3 ก.ย.62- นายสลักธรรม โตจิราการ บุตรชายนพ.เหวง โตจิราการ โพสต์เฟซบุ๊ก จากการเขียนสตาตัสเรื่อง “สแกนหน้าในชิมช็อปใช้” ทำให้มีหลายท่านมาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งจะขออนุญาตตอบเฉพาะที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ ส่วนที่โจมตีเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ผมคิดว่าคงเพราะไม่สามารถถกเถียงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์กับผมได้ ก็คงได้แค่แผ่เมตตา เพราะสติปัญญาคงไม่เพียงพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดได้
เดี๋ยวจะอธิบายเป็นข้อๆนะครับ
-“รัฐบาลมีภาพของเราที่ถ่ายตอนทำบัตรประชาชนอยู่แล้ว เราถ่ายภาพให้รัฐบาลไปอีกรอบไม่น่าจะมีผลอะไรมั้ง?”
ตอบ: ประเด็นของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเก็บภาพคนซึ่งรัฐมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่คือการทดลองเอารูปถ่ายในสถานการณ์จริงที่ไม่ได้มีการควบคุม(รูปที่ถ่ายเพื่อเปิด”ชิมช็อปใช้”) เปรียบเทียบกับรูปในฐานข้อมูลของรัฐที่มีอยู่ (ตัวอย่างที่เอามาได้เช่นรูปจากฐานข้อมูลบัตรประชาชน) เวลาถ่ายแล้ว “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” ก็สามารถเอาข้อมูลตรงนี้มาปรับปรุง “ระบบจดจำใบหน้า” ให้แม่นยำขึ้น
-“กูเกิล เฟซบุค ก็มีการพัฒนาการจดจำใบหน้าอยู่แล้วเหมือนกัน”
ตอบ:ลองคิดดูนะครับว่า หากรัฐบาลไทยมีข้าราชการทุจริตจำนวนไม่น้อยสิงสู่อยู่ เกิดมีศักยภาพในการใช้ระบบจดจำใบหน้าทัดเทียมกับกูเกิล เฟซบุค น่ากลัวแน่นอน
-“ถ้าเราเป็นคนดี ระบบจดจำใบหน้าที่รัฐบาลไทยทำไม่น่ากลัวหรอกมั้ง?”
ตอบ: ระบบจดจำใบหน้าแบบนี้อาจถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเอาไปใช้ ถ้าผนวกกับระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ และใส่ชื่อเราเป็นบุคคลที่”ต้องสงสัย”แค่เราก้าวเท้าไปไหนที่มีกล้องวงจรปิด กล้องจะส่งภาพและตำแหน่งของเราไปให้”ส่วนกลาง” เรื่องนี้น่ากลัวอย่างไร ผมจะยกตัวอย่างซัก2อันให้เห็นความน่ากลัวนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ตัวอย่างที่ 1 ถ้าเราไปรื้อเรื่องทุจริตของข้าราชการหรือตำรวจระดับสูงที่เข้าถึงข้อมูลพวกนี้ ข้าราชการกังฉินคนนั้นรู้โดยอัตโนมัติว่าเราอยู่ไหน แปลว่าเขาจับตาเราได้ทุกฝีก้าว อยากจะอุ้มฆ่าเราเมื่อไหร่ก็ได้สบายเลยครับ
ตัวอย่างที่ 2 หากผู้นำทางการเมืองอย่างประยุทธ์เกิดอยากจะจับกุมคนเห็นต่างทางการเมือง ก็ย่อมรู้โดยอัตโนมัติว่าผู้เห็นต่างทางการเมือง หรือผู้ร่วมชุมนุมอยู่ที่ไหน แล้วสามารถตามจับได้ รวมถึงตามคุกคามพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายโดยง่าย
ถ้าคุณคิดว่า “ระบบนี้ดีเอาไว้จัดการพวกเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองหรือพวกซอมบี้ส้ม” ผมอยากให้คุณลองคิดดู “เกิดวันหน้าทักษิณหรือธนาธรขึ้นมามีอำนาจแล้วลุแก่อำนาจใช้วิธีแบบนี้ขึ้นมา จะน่ากลัวแค่ไหน?” ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงจะโดนเล่นงานในอนาคต ก็ลองฟังที่ผมว่ามาบ้างเถอะครับ
ผมเองเสนอว่า ในการใช้ฐานข้อมูลระบบจดจำใบหน้า รัฐต้องมีความโปร่งใส ถ้าจะสร้างต้องมีการขอจากสภาเป็นเรื่องราว มีคณะกรรมการตรวจสอบจากภายนอกว่าจะใช้เพื่อกิจการใด และผู้ที่ถูกระบบจดจำใบหน้าของรัฐละเมิดต้องมีสิทธิ์เอาผิดรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเมิดได้โดยง่ายและรวดเร็ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |