เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทางการฮ่องกงเตรียมจะใช้กฎหมายฉุกเฉินห้ามการสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าระหว่างการชุมนุมประท้วง

แฟ้มภาพ ผู้ประท้วงสาวชาวฮ่องกงสวมหน้ากากกาย ฟอว์กส์ ไว้ด้านหลังศีรษะ ขณะปีนเสาสัญญาณจราจรติดตั้งศิลปะเพื่อการประท้วง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 กล่าวว่า กระแสเรียกร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงฝ่ายนิยมปักกิ่ง ที่ต้องการให้รัฐบาลฮ่องกงใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ตกทอดมาแต่ยุคเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษนั้น กลับมาเสียงดังขึ้นอีกครั้งภายหลังการชุมนุมประท้วงเนื่องในวันชาติจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดการปะทะรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 4 เดือนที่มีการชุมนุม มีวัยรุ่นคนหนึ่งที่ใช้ท่อนเหล็กต่อสู้กับตำรวจโดนกระสุนจริงได้รับบาดเจ็บด้วย

    ผู้ประท้วงมักปกปิดหน้าตาด้วยการสวมหน้ากาก สวมหมวกนิรภัย, แว่นกันลม และหน้ากากป้องกันแก๊ส เพื่อป้องกันตนเองจากแก๊สน้ำตาและกระสุนปราบจลาจลของตำรวจ แต่หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่กำลังมีแผนจะขัดขวางการชุมนุมในอนาคตด้วยการใช้กฎหมายฉุกเฉิน ซึ่งไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติ และคาดว่า แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุด จะประกาศใช้กฎหมายนี้ในวันศุกร์

    เอลิซาเบธ ควอต ส.ส.ฝ่ายหนุนปักกิ่ง กล่าวว่า ถ้าใช้กฎหมายนี้ก็จะช่วยยับยั้งผลกระทบต่อประชาชนบางส่วน "เราไม่ได้พูดถึงผู้ประท้วงอย่างสันติ เรากำลังพูดถึงพวกที่ใช้ความรุนแรงอย่างผิดกฎหมาย" เธอกล่าว

    ด้านเดนนิส คว็อก ส.ส.ฝ่ายหนุนประชาธิปไตย กล่าวว่า กฎหมายฉุกเฉินจะเป็นสัญญาณของ "การเริ่มถลำเข้าสู่รัฐเผด็จการอำนาจนิยม" ถึงตอนนี้รัฐควรฟังเสียงของประชาชนชาวฮ่องกง ความถวิลหาอิสรภาพ, เสรีภาพ และประชาธิปไตยของพวกเขาจะไม่จางหายไป

    รายงานข่าวการออกคำสั่งแบนหน้ากาก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงปรับเพิ่มขึ้น โดยปิดตลาดวันพฤหัสบดีเพิ่ม 0.3%.