“ประยุทธ์” รับผลเลือกตั้งซ่อมสะเทือนรัฐบาล “สมศักดิ์” เล็งนัดคุย พปชร.จะทุ่มให้ใคร เพราะเดิมนึกมีเพียง ปชป. “สาธิต” เคาะกะลาล่วงหน้าบอกพลังประชารัฐรับปากหนุนเต็มที่ ส่วน “ลูกท็อป” เผยไม่มีการพูดคุยจริงจัง คนนครปฐมเรียกร้อง “สะสมทรัพย์” เลยต้องลง เชื่อจะระดมสรรพกำลังเพื่อทวงพื้นที่คืน อนค.ตื่นโวยวันเลือกตั้ง “กกต.” พลิ้วยังไม่เคาะสถานภาพ “นวัธ” ส่วนที่ประสานรัฐบาลแค่งานธุรกรรม

เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการจัดเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเสียงฝ่ายรัฐบาล และอาจเกิดผลกระทบต่อการทำงาน ว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบหรือไม่มีผลกระทบก็เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว ถ้าฝ่ายรัฐบาลแพ้ก็ย่อมมีผล แต่ถ้าไม่แพ้ก็ไม่มีผล เท่านั้นเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาชน อย่าเพิ่งไปคาดคะเนว่าใครจะแพ้หรือชนะ ทั้งหมดเป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องเข้าใจว่าการเลือกตั้งนั้นทำเพื่ออะไร เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แต่ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ มันก็วุ่นวายกันไปหมดแบบนี้
    เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครปฐม พรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้แข่งขันกันเอง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง และเป็นสิทธิทางการเมืองของแต่ละพรรคในการส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งตามกติกา ส่วนใครจะได้ก็เป็นเรื่องของประชาชน
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะชนะการเลือกตั้งซ่อมในเขต 5 จ.นครปฐม หลัง พปชร.หลีกทางให้ ว่าไม่ทราบ ต้องไปถาม ปชป. ก็คิดกันไปเองทั้งนั้น ก็ว่ากันไป แล้วแต่ประชาชน ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หาเสียงว่าจะใช้การเลือกตั้งซ่อมเพื่อเป็นโมเดลนำร่องที่ชนะการเลือกตั้งซ่อมในอีก 3 จังหวัดนั้น ก็ว่ากันไป ไม่เป็นอะไร
    ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรค พปชร. กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครปฐม ที่มีพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัครชนกันว่า พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่ได้ประสานงานและคุยกันเป็นกิจจะลักษณะ เพราะมีอยู่หลายพรรค จึงทำให้มีพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัคร ส.ส.ถึง 2 คน ส่วน พปชร.จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคใดนั้น คงไม่ได้สนับสนุนอะไรที่เป็นทางการ ใครชอบใครก็เลือกกันไป
เมื่อถามว่า พปชร.จะเข้าไปพูดคุยกับผู้ที่สนับสนุนพรรคเขตดังกล่าวอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน คงต้องพูดคุยกันหลังจากนี้ เพราะเดิมคิดว่าจะมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเดียวคือ ปชป. ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ในครั้งก่อน แต่พอมี 2 คนก็ต้องนั่งคุยกัน ส่วนจะกลายเป็นความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ไม่ทราบ คงเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป ซึ่งสนามเลือกตั้งคงเอาผลของแต่ละพรรคที่มีอยู่มาว่ากัน
    ส่วนนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวในประเด็นนี้ว่า เวลาลงสนามเลือกตั้งต้องเต็มที่ ทุกคนมั่นใจ และขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินอย่างไรในวันลงคะแนน ซึ่งในความจริงแล้วถ้าตกลงกันได้มันก็ดี แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงตรงนี้ ก็ต้องต่างคนต่างทำหน้าที่หาเสียงให้ชนะใจประชาชน แล้วดูว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกใคร โดยหลังการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาถึงตรงนี้ มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พรรคยังยืนยันจะขายจุดแข็งของเรา มุ่งมั่นทำงานที่รับปากกับประชาชนไว้ รวมทั้งความสม่ำเสมอของตัวผู้สมัครของพรรค ดังนั้น เรามั่นใจ และถ้าสามารถขยายเก้าอี้ได้เพิ่ม จะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลยังคุยกันได้เหมือนเดิมไม่มีปัญหา
ตีปี๊บ พปชร.หนุน ปชป.เต็มที่
    เมื่อถามว่า นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมมานาน ผู้สมัคร ปชป.จะชนะได้หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า เรามั่นใจว่าเราต้องชนะ เนื่องจากว่า อ.สามพราน เป็นฐานของพรรค ปชป.เดิม ซึ่งเห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พรรคได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ดังนั้น ต้องฟื้นความศรัทธาของพรรคกลับมาให้ได้ ซึ่งพรรค อนค.ก็น่ากลัวอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นแชมป์ ต้องให้เกียรติเขา ดังนั้น เราต้องทำงานหนัก ใช้ความตั้งใจ และคุณสมบัติของผู้สมัครของพรรค ซึ่งเป็นคนพื้นที่เป็น ส.จ. และลงพื้นที่มาตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งก่อน ถึงแม้สอบตกก็ไม่เคยหยุด จึงมั่นใจมากว่าเราล้มแชมป์ได้
    “คุยกับพรรค พปชร.แล้ว เขาโอเคที่จะสนับสนุน ปชป.อย่างเต็มที่ในนามของรัฐบาล เราคุยกันแล้วว่าเขาจะช่วยเราเต็มที่ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องหาเสียงของเขา ในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม” นายสาธิตกล่าว
    ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ชทพ. กล่าวถึงการเคลียร์ใจกับพรรค ปชป. ในการส่งผู้สมัครลงแข่งเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม ว่ายังรู้สึกดีกับ ปชป. และที่ผ่านมา ปชป.ยังไม่ได้พูดคุยกันเป็นกิจจะลักษณะ หรือเปิดโต๊ะพูดคุย เท่าที่ผ่านมามีเพียงแค่การยืนคุยกันในที่ประชุม ครม. ซึ่งตนเองคงไม่สามารถพูดหรือตัดสินใจในนามพรรค ชทพ.ได้ โดยผู้ใหญ่ของพรรค ปชป.ควรมานั่งคุยกับเรา 
“เมื่อถึงจุดหนึ่งมีคำเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครปฐม เนื่องจากคนในตระกูลสะสมทรัพย์ทำงานให้คนในพื้นที่มาเป็นสิบปี ผ่านงานมามากมาย การจะเอาผลการเลือกตั้งเพียงแค่ครั้งเดียวมาชี้วัดถึงความผิดพลาดคงโหดร้ายเกินไปกับคนนครปฐม เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะเป็นบทเรียนให้ผู้สมัคร โดยเฉพาะนายเผดิมชัย และในครั้งนี้จะเลือกตั้งซ่อม เชื่อว่าจะทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยการระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อให้ได้ชัยชนะ” นายวราวุธระบุ
    ถามอีกว่า ปชป.ระบุว่าการที่ ชทพ.ส่งผู้สมัครแข่งถือเป็นการเสียมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาล นายวราวุธกล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ชทพ.ทำงานกันมานาน แนวความคิดของแต่ละพรรคก็แตกต่างกัน ปชป.มีความเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิที่แสดงความเห็นได้ แต่ส่วนตัวเมื่อยังไม่ได้พูดคุยกัน ก็ทำงานตามปกติ ส่วนจะกลายเป็นความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ คงไม่ใช่ เพราะก่อนที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม เรามีการแข่งขันในตอนเลือกตั้งใหญ่กันมาแล้ว มาครั้งนี้เมื่อมีคำเรียกร้องจากประชาชนที่อยากให้คนในตระกูลสะสมทรัพย์ลงสมัครนับหมื่นคน เมื่อความต้องการเป็นเช่นนี้ คนในตระกูลสะสมทรัพย์ก็ต้องลงสมัครเพื่อมารับใช้พี่น้องประชาชนนครปฐม 
“ผมมั่นใจว่าจะทวงคืนเก้าอี้ของตระกูลสะสมทรัพย์กลับมาได้ เพราะบทเรียนความผิดพลาดถือเป็นครูที่ดี เนื่องจากการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมามีหลายตัวแปรที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด และปัจจุบันนี้มองว่าคนในตระกูลสะสมทรัพย์คงเข้าใจการทำงานในพื้นที่มากขึ้น” นายวราวุธกล่าว
โวยวันเลือกตั้ง 23 ต.ค.
    ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค อนค. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม ในวันพุธที่ 23 ต.ค. ว่าเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว การเลือกตั้งจะเป็นวันอาทิตย์ เพราะเป็นวันหยุดราชการ และทุกคนในประเทศหยุดงาน แต่การกำหนดเป็นวันพุธ แม้ตรงกันวันหยุดราชการก็จริง ก็ต้องบอกว่าเป็นวันหยุดราชการที่มีข้าราชการบางส่วนต้องทำงาน นักเรียน นักศึกษาต้องประกอบกิจกรรมที่สำคัญ
    "กกต.ควรพิจารณาเรื่องวันเลือกตั้งให้รอบคอบกว่านี้ เพราะการเลือกตั้งวันพุธ 23 ต.ค. คาดว่าจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหายไปจากระบบมากพอสมควร โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สามพราน มีโรงเรียนนายร้อยตำรวจ มีนักเรียนประจำ อาจมีนักเรียนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่เลือกตั้ง รวมถึงข้าราชการตำรวจก็อาจมีมากเช่นกัน ดังนั้นฝากถึง กกต. น่าจะไตร่ตรองให้ดีว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งต่อๆ ไปต้องเป็นวันหยุดของทุกคนจริงๆ ไม่มีกิจกรรมอะไรที่ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนมีเวลามากขึ้นในการใช้เวลาสำคัญสร้างประชาธิปไตยให้ประเทศไทยเรา" พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว
น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะทำงานด้านแรงงานพรรค อนค. กล่าวเช่นกันว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งวันเลือกตั้งต้องเป็นวันอาทิตย์ แต่การเลือกตั้งซ่อมใน จ.นครปฐม น่าจะเป็นครั้งแรกที่จัดตรงกับวันพุธที่ 23 ต.ค. ซึ่งแม้เป็นวันหยุดราชการ แต่ส่วนใหญ่ใน อ.สามพราน มีทั้งโรงงานและงานภาคบริการหลายส่วนที่ไม่ได้หยุดในวันดังกล่าวด้วย และอย่าลืมว่าช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี ซึ่งมีการกำหนดวันหยุดตามประเพณีแค่ 13 วันต่อสถานประกอบการ ซึ่งแน่นอนว่าหลายพื้นที่ไม่ได้หยุดในวันดังกล่าว เพราะฉะนั้นจะทำให้คนที่อยู่ใน อ.สามพราน ที่ทำงานอยู่ในโรงงาน อดไปเลือกตั้งในวันดังกล่าว เพราะต้องทำงานและไม่สามารถลางานได้
    “ลูกจ้างเอกชนไม่ได้หยุดเหมือนข้าราชการ เพราะฉะนั้นการที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งให้เป็นวันพุธ คุณต้องชัดเจนด้วยว่าเขาจะมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันแบบไหน เพราะว่ามีลูกจ้างที่ถามมาหลายคนแล้วเรื่องนี้ เขาไม่อยากเสียสิทธิ์ ดังนั้น กกต.ต้องออกมาให้ชัดเจนกับเรื่องนี้ ว่าลูกจ้างจะใช้สิทธิ์ของเขาได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องเสียสิทธิ์ในการลางาน และไม่ต้องโดนนายจ้างเล่นงานในภายหลัง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก" น.ส.วรรณวิภากล่าว
    วันเดียวกัน สำนักประชาสัมพันธ์ กกต.ได้ออกเอกสารข่าวถึงกรณีสมาชิกภาพของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) สิ้นสุดลง โดยสำนักงาน กกต.ชี้แจงว่า เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงได้มีหนังสือในส่วนของสำนักงาน กกต. เป็นการประสานงานทางธุรการตามขั้นตอนไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมการในเบื้องต้นสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง เขตเลือกตั้งที่ 7 จ.ขอนแก่น ซึ่ง กกต.ยังไม่ได้มีความเห็นว่าสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายนวัธสิ้นสุดลงแต่อย่างใด เรื่องนี้สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำความเห็นเพื่อนำเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาต่อไป
    นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า กกต.ไม่ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เนื่องจาก กกต.ได้วินิจฉัยเองแล้วว่านายนวัธขาดจากความเป็น ส.ส. และคาดว่าในการประชุม ครม. จะมีการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้จัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น และถ้าหากมีการทูลเกล้าฯ ถวายและทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายใน 45 วัน
    ส่วน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ทุกฝ่าย ต้องดูข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อน เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องดำเนินการ.