เลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐมสุดคึก 6 พรรคแห่ยื่นใบสมัคร “เผดิมชัย” คว้าเบอร์ 1 “สุรชัย” ได้เบอร์ 3 ส่วน “ไพรัฏฐโชติก์” สามีเจ้าของเก้าอี้เดิมเบอร์ 6 “อนค.-ปชป.-ชทพ.” ต่างมั่นใจ “ปิยบุตร” แพลมแผนเตรียมฮั้วซ่อมอีก 4 เขต อ้างต้องมองภาพรวม “เทพไท” ย้ำหากชาติไทยพัฒนาถอนตัวพรรคยึดเก้าอี้แน่ “บิ๊กป้อม” บอกให้ 2 พรรคคุยกันพร้อมตบท้ายรู้อะไรควร-ไม่ควร  

    เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. ถือเป็นวันแรกที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครปฐมได้เปิดรับสมัครผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แทนตำแหน่งที่ว่างในเขตเลือกตั้งที่ 5 เนื่องจากนางจุมพิตา จันทรขจร อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้ลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ซึ่ง กกต.นครปฐมได้ใช้ ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอสามพราน จ.นครปฐม เป็นที่รับสมัคร ซึ่งจะเปิดรับสมัครถึง 4 ต.ค. โดยมี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. มาเป็นประธานในการเปิดรับสมัคร และมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. รวมทั้งนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เข้าสังเกตการณ์ด้วย
      โดยก่อนถึงเวลา 08.30 น. ซึ่งเปิดรับสมัคร มีบรรดาเหล่าแกนนำของพรรคต่างๆ ที่จะส่งคนเข้าชิงชัยเดินทางมาให้กำลังใจกับผู้สมัครอย่างมากมาย ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักและสถานที่รับสมัครคับแคบไปทันตา เนื่องจากเต็มไปด้วยเหล่ากองเชียร์ของแต่ละพรรค
    และเมื่อถึงเวลาเปิดรับสมัคร เจ้าหน้าที่รับสมัครแจ้งว่ามีผู้สมัครที่เดินทางมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลา 6 พรรคการเมือง และไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องจับฉลาก 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการจับสลากลำดับที่การจับสลาก และครั้งที่ 2 เป็นการจับลำดับการยื่นใบสมัคร หรือหมายเลขผู้สมัคร โดยผลของการจับปรากฏว่านายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้หมายเลข 1, น.ส.สิริขวัญ แย้มมูล จากพรรคพลังสังคมได้หมายเลข 2, นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้หมายเลข 3, นางลาวัลย์ สิงห์สถิต จากพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ได้หมายเลข 4, น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง จากพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้หมายเลข 5 และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร จากพรรค อนค. ได้หมายเลข 6 ซึ่งกองเชียร์ของผู้สมัครที่อยู่ภายนอกอาคารได้รับทราบหมายเลขผู้สมัครของตน ต่างก็โห่ร้องแสดงความยินดี
        นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. ซึ่งเดินทางมาเป็นกำลังใจให้นายไพรัฏฐโชติก์ กล่าวภายหลังจับหมายเลขผู้สมัครว่า พรรคมั่นใจเกิน 100% ว่าการเลือกตั้งสามพรานจะเป็นการแสดงมติมหาชน ใครที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจดำรงอยู่ต่อไป ใครเบื่อนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญแสดงมติมหาชนให้คนทั้งประเทศได้เห็น ซึ่งเราจะมีการเลือกตั้งอีกหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น จ.กำแพงเพชร จ.ขอนแก่น และสมุทรปราการ แต่อยากให้สามพราน จ.นครปฐม เป็นจุดเริ่มต้น
“การลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้เราตั้งใจเต็มที่ เตรียมทั้งปราศรัยย่อย ปราศรัยใหญ่ เดินเคาะประตูบ้าง ทั้งหัวหน้าพรรค ผม และแกนนำพรรคจะเดินทางช่วยหาเสียงเข้าถึงประชาชนให้มากสุด และวันนี้นายไพรัฏฐโชติก์มีความพร้อม เรามั่นใจว่าจะทำได้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงมีความสำคัญกับพรรค แต่ยังสำคัญต่อภาพรวมการเมืองภาพใหญ่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน การทำงานในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเรื่องแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตยที่เราพยายามต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)”
       นายปิยุบตรยังชี้แจงถึงการเลือกตั้งซ่อมเขตอื่นๆ ว่า พรรคจะส่งผู้สมัครหรือไม่ ต้องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเสียก่อนว่าเราจะส่งที่ใด ไม่ส่งที่ใด แต่จากการวิเคราะห์เบื้องต้นและทีมงานเห็นว่าการเลือกตั้งทั้ง 4 แห่ง เป็นโอกาสสำคัญในการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยของพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่กำแพงเพชรและขอนแก่นเราจะไม่ส่งผู้สมัคร แต่ในส่วนของสมุทรปราการ ยืนยันว่าพรรคจะส่งผู้สมัครลง เพราะว่าในส่วนนี้สำคัญเกี่ยวข้องกับคะแนนเสียงของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และการเลือกตั้งครั้งที่แล้วผู้สมัครของเราก็ได้คะแนนไม่น้อย คะแนนทิ้งห่างกันไม่มาก เราก็มีโอกาสชนะในเขตนั้นเช่นเดียวกัน 
“นี่คือการวิเคราะห์ส่วนตัวของผม แต่ในท้ายที่สุดต้องนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหาร โดยอยากให้มองการเมืองภาพใหญ่ว่า การเลือกตั้งทั้ง 4 เขต ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนรัฐบาลได้ เราอยากเริ่มต้นที่นี่ 1 เสียงของพี่น้องชาวสามพราน สามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้" นายปิยบุตรกล่าว
     ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจนายสุรชัย ซึ่งเป็นผู้สมัครเก่าในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 และหลังจากพลาดโอกาสในการเลือกตั้งครั้งก่อน ก็ยังได้ลงพื้นที่ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาวสามพรานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพราะเคยเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.) มาก่อน จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหวังมากยิ่งขึ้น โดยหากนำผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามาวิเคราะห์กัน จะเห็นได้ว่าฐานเสียงเดิมของพรรคจะเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น เพราะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เคยแบ่งคะแนนจากพรรคไปไม่ได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขันครั้งนี้ ทำให้คะแนนของพรรค 18,970 คะแนน รวมกับของ พปชร. 18,741 คะแนน จะได้ 37,711 คะแนน ชนะพรรค อนค.ที่ได้ 34,164 คะแนน แต่เมื่อในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค ชทพ.ที่มีคะแนน 12,279 คะแนนลงด้วย จึงต้องทำให้ผู้สมัครของพรรคต้องลงพื้นที่อย่างหนัก และลุ้นคะแนนกันต่อไป แต่หาก ชทพ.ไม่ส่งสมัครโอกาสของผู้สมัคร ปชป.มีโอกาสสูงกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาก คือ คะแนนของ 3 พรรค รวมกันจะได้มากถึง 49,990 คะแนน
         นายเทพไทกล่าวอีกว่า การที่นายสุรชัยจับฉลากได้เบอร์ 3 นั้น ถือว่าสมความคาดหวัง และเป็นความพึงพอใจที่อยากได้หมายเลข 3 มาตั้งแต่ต้น เพราะเชื่อว่านครปฐมเป็นเมืองพุทธ มีองค์พระปฐมเจดีย์ มีพุทธมณฑล การได้เบอร์ 3 หมายถึงพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมทั้งสอดคล้องกับแคมเปญใช้หาเสียงในครั้งนี้ "เลือกตั้งวันที่ 23 เลือกเบอร์ 3 เพื่อชาวสามพราน สุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์" จะทำให้ประชาชนจดจำตัวผู้สมัครและหมายเลขได้ง่ายมากกว่าผู้สมัครหมายเลขอื่นๆ 
    นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในแกนนำพรรค ปชป.กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีความมั่นใจ เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาผู้สมัครสามารถทำคะแนนมาได้เป็นอันดับที่ 2 มีคะแนนรวมกว่า 18,000 คะแนน ครั้งนี้จึงต้องระดมบรรดาหัวกะทิของพรรคมาช่วยกันหาเสียง เพราะ 1 เสียงมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง และพื้นที่ จ.นครปฐม อดีตเราเคยยิ่งใหญ่ มี ส.ส.มาเกือบทุกครั้ง แม้กระทั่งครั้งที่ผ่านมาเราก็ได้มา 1 ที่นั่ง ในเขต 1 ครั้งนี้ยังมีความเชื่อว่าน่าจะไม่พลาดเช่นกัน
    ขณะที่นางกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. ปฏิเสธข่าวการล็อบบี้ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐม ว่าไม่มีการพูดคุยในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ และไม่มีการตกลงจนเป็นข้อสรุป ทางพรรคจึงได้ส่งนายเผดิมชัยลงเลือกตั้ง เพราะพรรคเห็นว่าตระกูลสะสมทรัพย์เคยเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมในสนามเลือกตั้งนี้ ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีและความผูกพันของชาวนครปฐม จึงหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่พรรคจะได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้
        ส่วนนายเผดิมชัยกล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. แม้คะแนนจะถูกทิ้งห่าง แต่ครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ ส่วนการหาเสียงก็มั่นใจ เพราะช่วง 5 เดือนนับจากวันที่ 24 มี.ค. ลงพื้นที่เป็นประจำ ดังนั้นการเมืองจึงอยู่ในสายเลือด มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง และที่จับสลากได้เบอร์ 1 ก็เพราะชื่อเผดิมชัย จึงถือว่าเป็นโชค
         ทั้งนี้ ในช่วงเช้าก่อนรับสมัคร นายเผดิมชัยที่เดินทางมาถึงสถานที่รับสมัคร ถือเป็นคนเดียวที่ไปไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่หน้าที่ว่าการ อ.สามพราน และหลังจากสมัครเสร็จ นายเผดิมชัยก็ยังบอกว่าจะเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ จ.นครปฐมด้วย
    ส่วนที่ทำการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บ้านอัมพวัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ว่า เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกรณีที่พรรค ปชป.และ ชทพ.ต่างส่งคนของตนเองแข่งขันการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่นครปฐมนั้น ก็ต้องคุยกัน
         เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ เพื่อหลีกทางให้กับ ปชป.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของทั้ง 2 พรรคต้องไปพูดคุยกันเอง ในส่วนของตนเองไม่จำเป็นที่จะต้องไปเป็นผู้ประสานในการพูดคุย เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร 
ถามอีกว่า ที่ตกลงกันไม่ได้ เพราะนายวราวุธยืนยันว่าจะส่งคนของพรรคลง พล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ไม่รู้ ซึ่งก็แล้วแต่เขา ทั้งสองพรรคก็ต้องไปคุยกัน
        เมื่อถามอีกว่า หากทั้งสองพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัคร ส.ส.แข่งกันเองจะตัดคะแนนกันเอง และอาจทำให้พรรค อนค.ชนะ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สื่อก็ว่ากันไปเอง คิดกันไปเรื่อยว่าจะไปตัดคะแนนกัน ขอให้เป็นเรื่องของทั้งสองพรรค เพราะไม่ทราบ ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. ลงพื้นที่และหาเสียงว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็คิดเอง จะคิดหรือจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ซึ่งก็ถือเป็นวิธีการหาเสียงของนายธนาธร อยากทำอะไรก็ทำไป.