จั่วหัวล่วงหน้ากันตั้งแต่ไก่โห่ ถึง "ว่าที่ ผบ.ตร." คนต่อจาก "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผบ.ตร. แม้ "ผบ.แป๊ะ" จะเหลืออายุราชการอีกถึง 1 ปี หรือ 12 เดือนเต็มๆ ก่อนเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.63

                แต่พอเห็นคำสั่งแบ่งงาน "รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร." ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์มอบหมายงานใหม่ให้นายตำรวจระดับ "บริหาร" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป

                สปอตไลต์ก็สาดส่อง "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ใหม่ป้ายแดง โดดเด่นกว่าใครเพื่อน

                การแบ่งงานครั้งนี้ "ผบ.แป๊ะ" แบ่งเป็น 6 สายงาน

                งานฝ่ายงานบริหาร (บร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. นรต.38 รับผิดชอบ

                งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ปป.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.  นรต.36 รับผิดชอบ

                งานสืบสวนสอบสวน (สส.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. นรต.36 รับผิดชอบ

                งานกฎหมายและคดี (กม.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นรต.37 รับผิดชอบ

                งานความมั่นคงและกิจการพิเศษ (มค.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.  นรต.36 รับผิดชอบ

                งานจเรตำรวจ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.37 รับผิดชอบ

                แม้ตามกฎ ตามระเบียบ การขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ทั้ง รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ยศพล.ต.อ.ทุกนายมีสิทธิ์เท่าเทียมกันหมด

                เมื่อตัดผู้ที่เกษียณอายุราชการปี 2563 พร้อมๆ กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ซึ่งมี 1 ราย คือ "บิ๊กช้าง" พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ ก็จะเหลืออีกเพียง 5 รายที่มีลุ้น มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้

                "ผู้นำสีกากี"

                ทั้ง พล.ต.อ.วิระชัย เกษียณปี 2565 พล.ต.อ.สุชาติ เกษียณปี 2565 พล.ต.อ.มนู เกษียณปี 2564  พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ เกษียณปี 2564 และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ เกษียณปี 2565

                แต่ที่บอกว่า "สปอตไลต์" สาดส่อง "บิ๊กปั๊ด" ก็เพราะองค์ประกอบต่างๆ ดูจะเป็นใจ ดูจะเทน้ำหนักไปให้มากกว่าใครเพื่อน โดยเฉพาะเช็กไลน์ เช็กสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 20 (ตท.20) ชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์เลยขึ้นมาอยู่ระดับแถวหน้าๆ

                แม้ในไลน์ระดับ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ จะเป็น "น้องสุดท้อง" ก็ตาม

                ที่สำคัญการได้รับมอบหมายจาก "ผบ.แป๊ะ" ให้คุมงานด้านความมั่นคง (มค.) เหมือนปูทาง เหมือนปูฐาน ส่งไม้แตะมือให้เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 ต่อคิว "ผบ.ตร." คนต่อไป

                ยิ่งย้อนประวัติศาสตร์ "สำนักปทุมวัน" ช่วงที่ คสช.ยึดอำนาจ ตามมาด้วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สมัยแรก ต่อด้วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์สมัย 2 งานความมั่นคงจะได้รับความสำคัญมากเป็นพิเศษ

                เห็นได้จากช่วงที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการ มีแคนดิเดตชิง "ผู้นำสีกากี" 2 ราย คือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. (ดูแลงาน ปป.) กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ (ดูแลงาน มค.) และยังเป็นอาวุโสลำดับสุดท้าย

                ปรากฏว่าในวงประชุม ก.ต.ช.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะ ก็เคาะชื่อ "บิ๊กแป๊ะ" เป็น ผบ.ตร.ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ

                แล้วจะมีชื่อ "พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข" ขึ้นเป็น "ผบ.ตร." ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ไม่ได้เชียวหรือ.