"บิ๊กป้อม” ไม่ถือสา “ธนาธร” ท้าเจอหน้า ปัดเรียกมาสอบปมจ้างล็อบบี้ยิสต์ประท้วงไล่ “บิ๊กตู่” ที่สหรัฐ ระบุเป็นเรื่องหน่วยงานความมั่นคงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว "สนธิ" ลากไส้ "ไพร่หมื่นล้าน" นายทุนหนุน "ฟ้าเดียวกัน" ไทยซัมมิทใช้ ตร.ปิดล้อมโรงงาน ถือหุ้นสื่อ ไม่ทำบลายด์ทรัสต์ จ้างล็อบบี้ยิสต์ให้ อนค.กู้ 191 ล้าน ชี้ไม่ต่างกับนักการเมืองเก่า เตือนประมาท หลงตัวเอง เลยเป็นช่องโหว่ให้โดนโจมตี จับตา ต.ค.ชี้ชะตาอนาคต
เมื่อวันที่ 30 กันยายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมถูกเรียกตัวไปสอบสวนในประเด็นที่อาจเกี่ยวโยงกับการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์กลุ่มม็อบที่ประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระหว่างการประชุมสหประชาติที่สหรัฐอเมริกา ว่าเป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะต้องไปดูว่านายธนาธรทำผิดอะไรหรือไม่ ถามว่าตนจะไปเรียกอะไรเขา เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนที่ตนพูดก็คือพูดในฐานะที่ดูแลความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายธนาธรท้าเจอหน้า พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนจะไปเจออะไรกับนายธนาธร และไม่ได้ถือสา เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง
เมื่อถามว่า นายธนาธรอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นการเรียกตัวนายธนาธรเข้าไปสอบสวน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ได้เรียก และไม่รู้ว่าจะเรียกมาทำไม หากจำเป็นต้องเจอกันก็ไม่เป็นอะไร เพราะสามารถคุยกันได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ซึ่งขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง
ถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ที่สหรัฐอเมริกา รองนายกฯ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังดูอยู่ เมื่อถามต่อว่าจะมีการตรวจสอบบริษัทล็อบบี้ยิสต์ที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำไมต้องไปตรวจสอบ เพราะเรามีข้อมูลทั้งหมดและรู้อยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่า การใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์ควรมีขอบเขตหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ขอตอบ
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” เผยแพร่ความเห็นของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ระบุว่า มีคนเขาบอกว่าเดือนตุลาคมนี้จะเป็นระยะเวลาที่ชี้ชะตาคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเรื่องอนาคตทางการเมือง และในเรื่องอื่นๆ ที่อาจจะตามมาภายหลังได้ ผมดูคุณธนาธรแล้วก็น่าเห็นใจ เพราะนอกจากจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่คิดหลายๆ อย่างออกไปเหมือนคนรุ่นเก่าแล้ว ฐานะส่วนตัว และฐานะทางบ้าน ก็อยู่ในขั้นอภิมหาเศรษฐี คนที่มีการศึกษา มองอะไรในรูปแบบใหม่ๆ และมีเงินมีทองหนุนหลังน่าจะเป็นคนที่เพียบพร้อมมีคุณสมบัติในการเข้ามาเล่นการเมือง
นายสนธิกล่าวว่า นับตั้งแต่คุณธนาธรได้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และก้าวเข้ามาสู่สังเวียนการเมืองที่ต้องวนเวียนอยู่กับการแย่งชิงอำนาจ และแสวงหาผลประโยชน์ต่อไป จากวันนั้นถึงวันนี้ คุณธนาธรได้ประสบพบและก้าวเข้าสู่สงครามการต่อสู้ช่วงชิง และการโค่นล้มในทุกรูปแบบ เมื่อมองย้อนหลังไปถึงวันแรกที่คุณธนาธรได้แสดงเจตนารมณ์ความคิดของตัวเอง ก็อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องบางเรื่องที่คุณธนาธรได้มีส่วนร่วมหรือได้สนับสนุนการกระทำดังกล่าว เช่น ในยุคที่คุณธนาธรเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ยังหนุ่มยังแน่น ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้กับนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” ได้ถูกกล่าวหาและถูกมองว่าเป็นนิตยสารที่แสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับที่ประเทศไทยจะมีสถาบันพระมหากษัตริย์
