"คุณประวิตรมีอำนาจอะไรมาเรียกผมไป...ผมพร้อม เขากล้าเจอผมหรือเปล่า"?
อื้อฮือ....
ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าใครพูด ต้องเข้าใจว่าเป็นพวกกุ๊ยแบะท่านักเลง
แต่บังเอิญได้ยินกะหู-ดูจากข่าว ว่าไม่ใช่กุ๊ย
แต่เป็นผู้มีการศึกษาสูง นามว่า "ท่านธนาธร" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ใครต่อใครตั้งให้เป็น "นายกฯ โซเชียล"
ท่านพูดอย่างนั้นผ่านนักข่าว ที่ถามสมมุติ ถ้าถูกเชิญตัวไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องล็อบบี้ยิสต์?
ก็เอาเถอะ เมื่ออยากทราบพลเอกประวิตรมีอำนาจอะไร ผมจะช่วยกราบเรียนให้ท่านนายกฯ โซเชียลทราบคร่าวๆ
ในทางราชการ ฝ่ายบริหารบ้านเมือง........
พลเอกประวิตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายดูแลด้านความมั่นคง
ดังนั้น พลเอกประวิตร "มีอำนาจ" ตามกฎหมาย ที่จะสั่งให้เรียกท่านธนาธรไปสอบถามได้
ในกรณีมีข้อสงสัยที่ต้องการได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์ทั้งราชการงานเมืองและทั้งตัวท่านธนาธรเอง
ในความเป็นบุคคล........
พลเอกประวิตร เกิดปี พ.ศ.๒๔๘๘ อายุตอนนี้ก็ ๗๔ ปี
ส่วนท่านธนาธร เกิดปี พ.ศ.๒๕๒๑ ตอนนี้อายุ ๔๑ ปี
ดูตามวัยแล้ว พลเอกประวิตร นับเนื่องรุ่นพ่อ-รุ่นแม่ท่านธนาธร
คนไทยนั้น ถึงจะมีการศึกษาหรือไม่มี แต่ด้วยเชื้อไขแห่งชาติสกุลไทย
คนไทย โดยสายเลือด จะเป็นคนมีสัมมาคารวะ ในการแสดงออก ระหว่างผู้น้อยกับผู้ใหญ่
แต่ฟังประโยคคำพูดธนาธร ไม่น่าเป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่เลย
"ผมพร้อม เขากล้าเจอผมหรือเปล่า"?
คำพูดแบบนี้ มันแสดงถึงการท้าทายว่า ร่างกายท่านธนาธรอยากปะทะ!
พลเอกประวิตร ท่าน ๗๔
"นางสมพร" มารดาท่านธนาธร แค่ ๖๗-๖๘ ปี
ท่านธนาธร ๔๑
เช่นนี้แล้ว ด้วยสัมมาคารวะแห่งคนมีชาติสกุล การแสดงออกทาง "กาย-วาจา" ควรต้อง "รู้จักรุ่น-รู้จักอาวุโส"
ถ้าปะทะ พลเอกประวิตร สู้ท่านนายกฯ โซเชียลไม่ไหวหรอก
ไม่เชื่อถามช่อสิ?
ส่วนทางใจ นั่น...ไม่เกี่ยวมรรยาท แต่เกี่ยวกับอุปนิสัยสันดานและการอบรมสั่งสอน
ดังนั้น ถ้าท่านธนาธรจะด่าหรือจะแช่งพลเอกประวิตรงุบงิบในใจ เชิญตามสบาย
เหตุที่ให้เน้นภาษากายและวาจานั้น มิใช่เพื่อให้เกียรติกับ "ผู้อาวุโส" อย่างเดียว
หากแต่การรู้แห่งวัยตน และการแสดงออกให้เหมาะสมกับวัยตน มันเป็นการให้เกียรติทั้งตัวเองและทั้งชาติสกุลแห่งตนด้วย
วางตำแหน่งตัวเองเป็น "พ่อของฟ้า" ควรเป็นพ่อมีสกุลรุนชาติด้วย อย่างที่แสดงออก ประเภท "พ่อหัวร้อน" เอะอะท้าตี-ท้าต่อย
แบบนั้น สถุล!
เรื่องการสืบสาวเอกสารลับ/แจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าใครที่แอบไปจ้างวานพวกบริษัทล็อบบี้ยิสต์ หรือขบวนการครองโลกให้ทำอะไรๆ ทางบ่อนทำลายประเทศไทย รัฐบาล กระทั่งสถาบัน นั้น
มันมี และมีมาตลอด!
ไม่ต้องไปจ้างถึงสหรัฐฯ-ยุโรปหรอก ข้อมูลลึกๆ ลับๆ ของเมืองไทย มากต่อมาก มันไปจากเมืองไทย โดยพวกสถานทูตมันซื้อ "คนไทย-คนใน" นี่แหละ ขายความลับให้พวกเขา
แล้วสถานทูตนั่นแหละ รายงานเป็น "บันทึกรายวัน" ส่งไปถึงกระทรวงการต่างประเทศของเขาอีกทอด
๕๐ ปี เขาโละเอกสารเก่าๆ ทิ้งที ผมยังได้มาเป็นปึก อ่านออกบ้าง ไม่ออกบ้าง
แต่ปะติด-ปะต่อได้ว่า สหรัฐฯ เข้ามาเชิดหลังฉากตั้งแต่ก่อน ๒๔๗๕ ด้วยซ้ำ
ฉะนั้น กรณีว่าใครไปจ้างม็อบต่างชาติแปลงเป็นคนไทยไปด่านายกฯ ประยุทธ์ที่นิวยอร์กก็ดี
ที่ท่านนายกฯ โซเชียลไปเซ็นจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐฯ อ้างว่า ให้ช่วยประสานการเข้าพบคนนั้น-คนนี้ก็ดี
เนื้อแท้-เนื้อใน มันคืออะไร?
ด้วยสถานะพลเอกประวิตร ถ้าท่านอยากรู้ ไม่ต้องเชิญลูกแม่สมพรไปถามหรอก
ด้วยนโยบายที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ ต่อไทยขณะนี้ ยกหูไป "ต้นทาง" แกร๊กเดียว รู้จริงทะลุดาก โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งฟังคนโกหก!
ใช่.....
วันนี้ แนวรบด้านตะวันออกเฉียงเหนือ "ที่ไทย" ของสหรัฐฯ มันเปลี่ยนไปแล้ว
๑๕ ปีก่อน สหรัฐฯ เล่นไพ่ อม "ทักษิณ" เป็นสเปโตให้ตระกูลบุชมาตลอด
กระทั่งเหตุการณ์ ปี ๕๒-๕๓ ปฏิบัติการแดงทั้งแผ่นดิน จนถึง ปี ๕๗ สหรัฐฯ ก็ยังอมทักษิณ
และทั้งคั่ว-ทั้งอม "ยิ่งลักษณ์!" เสริมสเปโต กะน็อกมืดประเทศไทย!
ที่น็อกไม่ได้ซักที เพราะอะไรน่ะหรือ?
เพราะถึงนโยบายการเมืองระหว่างประเทศเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่นโยบายทางการทหาร ระหว่างกองทัพกับกองทัพ
"ไทย-สหรัฐฯ" เป็นแกนในมั่นคง!
พูดกันจริงๆ ประชาธิปไตย-เผด็จการ มันหน้ากากสวมหลอกเด็ก อำนาจ "เป็น-ตาย" จริงๆ อยู่ที่กองทัพ
การเมือง เรื่องผลประโยชน์ นักการเมืองก็เล่นไป แต่การประเทศ เรื่องความมั่นคง
"ทหาร-กองทัพ" เขาไม่ยอมให้นักการเมืองเล่น ในประเด็นที่กองทัพ "ไม่เอาด้วย"
เนี่ย......
ที่เราเห็นว่าบ้านเมืองเราวิกฤติถึงขั้นจะเสียเมืองได้ง่ายๆ แต่กลับไม่เสีย ไม่มีอำนาจไหนเข้ามาแทรกแซง
นั่นเพราะกองทัพ "สหรัฐฯ-ไทย" เป็นแกนประสานความเข้าใจ ประเทศชาติจึงไม่พังจากพวกการเมืองซน
ก็ต้องบอกว่า ขณะนี้ ทั้งการเมืองและการทหารระหว่างไทย-สหรัฐฯ
ปึ้กมาก!
โดยเฉพาะ "การทหาร" ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น ก็อยากจะบอกว่าที่ไอ้ตี๋ซ่าเที่ยวไปชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน นั่นน่ะ
ที่มึงไปทำอะไร-ต่อมิอะไร ทั้งลับ-ทั้งแจ้ง ทั้งจุ๊กจิ๊กส่วนตัวกันเอง และทั้งไปจุกจิกกะเขา
ทำไปท้าดีไปเหอะ เดี๋ยวเขาเอาเทปมาฉายให้ดู แล้วจะร้อง ไอ๊หย่า...มันไอโออั้วนี่หว่า!
จะบอกท่านนายกฯ โซเชียลและขบวนการแดงทั้งแผ่นดินเอาบุญ
สหรัฐฯ เลิกเล่นไพ่รัมมี่นานแล้ว ฉีกสเปโตทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ลงชักโครกไปแล้ว
ตอนนี้ ลงขันเป็นเจ้ามือป๊อกเด้ง "ได้-เสีย" กินด้วยกันในอาเซียน!
ดังนั้น ๗ พรรคฝ่ายค้าน คอยจับผิดนายกฯ วันละเรื่องแล้วเดินสายด่าประจาน ๘ ทิศ ก็ทำไป
ใกล้จะมีเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วนี่.........
เขย่าขวดพรรคกันนอนก้นไปเรื่อยๆ ปูทางส่งคนกินหัวเมืองเล็ก-หัวเมืองน้อย เป็นวิสัยที่ทำได้
แต่ขอบอก การลามปามฝังเชื้อให้แยกประเทศ อย่างที่นังอาจารย์อะไรนั่น ไปขึ้นเวที ๗ พรรคค้าน
ปลุกระดม ยุยงให้คน ๓ จังหวัดใต้ แก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๑ ที่ว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้
แต่นังอาจารย์คนนั้น ยุยงให้แก้!
ขอบอกว่า "อย่าปลุกระดม" อย่างนี้เป็นอันขาด และการที่ ๗ พรรคค้าน เลยเถิดขนาดนี้ ไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย
อะไรก็ตาม "ย้ำพูด-ย้ำทำ" บ่อยๆ สื่อนำเป็นเชื้อไปพูดจาขยายความเรื่อยๆ
คนฟังบ่อยๆ ก็เหมือนน้ำหยดลงหินบ่อยๆ
คำพูดปลุกเร้าให้คนแยกชาติ-แยกแผ่นดินนั้น ก็จะค่อยซึมฝังเข้าไปในห้วงรู้สึก-นึก-คิดเป็น "จิตผนึก" ในที่สุด
ต้องการปลุกให้ประชาชนลงถนน!
ใช่....
นี่คือสิ่งที่ ๗ พรรคค้านต้องการ ต้องการใช้ประชาชนที่ลงถนนเป็นเงื่อนไขสู่การใช้อำนาจรัฐ
เขาต้องเป็นเชื้อล่อให้กองกำลัง "ตำรวจ-ทหาร" ออกมา เสริมคำว่า
นี่ไง...รัฐบาลทหาร รัฐบาลประชาธิปไตยซ่อนรูปเผด็จการ ส่งกองกำลังเข้าปราบประชาชน
เขาต้องทำทุกทางให้ประชาชนลงถนน เพราะเป็นทาง "รอดตาย" ทางเดียวที่เหลืออยู่ของระบอบทักษิณ
ที่จะ ใช้เป็นเงื่อนไขนำสู่การล้มรัฐบาลประยุทธ์
ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ "เขียนใหม่" ทั้งฉบับไม่ได้
ชาตินี้ ทั้งชาติ..........
ทั้งยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ทั้งสมุนที่หนีคุกและจะทยอยหนีตามไปอีกเรื่อยๆ ก็จะต้องหนีไปตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสกลับมาตายบ้าน
ในทางเดียวกัน ถ้าไม่ล้มรัฐบาลนี้ และไม่ไล่พลเอกประยุทธ์ออกไป
๗ พรรคค้าน ก็ไม่รู้ชาติไหน จะได้เป็นรัฐบาล!?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |