ์วุ่นวายในประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม โดยเรียกร้องทั้งฝ่ายผู้ประท้วงและกองกำลังความมั่นคงหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ขณะเดียวกันก็สั่งให้รัฐบาลและนักการเมืองทั้งหลายตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง

    ผู้นำศาสนาของชาวชีอะห์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในอิรัก ยังกล่าวโทษรัฐสภาของอิรักว่าคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดต่อสถานการณ์วุ่นวายในขณะนี้

    เมื่อคืนวันพฤหัสบดี นายกฯ อเดล อับดุล มาห์ดี แถลงผ่านโทรทัศน์ว่า ตัวเขาและนักการเมืองเข้าใจความคับแค้นของประชาชน พวกเขาไม่ได้นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง แต่ก็ไม่มีทางออกวิเศษที่จะแก้ปัญหาของอิรักได้ เขาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและขอให้สมาชิกรัฐสภาสนับสนุนการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อลดอำนาจของพรรคการเมืองใหญ่และกลุ่มการเมือง ทั้งยังรับปากด้วยว่ารัฐบาลจะหารือเรื่องค่าแรงพื้นฐานสำหรับครอบครัวที่ยากจน

    คำกล่าวของผู้นำอิรักซึ่งเพิ่งดำรงตำแหน่งไม่ถึง 1 ปี ไม่สามารถระงับความโกรธเกรี้ยวของผู้ประท้วงได้ เหตุการณ์ไม่สงบซึ่งได้แรงส่งจากความคับแค้นเรื่องการคอร์รัปชันและมาตรฐานการใช้ชีวิตที่ย่ำแย่ของชาวอิรัก ถือเป็นการท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ของอิรักนับแต่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกโค่นล้มเมื่อปี 2560

    รอยเตอร์อ้างข้อมูลของตำรวจและหน่วยแพทย์เมื่อวันศุกร์ว่า ผู้เสียชีวิตจากการปะทะตั้งแต่วันอังคารเพิ่มเป็น 46 คนแล้ว มากที่สุด 18 คนเสียชีวิตที่เมืองนัสซิริยะห์ ที่เหลือมีทั้งในกรุงแบกแดด, เมืองอามารา, บากูบา, ฮิลลา และนาจาฟ

    ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ชาวชีอะห์จะเริ่มพิธีแสวงบุญอัรบาอีน ซึ่งหลายปีมานี้มีผู้แสวงบุญเข้าร่วมถึง 20 ล้านคน ชาวชีอะห์เริ่มเดินเท้าเพื่อแสวงบุญแล้วเมื่อวันศุกร์ ครูสอนศาสนาอาวุโสในอิหร่านรายหนึ่งกล่าวโทษสหรัฐและอิสราเอลว่าปลุกปั่นสถานการณ์ในอิรักเพื่อขัดขวางพิธีนี้.