แฟ้มภาพ
2 ต.ค.62 - นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 20/2562 ว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อวางแผนในการบริหารน้ำและบริหารสถานการณ์ ตามคำสั่งของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติที่ได้สั่งการ เพื่อให้ได้มาตรการเชิงรุกสำหรับการรับมืออุทกภัยในฤดูฝนของภาคใต้ช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งกองอำนายการชี้เป้าไว้ว่าในเดือนตุลาคม 2562 มี 12 จังหวัด ทั้งภาคใต้ และภาคตะวันออก ที่ต้องเฝ้าระวังถึงเดือนพฤศจิกายน 2562 พร้อมกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ตั้งศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำ (ส่วนหน้า) เพื่อรับมืออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อระดมความพร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักรกล ไว้ประจำจุดเสี่ยงน้ำท่วมทั้งหมด
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติให้หน่วยงานดำเนินการ ประกอบด้วย การทำเกณฑ์บริหารน้ำแบบไดนามิค ที่กรมชลประทานได้มีการทำขึ้นในสมัย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีต รมว.เกษตรฯ ได้ออกแบบกันไว้ คือ การบริหารน้ำในอ่างจะเป็นไปตามพลวัตร เช่น การระบายน้ำออกต้องสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้า การทำเกณฑ์บริหารน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนแก่งกระจาน และอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา เกณฑ์บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำกักเก็บมากกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ในภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ รวมถึงการทำผังแจ้งเตือนน้ำในแม่น้ำสายหลัก 18 สาย 12 จังหวัด อาทิ แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี แม่น้ำตาปี เป็นต้น ทั้งหมดให้รายงานในวันที่ 7 ตุลาคม นี้
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันในการทำเกณฑ์แจ้งเตือน เพื่อให้ไปในทางเดียวกันและกำหนดสีของการแจ้งเตือนภัยในชุดเดียวกัน ได้แก่ สีเขียวสถานะปกติ สีส้มสถานะเฝ้าระวัง และสีแดงสถานะอันตราย จากที่ก่อนหน้าหลายหน่วยงานใช้สีในการแจ้งเตือนภัยต่างกัน จึงเร่งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานและประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน เพื่อการเฝ้าระวังต่อไป
ทั้งนี้ กรมชลฯ ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ สะพานแบริ่ง และรถบรรทุก พร้อมในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลอ่างเก็บน้ำในพื้นที่
โดยพื้นที่ตอนล่างของประเทศไทย ซึ่งในเดือนตุลาคม 2562 มีจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วมหรือน้ำล้นตลิ่ง 12 จังหวัด 51 อำเภอ 18 แม่น้ำ ประกอบด้วย ชลบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง ส่วนในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วมหรือน้ำล้นตลิ่ง 8 จังหวัด 44 อำเภอ 16 แม่น้ำ ประกอบด้วยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง นราธิวาส สงขลา และพัทลุง
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศปัจจุบัน (2 ต.ค.62) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน 50,842 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 25,913 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 52 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 25,000 ล้าน ลบ.ม.เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 12,217 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ รวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 5,521 ล้าน ลบ.ม.สามารถรองรับปริมาณน้ำตลอดในช่วงฤดูฝนนี้ได้รวมกันอีกกว่า 12,000 ล้าน ลบ.ม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |