ญาติร่ำไห้รับศพ 13 นศ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษกลับบ้าน "กอศ." มอบเงินช่วยค่าทำศพรายละ 1 หมื่นบาท และเร่งการจ่ายเงินค่าสินไหมอีก 1 แสนบาทต่อราย พร้อมเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือจากทั่วประเทศ "นายกฯ" เสียใจสูญเสียอนาคตชาติ เตือนสติสังคมร่วมแก้ไข "บิ๊กป้อม" ย้ำนั่งกระบะหลัง กม.ห้ามแต่ ปชช.ขอผ่อนผันตลอด "ตร." ขึงขังคุมเข้มใช้รถผิดประเภท เริ่มเตือนก่อนจับจริง
ความคืบหน้าอุบัติเหตุนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ซึ่งไปฝึกงานอยู่ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประสบอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถผู้เสียชีวิต 13 คน แยกเป็นนักศึกษา 11 คน, ศิษย์เก่า 2 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ช่วงคืนวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ส่งศพนักศึกษาทั้งหมดกลับภูมิลำเนาแล้ว โดยแยกเป็น อ.ค้อวัง จ.ยโสธร จำนวน 2 ศพ, อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 ศพ ที่เหลือทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอต่างๆ ของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่พ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตที่มารอรับศพลูกหลานกลับบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้ายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัว “มาเสมอ” แห่งบ้านหมู่ 3 ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่ต้องสูญเสียลูกชายคนเดียวอันเป็นที่รัก และเป็นความหวังหนึ่งเดียวของครอบครัวไปกับอุบัติเหตุสลดในครั้งนี้
นายณรงค์ มาเสมอ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พ่อของนายศุภวัฒน์ มาเสมอ 1 ใน 13 นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษที่เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรวดเร็วมาก ก่อนเกิดเหตุลูกชายโทรศัพท์มาบอกแม่และยายว่าเก็บของเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับมาถึงบ้านในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เพราะฝึกงานเสร็จแล้ว ซึ่งก่อนที่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อน พี่ชายที่เป็นญาติกันได้โทรศัพท์ไปห้ามปรามแล้วบอกว่าไม่ควรออกไปเที่ยวกับเพื่อน
"น้องศุภวัฒน์เป็นลูกคนเดียวของผม มีนิสัยรักเพื่อน ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเพราะว่าขัดเพื่อนไม่ได้ ทั้งที่ไม่ใช่คนกินเหล้า สูบบุหรี่ ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ทำให้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ ผมจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดบ้านเกิด" พ่อของ 1 ใน 13 ผู้เสียชีวิตกล่าว
ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ อ.เมืองฯ จ.ศรีสะเกษ นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาฯ กอศ.) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และคณะ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับคณะอาจารย์ของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องของ จ.ศรีสะเกษ เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการเยียวยาให้ความช่วยเหลือแก่พ่อแม่ผู้ปกครองของนักศึกษา จำนวน 13 คนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ใช้เวลาประชุม 30 นาที
จากนั้น เลขาฯ กอศ.และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่พ่อแม่ผู้ปกครองของนักศึกษาที่เสียชีวิตทุกศพ พร้อมทั้งได้วางพวงหรีดไว้อาลัยและมอบเงินบริจาคที่ได้จากการบริจาคในการประชุมครั้งนี้ศพละ 10,000 บาท เป็นการให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น
นายประชาคมกล่าวว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ช่วยกันในการช่วยเหลือเด็กนักศึกษาในการนำศพกลับมาบ้าน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อขอรับบริจาคเงินจากทั่วประเทศช่วยเหลืองานศพ โดยจะให้การช่วยเหลือศพละเท่าๆ กัน และเร่งรัดในการจ่ายเงินประกันภัยค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ปกครองนักศึกษาที่เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท รวมทั้งจัดคณะอาจารย์และนักศึกษาไปเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมคืนแรกนี้ทุกศพ
ส่วนนายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้นายสำราญ สีปวน รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคณะไปทำการเปิดบัญชีเพื่อขอรับบริจาคเงินจากทั่วประเทศ เพื่อจะได้เป็นการให้การช่วยเหลือนักศึกษาทั้ง 13 รายที่เสียชีวิตในครั้งนี้แล้ว โดยได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ชื่อบัญชี เพื่อนักศึกษาผู้ประสบอุบัติเหตุวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ บัญชีเลขที่ 6786173578 เพื่อจะได้นำเอาเงินที่ได้รับบริจาคไปให้การช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองของนักศึกษาที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งหมดเป็นนักศึกษาที่ถือเป็นอนาคตของชาติ โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลครอบครัวตามระเบียบที่ปฏิบัติได้
"นายกฯ เป็นห่วงเรื่องการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมาก ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้ จึงอยากให้ทุกคนในสังคมร่วมกันตรึกตรอง โดยนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียนเตือนสติตัวเองในการใช้รถใช้ถนน เช่น ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ไม่ดื่มสุราก่อนขับรถ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และคนขับรถที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นต้องอยู่ในสภาพที่พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการควบคุมการนั่งท้ายรถกระบะจะให้ทำอย่างไร เมื่อประชาชนเป็นคนขอร้องว่าให้ช่วยอนุโลม ซึ่งมาตรการในการดูแลเราก็ต้องทำให้เกิดความปลอดภัย
"การห้ามนั่งท้ายกระบะก็มีกฎหมายห้ามอยู่แล้ว เพราะว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งก็จะเกิดความสูญเสีย ดังนั้นต่อจากนี้จะมีการพิจารณาในเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัย หากคนไม่โดนเองก็ต่อต้านอยู่นั่นแหละ” พล.อ.ประวิตรกล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีนโยบายให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และการจราจรอย่างเข้มงวด หลังเกิดอุบัติเหตุรถกระบะนักศึกษาฝึกงานวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเทกระจาดทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 6 คน เนื่องจากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.รถยนต์ เพราะเป็นการใช้รถผิดประเภท นำรถกระบะมาบรรทุกประชาชน และเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การจราจรทางบก เนื่องจากใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและผู้ขับขี่ให้ตระหนักถึงความปลอดภัย ไม่ทำผิดกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จากนั้นจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เริ่มจากการจับเตือน และหากพบการฝ่าฝืนอีกก็จะจับดำเนินคดีทันที
"ผบ.ตร.ยังสั่งให้เข้มงวดกับรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถตู้ เนื่องจากบางครั้งคนขับต้องการทำรอบ จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรง" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว
ขณะที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ยืนยันว่า การฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาเป็นโครงการทวิภาคี มีจำนวน 2 รุ่น โดยรุ่นแรกฝึกประสบการณ์สำเร็จไปแล้ว โดยรูปแบบโครงการทวิภาคีไม่ได้มีความเหมาะสมในทุกจังหวัด ซึ่งพื้นที่สมุทรปราการถือเป็นจังหวัดที่ผู้ประกอบการจำนวนมากและตรงกับสาขาความต้องการที่เด็กจะต้องฝึกประสบการณ์ในวิชาชีพที่ตนเองเรียนมาคือสาขาช่างยนต์ ถือเป็นหน้าที่ของวิทยาลัยที่จะต้องหาสถานประกอบการให้เหมาะสมกับสาขาวิชาที่เด็กเรียน
"ผมเน้นย้ำเสมอว่า หากเป็นไปได้ขอให้วิทยาลัยหาผู้ประกอบการที่ใกล้เคียงในพื้นที่ และพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาชีพให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น” รมว.ศธ.กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |