รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 134 ตอนที่ 40 ก เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนั้น ได้กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในเนื้อหาหมวด 1 บททั่วไป มาตรา 1 ที่มีเนื้อหา ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” ซึ่งเนื้อหาของมาตราดังกล่าว ต้องบอกว่ามีมาอย่างยาวนาน ซึ่งหากไม่นับ “พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475” ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ไม่มีเนื้อหาดังกล่าวแล้ว แต่หลังจากนั้น “เนื้อหา” ก็ไม่ต่างจากปัจจุบัน ...๐
โดย “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475” หรือรัฐธรรมนูญฉบับที่สอง ซึ่งประกาศในราชกิจจาฯ เล่ม 49 หน้า 534 เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2475 มีเนื้อหาในมาตรา 1 ว่า “สยามประเทศเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” และในวรรคสองระบุว่า “ประชาชนชาวสยามไม่ว่าเหล่ากำเนิด หรือศาสนาใดย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน” ...๐
ต่อมาในฉบับที่ 3 “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489” ซึ่งประกาศในราชกิจจาฯ ตอนที่ 30 เล่ม 63 เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2489 มาตรา 1 ก็มีเนื้อหาว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” และมีวรรคสองเหมือนรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 2 ก่อนที่จะ มาถึงรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 5 “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492” ที่ประกาศเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2492 ก็เหลือเพียงวรรคเดียว คือ “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” นับแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่เว้นแม้แต่รัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 16 หรือ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540” ที่มักยกมาอ้างกันเสมอๆ ...๐ แม้ล่าสุด “ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์” รองหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อชี้แจง ข้อกล่าวหาถูกตัดตอนเอาเนื้อหาที่ได้ไปกล่าวในเวทีสัญจรภาคใต้ ที่จังหวัดปัตตานีของ 7 พรรคฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. แบบคำต่อคำแล้วก็ตามที ก็ยิ่งตอกย้ำคำพูดในเรื่องการแก้ไขมาตรา 1 ให้ชัดแจ้งแดงแจ๋เข้าไปอีก ...๐
และยิ่ง “ตลกไม่ออก” เข้าไป เพราะ ดร.ชลิตาที่ไล่เรียงปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่บอกว่าเกิดความรุนแรงอย่างยาวมาตั้งแต่ปี 2547-2562 นั้น ดร.ชลิตาได้หันไปมองข้างหลังหรือผู้ร่วมเวทีบ้างหรือไม่ เพราะ ในปี 2547 นั้น เป็นรัฐบาลของ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งถือเป็นผู้จุดไฟใต้ให้รุนแรงนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่อาจารย์กลับมิได้พักจะตำหนิติติงต้นตอ แต่กลับวกมาที่ “รัฐธรรมนูญ 2560” แบบพลิกกลับยิ่งกว่า 360 องศาเสียอีก ...๐
งานนี้ 7 พรรคฝ่ายค้านอาจต้องถึงเวลาทบทวนการเดินสายสัญจรปลุกรื้อรัฐธรรมนูญบ้างก็น่าจะดี เพราะเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2562 จัดเวทีที่ “มหาสารคาม” ก็เกิดกรณี “รัฐธรรมนูญนี้เฮงซวยทุกมาตรา” ของ “พรรณิการ์ วานิช” หรือคุณช่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ล่าสุดก็มาเกิดกรณีจะแก้ไขมาตรา 1 ซ้ำอีก แต่ที่น่าแปลกใจมากขึ้นไปอีก เพราะนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. ที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา บรรดา 7 พรรคฝ่ายค้านหรือบรรดาผู้นำพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ไม่เคยแก้ต่าง หรือแก้ตัวในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด หรือมีแนวคิดแบบนี้ด้วย เพราะหากไม่ใช่ทำไมไม่ออกมาชี้แจงแถลงไข แต่กลับไปตีมึนในคำพูดของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะไม่เป็นผู้ถือ “ธงนำ” ในการรื้อรัฐธรรมนูญ ...๐
แล้วที่มึนงงเข้าอีกคือ การโยงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จังหวัดนครปฐมว่าเป็น “โดมิโน” ล้มรัฐบาล และล่าสุดกลายเป็นประเด็นขับไล่ “ลุงตู่” ออกไป ด้วย ทั้งที่ความจริงเก้าอี้ตัวนี้เดิมก็เป็นของ “อนาคตใหม่” อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะเป็น “โดมิโน” ได้อย่างไรเล่า ...๐ หรืออาจเป็นเพราะมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ของรัฐบาลที่มีคนไทยแห่ใช้สมัครจำนวนมากในระดับเกิน 10 ล้านคน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 6 ของประชากรคนไทย และ หากรัฐบาลฉลาดพอก็น่าจะใช้เรื่องดังกล่าวต่อยอดเรื่องต่างๆ ผ่าน “แอปเป๋าตัง” ที่คนใช้ต้องโหลดไว้ ในการใช้จ่ายเงินได้อีกพะเรอเกวียน ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวจากชาวบ้านที่ข้องใจกับการเก็บค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเอทีเอ็มอย่างยิ่ง เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เรียกร้องให้เปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ด โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย แต่ทำไมชาวบ้านตาดำๆ ต้องมาเสียค่าทำบัตรแล้วยังต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีอีก งานนี้เรียกว่า “เสือนอนกิน” ของธนาคารพาณิชย์หรือเปล่าจ๊ะทั่นผู้ว่า ธปท. ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |