คณะกรรมาธิการภายใต้การนำของเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเรียก "รูดี จูเลียนี"  ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าให้การกรณียูเครน ขณะทรัมป์ฟาดงวงฟาดงาต่อ ออสเตรเลียเผยทรัมป์ขอความช่วยเหลือเช่นกัน โพลชี้อเมริกันหนุนถอดถอนเพิ่มขึ้น

แฟ้มภาพ รูดี จูเลียนี / AFP

    ข่าวเอเอฟพีเมื่อวันอังคารกล่าวว่า คณะกรรมาธิการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคณะกรรมาธิการอีก 2 ชุดซึ่งล้วนมี ส.ส.เดโมแครตเป็นประธาน ได้ส่งหมายเรียกรูดี จูเลียนี ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์เข้าพบ เพื่อขอร้องให้เขาส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับยูเครนภายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้

    หนังสือที่ประธานคณะกรรมาธิการ 3 ชุดนี้ส่งถึงจูเลียนีชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการ 3 ชุดกำลังสอบสวนขอบเขตที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ความมั่นคงแห่งชาติเสี่ยงอันตราย ด้วยการกดดันให้ยูเครนแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2563 และการไต่สวนของคณะกรรมาธิการรวมถึงการสอบสวนคำกล่าวหาที่น่าเชื่อถือว่า จูเลียนีทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวของเขาเอง ด้วยการใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีโดยมิชอบ

    เรื่องอื้อฉาวนี้มีที่มาจากคำร้องทุกข์ของผู้เปิดโปงรายหนึ่ง ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ที่เคยทำงานในทำเนียบขาว เขาแสดงความวิตกเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งทรัมป์ใช้เงินช่วยเหลือเกือบ 400 ล้านดอลลาร์เป็นเบี้ยต่อรองเพื่อให้ผู้นำยูเครนช่วยสอบสวนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่น่าจะได้เป็นตัวแทนเดโมแครตลงชิงกับทรัมป์ในการเลือกตั้งปีหน้า

    เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ทวีตโจมตีอดัม ชิฟ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรอง โดยบอกว่าเขาควรถูกจับฐานเป็นกบฏ ทรัมป์เคยกล่าวโทษผู้เปิดโปงว่าเป็นกบฏเช่นกัน นอกจากนี้ในทวิตเตอร์ ทรัมป์ยังรีทวีตคำพูดของโรเบิร์ต เจฟเฟรส ศาสนาจารย์แบปติสต์ที่บอกต่อฟอกซ์นิวส์ เตือนว่าหากทรัมป์โดนถอดถอน อเมริกาอาจเกิดความแตกแยกเหมือนสงครามกลางเมือง

    ขณะเดียวกัน ที่ออสเตรเลีย โฆษกรัฐบาลยืนยันว่าทรัมป์เคยขอให้นายกฯ สกอต มอร์ริสัน ช่วยรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐ บิล บาร์ รวบรวมข้อมูลเพื่อสอบสวนการไต่สวนของโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษสหรัฐที่ตรวจสอบกรณีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐ

    ความคืบหน้านี้มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ผลสำรวจเมื่อวันจันทร์ชี้ว่า มีคนอเมริกันครึ่งต่อครึ่งที่เห็นว่าทรัมป์ควรโดนถอดถอน ส่วนโพลของรอยเตอร์/อิปซอสพบว่า ฝ่ายที่หนุนถอดถอนมีมากขึ้น 8% จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยอยู่ที่ 45%.