สนุกกันใหญ่...!
กรณี สหรัฐฯจะเอา"เยรูซาเลม"เป็นเมืองหลวง"อิสราเอล"
ทรัมป์ขู่
"ประเทศไหนขวาง จะตัดเงินช่วยเหลือให้เหี้ยน"
ปรากฏว่า สมาชิกยูเอ็น ๑๙๓ ประเทศ ประชุมวาระฉุกเฉินที่นิวยอร์ค วานซืน(๒๑ ธค.๖๐)
๑๒๘ ประเทศ รวมทั้ง"ไทย"หันก้นให้!
เป็นเรื่องควรตามรู้ แต่สุดต่อมปัญญาผม พอดีอ่านที่คุณ Kittitouch Chaiprasith โพสต์ fb
ตอบโจทย์เป๊ะ ......
แบบนี้ก็ต้อง"ลอก"กันด้านๆแต่ขออภัยที่ตัด"เชิงอรรถ"เพราะล้นเนื้อที่
Kittitouch Chaiprasith
ผลการลงคะแนนเสียงในที่ประชุม UN โหวต 128 ต่อ 9 ไม่ยอมรับคำประกาศรัฐบาลอเมริกา(ที่ประกาศมากว่า 20 ปี)
กรณี การรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล
ถึงกระนั้น อเมริกาก็บอกว่า..........
"เราจะย้ายสถานทูตไปตั้งที่นั่นแน่นอน..."และ
"นั่นคือ สิ่งที่ชาวอเมริกันต้องการให้เรา(รัฐบาล)ทำและเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม"
“America will put our embassy to Jerusalem,”
“That’s what the American people want us to do.
And it’s the right thing to do.”
-----------------------
-เมื่อมาดูผลลงคะแนน จะพบว่า 128 ประเทศทั่วโลก ลงคะแนนเสียง ว่า
ไม่ยอมรับคำประกาศของรัฐบาลอเมริกา ที่ประกาศตั้งแต่สมัย คลินตัน บุช โอบาม่า
และล่าสุด มาถึง"ทรัมป์"ที่พยายามผลักดันให้คำประกาศนี้เป็นจริงขึ้นมาในสมัยตน
ในขณะที่ 35 ประเทศ ที่ไม่ออกเสียงนั้น ส่วนใหญ่เป็นประเทศในอเมริกาใต้ และในยุโรปตะวันออก รวมถึงแอฟริกา
ส่วนในเอเชีย มี"ฟิลิปปินส์"ที่ไม่ออกเสียงด้วย
-ในขณะที่ 9 ประเทศ ที่ออกเสียงคัดค้านการโหวตไม่ยอมรับ หรือง่ายๆก็คือ 9 ประเทศ ที่สนับสนุนอเมริกาและอิสราเอล
แน่นอนว่า เป็นอเมริกาและอิสราเอล 2 เสียง
ดังนั้น เราจะมาดูกันว่า อีก 7 ประเทศ ที่โหวตสนับสนุนอเมริกา-อิสราเอล คือประเทศใด
7 ประเทศ มีรายชื่อดังนี้...
1. Guatemala 2. Honduras 3. Marshall Isaland 4. Micronesia 5. Nauru 6. Palau 7. Togo
-----------------------
เปิดมา 2 ชื่อแรกนั้น ถ้าคนที่ทราบประวัติประเทศอเมริกากลางนั้นจะไม่แปลกใจ(แต่คนไทยส่วนใหญ่คงไม่ทราบว่าทำไม)
-กัวเตมาลา,ฮอนดูลัส(และนิคารากัว)เป็นประเทศในอเมริกากลาง ที่มีประวัติโดนแทรกแซงทางการเมืองโดยอเมริกาและทาง CIA มายาวนานหลายสิบปี
ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จวบจนปัจจุบัน
-ในโพสท์นี้ ผมขอเล่าย่อๆ เพราะรายละเอียดเยอะ และอเมริกานั้น ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ในแต่ละประเทศ อเมริกาเข้าไปล้มรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง แต่ประเด็นหลักๆ ก็คือว่า หลังสงครามโลก ได้เกิดสงครามเย็นขึ้น
- หลายประเทศที่เคยเป็นอาณานิคม มักนำอุดมการณ์ชาตินิยมกับสังคมนิยมมาใช้ในการปลุกระดมประชาชนในประเทศ ในการลุกขึ้นต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมตะวันตก
ทำให้อเมริกาและยุโรปไม่พอใจอย่างมาก(ยุโรปเจ็บหนักจากสงคราม เลยไม่ค่อยสนใจ)
3 ประเทศที่ว่านั้น เป็นแหล่งรัฐประหารและการจัดตั้งกองกำลังทางทหารที่ฝึกฝนโดย CIA โดยตรง เช่น Battalion ที่ 3-16ของกองทัพฮอนดูลัส
ที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อให้สังหารคนมีความคิดฝ่ายซ้าย หรือแนวสังคมนิยม ที่ไม่โปรอเมริกา/ยุโรป
- ในขณะที่นิคารากัวนั้น ตั้งกองทัพ Contra ซึ่งเป็นกองกำลังที่รัฐบาลอเมริกาสนับสนุน
Contra ย่อมาจาก counter-revolution หมายถึง ต่อต้านการปฏิวัติแบบสังคมนิยม
- ส่วนกัวเตมาลานั้น เป็นแหล่งขายผลไม้รายใหญ่ของบริษัท United Fruit Company
แหล่งรายได้ใหญ่แห่งหนึ่งในการค้าของอเมริกาในภูมิภาคอเมริกากลาง
ในอดีต บริษัทเหล่านี้ได้รับยกเว้นภาษี เนื่องจากนโยบายรัฐบาลเผด็จการที่ร่วมมือกับเจ้าอาณานิคมกดขี่ประชาชน
(ปี 1950 บริษัททำกำไรได้ถึง 95 ล้านเหรียญ มากกว่างบประมาณประจำปีของรัฐบาล 2 เท่า!!)
- ปัญหาความยากจนและคุณภาพชีวิตแรงงาน ทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงบ่อยครั้ง
ในช่วงปี 1945 นาย Juan José Arévalo ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้ง ดำเนินนโยบายเก็บภาษี รวมถึงปฏิรูปที่ดิน,กฎหมายคุ้มครองแรงงาน และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ด้วยหลัก"ทุนนิยมสายกลาง"ที่ไม่ใช่คอมมิวนิสท์ ไม่ใช่ทุนนิยมสุดโต่ง ที่หากินบนความทุกข์ของคน
ก่อนส่งต่อนโยบายให้ Jacobo Árbenz Guzmán ซึ่งชนะเลือกตั้งปี 1950 เพื่อไปปฏิรูปประเทศต่อ
- ทำให้บริษัทอเมริกาไม่พอใจมาก และล็อบบี้นักการเมืองในรัฐสภาอเมริกา โดยบอกว่า
"กัวเตมาลานั้น กำลังเป็นคอมมิวนิสท์"
นำไปสู่ปฏิบัติการ Operation PBFORTUNE ซึ่งเป็นแผนการณ์ที่ร่วมมือกับเผด็จการ 3 ประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาโดยตรง อันได้แก่
-Anastasio Somoza García แห่งนิคารากัว
-Marcos Pérez Jiménez แห่งเวเนซูเอล่า
- Rafael Trujillo แห่งสาธารณรัฐโดมินิกัน
(หลายคนที่เคยอ่านเรื่องการล้มรัฐบาลอิหร่านด้วยปฏิบัติการ Operation Ajax ของอเมริกาและ Operation Boost ของอังกฤษ ที่ร่วมมือกันล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งอิหร่านที่พยายามดึงสัมปทานน้ำมันกลับเป็นของประเทศตนเอง คงจะเห็นภาพว่า อเมริกาและอังกฤษทำแบบนี้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ตัวเองเคยขูดรีด และวันหนึ่ง ลุกขึ้นมาต่อต้านตนเสมอๆ)
-ประธานาธิบดีที่เป็นวีรบุรุษของชาติโดนล้ม กัวเตมาลาเข้าสู่การปกครองโดยรัฐเผด็จการที่สนับสนุนโดยรัฐบาลอเมริกา ซึ่งจัดเลือกตั้ง ก็ได้รับเสียงชนะถึง 99% (ฮาๆๆ)
แต่อยู่ไม่นาน ในกองทัพกัวเตมาลาเองก็มีการรัฐประหารขึ้นหลังจากนั้น คณะรัฐประหารได้มีการจัดเลือกตั้ง
แต่สุดท้าย การเลือกตั้งโดนล้มไปจากกลุ่มเดิมที่สนับสนุนโดยรัฐบาลอเมริกา
กัวเตมาลาเข้าสู่วังวนของสงครามกลางเมืองและความขัดแย้งมาตลอดร่วม 40 ปี
การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยรัฐบาลเผด็จการที่สนับสนุนโดยอเมริกานั้น ได้รับการเปิดเผยผ่านสื่อภายหลัง
- เมื่อโดนกระแสโจมตีหนักเข้าๆ
ในปี 1999 นายบิล คลินตัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ ขอโทษต่อสาธารณชน ว่าด้วยเรื่องที่รัฐบาลอเมริกาสนับสนุนเผด็จการ ที่ปกครองประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี...ฯลฯ
-----------------------
ทีนี้ ลองมาดูประเทศที่ 3-6 อันได้แก่
3. Marshall Isaland 4. Micronesia 5. Nauru 6. Palau
สี่ประเทศนี้ คนไทยคงไม่ค่อยรู้จัก
เพราะมันคือหมู่เกาะในเอเชียแปซิฟิคที่อยู่ติดกัน เรียกโดยรวมว่า Micronesia ประกอบด้วย
- Federated States of Micronesia,Guam(ปกครองโดยอเมริกาโดยตรง)Kiribati,Marshall,Islands,Nauru,Northern Mariana Islands,Palau
ประเทศพวกนี้ เดิมเป็นหมู่เกาะที่ถูกยึดครองโดยเจ้าอาณานิคมยุโรป ก่อนที่อเมริกาจะมาครอบครองภายหลัง สำหรับเกาะกวมนั้น ...........
คนไทยหลายคนคงรู้จักดีว่า เป็นที่ตั้งของฐานทัพอเมริกา
สำหรับหมู่เกาะมาร์แชล คนที่ตามประวัติสงครามโลก ก็คงทราบว่า มันคือ เกาะที่ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์
ส่วน Nauru กับ Palau ก็อยู่ในเครือข่าย
-สรุปง่ายๆก็คือ 4 ประเทศนี้ ก็คล้ายๆกับประเทศเดียวกันนั่นแหละ
เป็นหมู่เกาะที่กระจายตัวอยู่แถวรอบๆเกาะกวม ดินแดนยึดครองของอเมริกา และฐานที่ตั้งกองทัพของรัฐบาลอเมริกา
ส่วนประเทศสุดท้าย ซึ่งเป็นประเทศเดียวในแอฟริกาที่สนับสนุนอเมริกา-อิสราเอล
นั่นก็คือ สาธารณรัฐ โตโก(Togo)
-เมื่อไปดูประวัติก็ไม่แปลกใจ โตโกเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในแอฟริกา และเป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดเช่นกัน
โดยหลังปลดแอกจากอาณานิคมฝรั่งเศส ก็หันไปขอความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ นำโดยอเมริกาที่ให้เงินช่วยเหลือผ่านองค์กร
- Overseas Private Investment Corporation
- United States Agency for International Development หรือ USAID
(องค์กรที่ให้เงินสนับสนุนกบฎซีเรีย ก่อนกลายร่างเป็นนักรบ IS และ Al-Nusra Front นั่นแหละ)
- และเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าอเมริกันเป็นจำนวนมาก ทั้งข้าว บุหรี่ คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
หรือง่ายๆ ก็คือ เป็นประเทศที่พึ่งพาตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาเป็นสำคัญ
ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่กรณีนี้ โตโกคงอยากแสดงความภักดี
และกลัวว่าอเมริกาจะตัดความช่วยเหลือ(ตามที่รัฐบาลอเมริกาประกาศก่อนหน้านี้)
-----------------------
*** ทั้งนี้ เพื่อเปิดหูเปิดตาคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าชาติตะวันตกที่อ้างตัวว่าเป็นผู้รักษาหลักการอันสูงส่ง ไม่ว่า ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ บลาๆๆ
ล้วนแต่กระทำตรงกันข้ามกันหลักการเหล่านั้นมาโดยตลอดประหนึ่งมือถือสากปากถือศีล มือถืออาวุธกดขี่บีฑาประเทศเล็กกว่าเพื่อประโยชน์ของตน
แต่เที่ยวอ้างตัวว่า ตัวเองเป็นคนรักษาหลักการ
*** เสียดายที่ประชาชนในหลายประเทศ(อย่างไทยเรา)ที่ไม่เคยเจอฤทธิ์เดชของเหล่า"ผู้เจริญ"เหล่านี้เท่าไร จึงไม่ทราบเรื่องราวมากนัก
และยังหลงวาทกรรมลวงโลกเรื่อยๆผ่านการ Propaganda โดยนักวิชาการ+NGO ที่ทำงานเป็นกระบอกเสียงให้กับประเทศเหล่านี้.
ครับ...เหล่านี้คือ ความรู้จากคุณKittitouch Chaiprasithก็ขอขอบคุณ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |