๗ พรรคค้าน 'คว่ำกระดานเล่น'


เพิ่มเพื่อน    

         "คุณประวิตรมีอำนาจอะไรมาเรียกผมไป...ผมพร้อม เขากล้าเจอผมหรือเปล่า"?

                อื้อฮือ....

                ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าใครพูด ต้องเข้าใจว่าเป็นพวกกุ๊ยแบะท่านักเลง

                แต่บังเอิญได้ยินกะหู-ดูจากข่าว ว่าไม่ใช่กุ๊ย

                แต่เป็นผู้มีการศึกษาสูง นามว่า "ท่านธนาธร" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ใครต่อใครตั้งให้เป็น "นายกฯ โซเชียล"

                ท่านพูดอย่างนั้นผ่านนักข่าว ที่ถามสมมุติ ถ้าถูกเชิญตัวไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องล็อบบี้ยิสต์?

                ก็เอาเถอะ เมื่ออยากทราบพลเอกประวิตรมีอำนาจอะไร ผมจะช่วยกราบเรียนให้ท่านนายกฯ โซเชียลทราบคร่าวๆ

                ในทางราชการ ฝ่ายบริหารบ้านเมือง........

                พลเอกประวิตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายดูแลด้านความมั่นคง

                ดังนั้น พลเอกประวิตร "มีอำนาจ" ตามกฎหมาย ที่จะสั่งให้เรียกท่านธนาธรไปสอบถามได้

                ในกรณีมีข้อสงสัยที่ต้องการได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์ทั้งราชการงานเมืองและทั้งตัวท่านธนาธรเอง

                ในความเป็นบุคคล........

                พลเอกประวิตร เกิดปี พ.ศ.๒๔๘๘ อายุตอนนี้ก็ ๗๔ ปี

                ส่วนท่านธนาธร เกิดปี พ.ศ.๒๕๒๑ ตอนนี้อายุ ๔๑ ปี

                ดูตามวัยแล้ว พลเอกประวิตร นับเนื่องรุ่นพ่อ-รุ่นแม่ท่านธนาธร

                คนไทยนั้น ถึงจะมีการศึกษาหรือไม่มี แต่ด้วยเชื้อไขแห่งชาติสกุลไทย

                คนไทย โดยสายเลือด จะเป็นคนมีสัมมาคารวะ ในการแสดงออก ระหว่างผู้น้อยกับผู้ใหญ่

                แต่ฟังประโยคคำพูดธนาธร ไม่น่าเป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่เลย

                "ผมพร้อม เขากล้าเจอผมหรือเปล่า"?

                คำพูดแบบนี้ มันแสดงถึงการท้าทายว่า ร่างกายท่านธนาธรอยากปะทะ!

                พลเอกประวิตร ท่าน ๗๔

                "นางสมพร" มารดาท่านธนาธร แค่ ๖๗-๖๘ ปี

                ท่านธนาธร ๔๑

                เช่นนี้แล้ว ด้วยสัมมาคารวะแห่งคนมีชาติสกุล การแสดงออกทาง "กาย-วาจา" ควรต้อง "รู้จักรุ่น-รู้จักอาวุโส"

                ถ้าปะทะ พลเอกประวิตร สู้ท่านนายกฯ โซเชียลไม่ไหวหรอก

                ไม่เชื่อถามช่อสิ?

                ส่วนทางใจ นั่น...ไม่เกี่ยวมรรยาท แต่เกี่ยวกับอุปนิสัยสันดานและการอบรมสั่งสอน

                ดังนั้น ถ้าท่านธนาธรจะด่าหรือจะแช่งพลเอกประวิตรงุบงิบในใจ เชิญตามสบาย

                เหตุที่ให้เน้นภาษากายและวาจานั้น มิใช่เพื่อให้เกียรติกับ "ผู้อาวุโส" อย่างเดียว

                หากแต่การรู้แห่งวัยตน และการแสดงออกให้เหมาะสมกับวัยตน มันเป็นการให้เกียรติทั้งตัวเองและทั้งชาติสกุลแห่งตนด้วย

                วางตำแหน่งตัวเองเป็น "พ่อของฟ้า" ควรเป็นพ่อมีสกุลรุนชาติด้วย อย่างที่แสดงออก ประเภท "พ่อหัวร้อน" เอะอะท้าตี-ท้าต่อย

                แบบนั้น สถุล!

                เรื่องการสืบสาวเอกสารลับ/แจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าใครที่แอบไปจ้างวานพวกบริษัทล็อบบี้ยิสต์ หรือขบวนการครองโลกให้ทำอะไรๆ ทางบ่อนทำลายประเทศไทย รัฐบาล กระทั่งสถาบัน นั้น

                มันมี และมีมาตลอด!   

                ไม่ต้องไปจ้างถึงสหรัฐฯ-ยุโรปหรอก ข้อมูลลึกๆ ลับๆ ของเมืองไทย มากต่อมาก มันไปจากเมืองไทย โดยพวกสถานทูตมันซื้อ "คนไทย-คนใน" นี่แหละ ขายความลับให้พวกเขา

                แล้วสถานทูตนั่นแหละ รายงานเป็น "บันทึกรายวัน" ส่งไปถึงกระทรวงการต่างประเทศของเขาอีกทอด

                ๕๐ ปี เขาโละเอกสารเก่าๆ ทิ้งที ผมยังได้มาเป็นปึก อ่านออกบ้าง ไม่ออกบ้าง

                แต่ปะติด-ปะต่อได้ว่า สหรัฐฯ เข้ามาเชิดหลังฉากตั้งแต่ก่อน ๒๔๗๕ ด้วยซ้ำ

                ฉะนั้น กรณีว่าใครไปจ้างม็อบต่างชาติแปลงเป็นคนไทยไปด่านายกฯ ประยุทธ์ที่นิวยอร์กก็ดี

                ที่ท่านนายกฯ โซเชียลไปเซ็นจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐฯ อ้างว่า ให้ช่วยประสานการเข้าพบคนนั้น-คนนี้ก็ดี

                เนื้อแท้-เนื้อใน มันคืออะไร?

                ด้วยสถานะพลเอกประวิตร ถ้าท่านอยากรู้ ไม่ต้องเชิญลูกแม่สมพรไปถามหรอก

                ด้วยนโยบายที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ ต่อไทยขณะนี้ ยกหูไป "ต้นทาง" แกร๊กเดียว รู้จริงทะลุดาก โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งฟังคนโกหก!

                ใช่.....
                วันนี้ แนวรบด้านตะวันออกเฉียงเหนือ "ที่ไทย" ของสหรัฐฯ มันเปลี่ยนไปแล้ว

                ๑๕ ปีก่อน สหรัฐฯ เล่นไพ่ อม "ทักษิณ" เป็นสเปโตให้ตระกูลบุชมาตลอด

                กระทั่งเหตุการณ์ ปี ๕๒-๕๓ ปฏิบัติการแดงทั้งแผ่นดิน จนถึง ปี ๕๗ สหรัฐฯ ก็ยังอมทักษิณ

                และทั้งคั่ว-ทั้งอม "ยิ่งลักษณ์!" เสริมสเปโต กะน็อกมืดประเทศไทย!

                ที่น็อกไม่ได้ซักที เพราะอะไรน่ะหรือ?             

                เพราะถึงนโยบายการเมืองระหว่างประเทศเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่นโยบายทางการทหาร ระหว่างกองทัพกับกองทัพ

                "ไทย-สหรัฐฯ" เป็นแกนในมั่นคง!

                พูดกันจริงๆ ประชาธิปไตย-เผด็จการ มันหน้ากากสวมหลอกเด็ก อำนาจ "เป็น-ตาย" จริงๆ อยู่ที่กองทัพ

                การเมือง เรื่องผลประโยชน์ นักการเมืองก็เล่นไป แต่การประเทศ เรื่องความมั่นคง

                "ทหาร-กองทัพ" เขาไม่ยอมให้นักการเมืองเล่น ในประเด็นที่กองทัพ "ไม่เอาด้วย"

                เนี่ย......

                ที่เราเห็นว่าบ้านเมืองเราวิกฤติถึงขั้นจะเสียเมืองได้ง่ายๆ แต่กลับไม่เสีย ไม่มีอำนาจไหนเข้ามาแทรกแซง

                นั่นเพราะกองทัพ "สหรัฐฯ-ไทย" เป็นแกนประสานความเข้าใจ ประเทศชาติจึงไม่พังจากพวกการเมืองซน

                ก็ต้องบอกว่า ขณะนี้ ทั้งการเมืองและการทหารระหว่างไทย-สหรัฐฯ

                ปึ้กมาก!

                โดยเฉพาะ "การทหาร" ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น ก็อยากจะบอกว่าที่ไอ้ตี๋ซ่าเที่ยวไปชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน นั่นน่ะ

                ที่มึงไปทำอะไร-ต่อมิอะไร ทั้งลับ-ทั้งแจ้ง ทั้งจุ๊กจิ๊กส่วนตัวกันเอง และทั้งไปจุกจิกกะเขา

                ทำไปท้าดีไปเหอะ เดี๋ยวเขาเอาเทปมาฉายให้ดู แล้วจะร้อง ไอ๊หย่า...มันไอโออั้วนี่หว่า!

                จะบอกท่านนายกฯ โซเชียลและขบวนการแดงทั้งแผ่นดินเอาบุญ

                สหรัฐฯ เลิกเล่นไพ่รัมมี่นานแล้ว ฉีกสเปโตทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ลงชักโครกไปแล้ว

                ตอนนี้ ลงขันเป็นเจ้ามือป๊อกเด้ง "ได้-เสีย" กินด้วยกันในอาเซียน!

                ดังนั้น ๗ พรรคฝ่ายค้าน คอยจับผิดนายกฯ วันละเรื่องแล้วเดินสายด่าประจาน ๘ ทิศ ก็ทำไป

                ใกล้จะมีเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วนี่.........

                เขย่าขวดพรรคกันนอนก้นไปเรื่อยๆ ปูทางส่งคนกินหัวเมืองเล็ก-หัวเมืองน้อย เป็นวิสัยที่ทำได้

                แต่ขอบอก การลามปามฝังเชื้อให้แยกประเทศ อย่างที่นังอาจารย์อะไรนั่น ไปขึ้นเวที ๗ พรรคค้าน

                ปลุกระดม ยุยงให้คน ๓ จังหวัดใต้ แก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๑ ที่ว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้

                แต่นังอาจารย์คนนั้น ยุยงให้แก้!

                ขอบอกว่า "อย่าปลุกระดม" อย่างนี้เป็นอันขาด และการที่ ๗ พรรคค้าน เลยเถิดขนาดนี้ ไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย

                อะไรก็ตาม "ย้ำพูด-ย้ำทำ" บ่อยๆ สื่อนำเป็นเชื้อไปพูดจาขยายความเรื่อยๆ

                คนฟังบ่อยๆ ก็เหมือนน้ำหยดลงหินบ่อยๆ

                คำพูดปลุกเร้าให้คนแยกชาติ-แยกแผ่นดินนั้น ก็จะค่อยซึมฝังเข้าไปในห้วงรู้สึก-นึก-คิดเป็น "จิตผนึก" ในที่สุด

                ต้องการปลุกให้ประชาชนลงถนน!

                ใช่....

                นี่คือสิ่งที่ ๗ พรรคค้านต้องการ ต้องการใช้ประชาชนที่ลงถนนเป็นเงื่อนไขสู่การใช้อำนาจรัฐ

                เขาต้องเป็นเชื้อล่อให้กองกำลัง "ตำรวจ-ทหาร" ออกมา เสริมคำว่า

                นี่ไง...รัฐบาลทหาร รัฐบาลประชาธิปไตยซ่อนรูปเผด็จการ ส่งกองกำลังเข้าปราบประชาชน

                เขาต้องทำทุกทางให้ประชาชนลงถนน เพราะเป็นทาง "รอดตาย" ทางเดียวที่เหลืออยู่ของระบอบทักษิณ

                ที่จะ ใช้เป็นเงื่อนไขนำสู่การล้มรัฐบาลประยุทธ์

                ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ "เขียนใหม่" ทั้งฉบับไม่ได้

                ชาตินี้ ทั้งชาติ..........

                ทั้งยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ทั้งสมุนที่หนีคุกและจะทยอยหนีตามไปอีกเรื่อยๆ ก็จะต้องหนีไปตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสกลับมาตายบ้าน

                ในทางเดียวกัน ถ้าไม่ล้มรัฐบาลนี้ และไม่ไล่พลเอกประยุทธ์ออกไป

                ๗ พรรคค้าน ก็ไม่รู้ชาติไหน จะได้เป็นรัฐบาล!?

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"