ประมาทและผิดพลาด
"เผอิญช่วงนั้นเป็นยุคที่ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจทางการเมือง และในกลุ่มของทักษิณที่มีอิทธิพลในด้านความคิดกับทักษิณ ก็เป็นกลุ่มคนที่มีความคิดในแนวทางเดียวกันกับข้อเขียนของนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” เช่น คุณจักรภพ เพ็ญแข, คุณจรัญ ดิษฐาอภิชัย และอีกหลายๆ คน ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ได้หนีไปพำนักพักพิงอยู่ในต่างประเทศ ด้วยเหตุผลนี้ นิตยสารฟ้าเดียวกัน และคุณธนาธร ก็เลยรอดพ้นจากการถูกจับตามองและดำเนินการให้หยุดทำเรื่องดังกล่าว เพราะกลุ่มผู้มีอำนาจในยุคนั้น ก็เป็นกลุ่มผู้มีความคิดแบบเดียวกันกับคุณธนาธร"
อดีตแกนนำ พธม.กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่ง คนที่เดือดร้อนจากการกระทำของ บริษัท ไทยซัมมิท อินดัสตรี (ของตระกูลคุณธนาธร) ได้มีปัญหาแรงงานกับคนงานของกลุ่มบริษัททางตระกูลคุณธนาธร ซึ่งเป็นเจ้าของ ก็ประกาศปิดโรงงาน แล้วเอาตำรวจมาล้อมโรงงานไว้ แสดงความแข็งกร้าวในการไม่ยอมเจรจา เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องปกติของการทำการค้าการขาย แต่พฤติกรรมแบบนี้มันสวนทางกับบุคลิกและปรัชญาของคุณธนาธร ที่กำลังจะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับกลุ่มต่างๆ รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้แรงงานด้วย
เขากล่าวว่า คุณธนาธรก้าวเข้าสู่วงการเมือง การที่มีคนรุ่นใหม่ เข้ามาสนับสนุนอย่างล้นหลาม ก็เป็นบทพิสูจน์ว่าคุณธนาธรได้มาถูกทางแล้ว แต่การเข้ามาสู่สังเวียนสงครามของการแย่งชิงอำนาจกับระบบการเมืองเดิมๆ นั้น คุณธนาธรประมาทเกินไปหรือเปล่า? ทั้งๆ ที่ตัวเองรู้อยู่ว่าต้องเดินเข้าไปในดงหมาป่า ตัวเองก็ยังทำพลาดอยู่ เมื่อพลาดแล้ว ถูกหมาป่ากระโดดเข้าขย้ำ พลพรรคของคุณธนาธรก็บอกว่าคุณธนาธรถูกรังแก ถูกใส่ร้ายป้ายสี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะคุณธนาธรทำผิดมาตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะว่า มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองมีความมุ่งมั่น และไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
นายสนธิระบุว่า ความผิดพลาด ข้อแรก คุณธนาธรเข้ามาในแวดวงการเมือง ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเขาห้ามถือหุ้นสื่อ และคุณธนาธรไม่ได้เข้ามาในสถานภาพสมาชิกพรรค แต่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคจะประมาทเลินเล่อถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่ว่าจะแก้ตัวอย่างไรก็ตาม ความผิดก็ยังตกอยู่ที่คุณธนาธรเหมือนเดิม
สอง คุณธนาธรไม่ได้เอาทรัพย์สินตัวเองเข้าไปไว้ในบลายด์ทรัสต์ (BLIND TRUST) แล้วต่อมาภายหลังพอถูกศัตรูจี้ประเด็นก็มีข้ออ้างว่า เนื่องจากว่าตัวเองถูกตัดสิทธิ์ในการเป็น ส.ส. ก็เลยไม่จำเป็นต้องเอาทรัพย์สินเข้าบลายด์ทรัสต์ ข้อแก้ตัวดังกล่าวจะฟังขึ้นเฉพาะพวกคุณธนาธรเท่านั้น แต่ฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายที่เป็นกลางๆ ก็จะไม่เห็นด้วยกับตรรกะอันนี้ เพราะถ้าจะมาเล่นการเมือง และอยากแสดงออกถึงความโปร่งใส ก็จะต้องเอาทรัพย์สินทั้งหมดเข้าไปในบลายด์ทรัสต์ เพื่อไม่ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อนในอนาคต
สาม การจ้างบริษัทล็อบบี้ วันนี้กลุ่มคุณธนาธรออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ไม่ได้เป็นความลับอะไรทั้งสิ้น เปิดเผยหมดทุกอย่าง แต่ข้อมูลที่เปิดเผยนั้น กลับถูกเปิดเผยโดยคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ดอกเตอร์ 2 คน ที่เปิดเผยข้อมูลนี้มา และก็เลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวพัวพันกันอย่างชุลมุน ถ้าคุณธนาธรจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มาเล่นการเมือง การว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ในต่างชาตินั้น ไม่ผิดอะไรทั้งสิ้น ถ้าเปิดเผยเอาไว้ก่อนอย่างตรงไปตรงมาว่า จ้างฝรั่งที่ทำหน้าที่ล็อบบี้ มาล็อบบี้เรื่องอะไร? และระยะเวลาในการจ้างนานแค่ไหน ? ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นแล้ว ภาพคุณธนาธรก็จะกลายเป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
ไม่ต่างนักการเมืองเก่า
"คนที่ต่อต้านคุณธนาธรนั้น เพราะเขาได้รับบทเรียนจากคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ไปจ้างบริษัทล็อบบี้แล้วมาทำร้ายประเทศไทย ตรงนี้คุณธนาธรจะตำหนิคนที่ต่อต้านคุณไม่ได้ เพราะเขามีประสบการณ์ที่เลวร้ายจากคุณทักษิณในเรื่องการจ้างบริษัทล็อบบี้ อุปมาอุปไมยเหมือนคนที่เคยถูกงูกัด โดนเชือกกล้วยเปียกน้ำมาสัมผัส ก็ย่อมคิดว่าเป็นงู แล้วคุณจะไปตำหนิพวกเขาได้ยังไง ถ้าเขาตั้งข้อสงสัยและเชื่อว่ากลุ่มคนที่ไปประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ที่สหประชาชาติ ในมหานครนิวยอร์กนั้น ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ เพราะสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในหมู่ผู้ประท้วงนั้น มันชวนให้เชื่อได้ว่าต้องมีคนว่าจ้างแน่นอน ซึ่งก็อาจจะเป็นบริษัทล็อบบี้ยิสต์ที่คุณธนาธรจ้างอยู่ก็ได้ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้"
ข้อสุดท้าย พรรคอนาคตใหม่กู้เงินคุณธนาธร 191 ล้าน โดยพฤติกรรมแล้ว ถือได้ไหมว่าคุณธนาธรคือเจ้าของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่พรรคที่มหาชนเข้ามามีส่วนร่วม ถึงแม้ว่าในข้อเท็จจริงทุกพรรคอาจจะทำเช่นนี้ เพียงแต่ว่าเขามีวิธีหลบหลีกหลบซ่อน ใช้นอมินี ในเมื่อคุณธนาธรจะเข้ามาสู้กับระบบการเมืองเก่า และคุณธนาธรก็ยังใช้วิธีเก่าๆ ในการเป็นเจ้าของพรรค โดยที่ทุกคนต้องมาเอาเงินกับคุณธนาธร แล้วจะมีความต่างกันตรงไหนระหว่างพรรคการเมืองแบบเก่ากับพรรคอนาคตใหม่ เพราะคนที่คิดเป็นก็ต้องตั้งคำถามถามว่า พรรคอนาคตใหม่จะเอาเงินมาคืนคุณธนาธรได้อย่างไร 191 ล้านบาท? ในข้อนี้คุณธนาธรไม่ได้ต่างไปกว่าคุณทักษิณ ชินวัตร, คุณบรรหาร ศิลปอาชา, คุณเสนาะ เทียนทอง ฯลฯ ในวิธีการเล่นการเมือง
"ทั้งหมดที่ผมพูดมานี้ เป็นความประมาทของคุณธนาธร และพรรคพวกที่ไม่เคยคิดว่าเหล่านี้จะเป็นช่องโหว่ต่างๆ ที่จะโดนโจมตี และใช้กฎหมายมาจัดการ ผมเห็นใจที่กลุ่มคุณธนาธร เพราะอำนาจรัฐไม่เคยเข้าข้างใคร นอกจากเข้าข้างผู้ที่ถืออำนาจรัฐอยู่ ถ้าวันหนึ่งคุณธนาธรมีอำนาจรัฐ ก็จะต้องทำเช่นนี้เช่นกัน"
นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อคุณเข้ามาในแวดวงการเมืองที่มีแต่เขี้ยวงาสารพัน สิ่งเดียวที่คุณทำได้ เพื่อไม่ให้คุณบาดเจ็บล้มตายไปก่อนที่จะได้มีโอกาสเข้ามาช่วงชิงอำนาจ (ที่คุณเข้ามาเล่นการเมืองก็เพราะว่าคุณต้องการล้มล้างอำนาจเก่า แล้วก็ให้พวกคุณเข้ามาใช้อำนาจใหม่ บริหารชาติบ้านเมืองแทนมิใช่หรือ?)เพราะฉะนั้นแล้ว ก็ต้องเดินเข้ามาตั้งการ์ดสูงปิดช่องโหว่ทุกอย่าง ทำอะไรด้วยความรอบคอบ ไม่แสดงออกเพื่อให้ตัวเองดูดีเหนือคนอื่น เนื่องจากคุณไม่ได้ทำเช่นนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ในความหลงตัวเองมันก็เลยเป็นช่องโหว่ที่คุณโดนโจมตีอย่างดุเดือดตลอดเวลา คุณอย่าไปเที่ยวโทษใครเลยแม้แต่นิดเดียว คุณต้องโทษตัวเองที่สร้างปัญหาให้ตัวเอง ด้วยตัวเอง เปิดช่องโหว่ให้คนมาเล่นงานตัวคุณเอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |