กปปส.ตั้งพรรค มีกระทบประชาธิปัตย์

ทิศทางการตั้งพรรค กปปส.ที่มีข่าวจะใช้ชื่อ พรรคมวลมหาประชาชนฯ จนถึงขณะนี้พบว่ายังไม่ได้ไปแจ้งจดชื่อขอตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่ข่าวการจัดตั้งพรรคการเมืองของเครือข่าย กปปส.ก็ยังปรากฏอยู่

อิสสระ สมชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์-อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เป็น 1 ใน 9 แกนนำ กปปส. ที่ร่วมเคลื่อนไหวกับสุเทพ เทือกสุบรรณ มาตั้งแต่วันแรก จนตอนนี้ตกเป็นจำเลยร่วมกันในคดี กปปส. ได้วิเคราะห์เรื่องกระแสข่าวความเป็นไปได้ที่เครือข่าย กปปส.อาจจะตั้งพรรคการเมือง โดยยอมรับว่าหากมีการตั้งพรรค กปปส.จริง ก็คงกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็จะกระทบไม่มาก ไม่ถึงกับสร้างแรงสั่นสะเทือนอะไร ด้วยเหตุผลว่า คนที่ไปร่วมเคลื่อนไหวเป็นมวลชนสนับสนุน กปปส. หลายคนก็เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็อาจทำให้มีอดีตแนวร่วม กปปส.บางคน ที่ก็อาจหันไปเชียร์พรรค กปปส.หากตั้งขึ้นมาจริงก็ได้

“ผมไม่อยากใช้คำว่ากระเทือน คืออาจจะมีผลกระทบอยู่ แต่ผมว่าก็ไม่มาก เพราะเชื่อว่า พรรคมวลมหาประชาชน เขาคงไม่มาเจาะกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เขาก็ต้องหาแนวร่วมเอง

ถามว่าจะไม่กระทบเลย คงเป็นไปไม่ได้ ก็มีบ้าง แต่ปัญหาว่า นอกจากสมาชิกแล้ว จะมีอดีต ส.ส.ไปหรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่าในส่วนของอดีต ส.ส.ปชป.ในภาคอีสานยังอยู่ครบ

คำว่ากระทบหมายถึงจะถูกแย่งฐานเสียงไปใช่ไหม ผมว่าก็มีบ้าง อย่าลืมว่ามวลมหาประชาชนคือไปจาก กปปส. แล้ว กปปส.ก็ไปจากประชาธิปัตย์ ผมว่า กปปส.ที่เป็นประชาธิปัตย์จริงๆ เมื่อจบแล้ว เขาก็กลับมาพรรค อย่างผมก็กลับมาพรรค ปชป. เพราะจบภารกิจแล้ว”

อิสสระ 1 ใน 9 แกนนำ กปปส. เล่าย้อนความหลังการเมืองถึงจุดเริ่มต้นของ กปปส. ก่อนที่จะมีข่าวเรื่องการตั้งพรรคการเมืองตอนนี้ว่า เมื่อรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย มีความพยายามจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเมื่อปี 2557 เลยเกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายลักหลับ นิรโทษกรรมสุดซอย ที่ต่อมามีประชาชนออกมาร่วมเคลื่อนไหวจำนวนมาก เมื่อเริ่มมีคนออกมาร่วมจำนวนมาก ตอนนั้นคนก็มองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนหลัก หลายคนมาร่วมชุมนุม นอกจากเป็น ส.ส.ตอนนั้นแล้วยังมีตำแหน่งภายในพรรค

ตอนนั้นรองหัวหน้าพรรค ปชป. 3 คนคือ ผม-แม่เลี้ยงติ๊ก ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และถาวร เสนเนียม ก็คิดกันว่าการชุมนุมจะมีผลกระทบกับพรรค อาจทำให้ถูกยุบพรรคได้ จึงเห็นว่าใครมีตำแหน่งบริหารในพรรคก็ต้องสละตำแหน่ง เรา 3 คนก็เลยลาออกจากรองหัวหน้าพรรค เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับพรรค จากนั้นแกนนำที่คุยกัน 5 คน มี สุเทพ-ถาวร-วิทยา แก้วภราดัย-สาทิตย์ วงศ์หนองเตย และผม คุยกันว่า เพื่อยกระดับการต่อสู้ ทุกคนยินดีสละตำแหน่งการเมืองทั้งหมด เราจึงลาออกจาก ส.ส. และยังมีเอกนัฐ พร้อมพันธุ์-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์-ชุมพล จุลใส-ณัฐพล ทีปสุวรรณ ก็ร่วมลาออกด้วย เลยรวมกันเป็น 9 คน ที่เป็นแกนนำ กปปส. เพื่อให้เป็นกลุ่มก้อนและยกระดับการต่อสู้ จากล้มกฎหมายนิรโทษกรรมมาเป็นการขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณให้ออกไปจากการบริหารประเทศ

“โดยไม่ได้มีข้อตกลงที่จะตั้งพรรคการเมือง ในการรวมกันไม่ได้บอกว่าอนาคตจะตั้งพรรคการเมือง ไม่ได้มีข้อตกลงอะไรกัน”

...แกนนำ กปปส.ทั้งหมดมาจากประชาธิปัตย์ เมื่อมาจากพรรค ปชป.ทั้งหมด แล้วก็ไม่ได้มีข้อตกลงจะตั้งพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นความเป็นพรรค ปชป.ทุกคนจึงอยู่ครบเวลาเคลื่อนไหว นอกจากพวกเรา 9 คนแล้ว ผมก็ว่าก็มีหลายคนทั้งระดับแกนนำพรรค อดีต ส.ส.ของพรรคจำนวนมากไปเวที แต่พอตั้งเป็น กปปส. หลายคนก็หายไปไม่ได้ไปขึ้นเวที แต่ก็ร่วมกิจกรรม ไปขึ้นเวที เป็นลักษณะการไปเสริมเวที ไม่ได้เป็น กปปส.

เมื่อเป็น กปปส.แล้ว และยกระดับขับไล่ระบอบทักษิณ ก็มีการเสนอแนวทางขอให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ตอนนั้นก็มีเสียงสอดแทรกขึ้นมาว่า เป็นแผนพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หลายคนเห็นด้วยหรือไม่ในการชุมนุม แต่บางคนก็เกรงจะเป็นเครื่องมือ ปชป. ก็มีการคุยกัน จนนายสุเทพประกาศบนเวทีว่าเป็นความคิดของ กปปส.ล้วนๆ ไม่ได้เป็นของ ปชป. และสุเทพประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป จะไปทำงานกับภาคประชาชน จนทำให้คนที่มาร่วมชุมนุมสนิทใจมากขึ้น ทำให้คนมาชุมนุมเยอะขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ การชุมนุมจบ คสช.ออกมาทำรัฐประหาร ทางฝ่ายผม และเพื่อน กปปส. 8 คน ก็กลับมาพรรค บอกว่าเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก็กลับมาทำงานช่วยพรรค ปชป. เพราะ กปปส.แม้เป็นการเมือง แต่ก็ไม่ใช่การเมืองที่เกิดจากพรรคการเมืองจริงๆ

“ผมก็บอกว่า พวกเรามีหน้าที่กลับมาอยู่พรรค ปชป.แล้วก็ต้องให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ จะให้เอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้ เพราะข้อบังคับพรรคเป็นแบบนี้ เมื่อทุกคนมาแล้วก็ต้องทำตามข้อบังคับพรรค ในการสนับสนุนทางการเมืองก็ต้องสนับสนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แต่จะได้เป็นหรือไม่ ก็แล้วแต่เสียงสนับสนุน”

ถามว่า ในฐานะอยู่ กปปส.มาตั้งแต่วันแรก หากจะมีการตั้งพรรคมวลมหาประชาชน พรรค กปปส. มองอย่างไร อิสสระ ยืนยันว่า ระหว่างการชุมนุม กปปส.ที่ผ่านมา ไม่เคยคุยกันเรื่องการตั้งพรรค คุณสุเทพยังบอกพวกเราด้วยซ้ำว่า การชุมนุมจบแล้ว พวกคุณกลับพรรค ปชป. ไม่มีพรรคไหนดีเท่าพรรค ปชป. คุณกลับไปช่วยทำพรรคให้มันเข้มแข็ง

เมื่อจบการชุมนุมแล้ว เราก็ถูกปฏิบัติเหมือนคนอื่นๆ ถูกทหารเรียกให้มารายงานตัว หลายคนไปพูดว่าเราเรียกทหารออกมาปฏิวัติ มันไม่ใช่ พวกผมก็ถูกคุมตัวไปยังสถานที่ต่างๆ กปปส.ก็โดน

เมื่อท่านสุเทพ ตามข่าว ก็พูดมาตลอดว่า ต้องการให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป ที่ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน เพราะนายสุเทพลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.แล้ว และเคยบอกว่าจะไปทำการเมืองภาคประชาชน จะไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น อย่างอดีตแกนนำ กปปส. 8 คน คุณสุเทพก็ไม่เคยชวนใครแม้แต่คนเดียว ไม่เคยชวน ว่าอิสสระ สมชัย ไปตั้งพรรคการเมืองด้วยกัน และไม่ได้ข่าวว่าชวนใคร เป็นความคิดของคุณสุเทพ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ปชป. และเป็นการแสดงออกทางการเมืองในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แม้ว่าภาพในอดีตจะผูกพันว่า นายสุเทพเกี่ยวพันกับพรรค ปชป. แต่เขาก็ได้ประกาศไปแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค ปชป.แล้ว

เพราะฉะนั้น การที่คุณสุเทพจะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน และไม่เคยชวนใคร อย่างผมเจอกับคุณสุเทพ เคยไปประชุมเรื่องอะไรกัน ก็ไม่เคยมาชวนผมไปทำพรรคการเมือง

- ในฐานะเป็น 1 ใน 9 แกนนำ กปปส. หากเกิดพรรคมวลมหาประชาชนขึ้นในอนาคต คิดว่ามวลชนที่เคยเคลื่อนไหวสนับสนุน กปปส. เขาจะรับได้ไหม เริ่มมีเสียงวิจารณ์ทำนองกลืนน้ำลาย?

ก็แล้วแต่ท่าน คือผมก็อยู่ประชาธิปัตย์ คือพูดง่ายๆ ว่าคนที่ไปร่วมตอนชุมนุม กปปส. ก็อยู่ประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้หมายถึงว่า กปปส.ทั้งหมดคือประชาธิปัตย์ ส่วนหนึ่งที่ไปร่วม เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อการชุมนุมยุติลงแล้ว คนส่วนนี้ที่เป็นประชาธิปัตย์เขาก็คิดว่า เขาไม่ไปด้วย เขากลับมาพรรค ปชป.เหมือนเดิม เพราะเขาถือว่า กปปส.ไม่ใช่พรรคการเมือง เขาก็กลับมาที่เดิม ก็อาจจะมีบ้าง ที่ว่าไปเอาด้วยก็มี ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ พูดง่ายๆ ว่าเป็นฮาร์ดคอร์ก็มี มีสมาชิกประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง

ซักถามว่า หากพรรคของฝ่าย กปปส.มีการตั้งขึ้นตามข่าว จะมีผลกระทบกับประชาธิปัตย์อย่างไร เพราะก็เป็นฐานการเมืองเดียวกัน อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ยอมรับว่าอาจจะมีบ้างผลกระทบ เพราะบางคนที่เป็นแฟนคลับกันจริงๆ ไปไหนไปด้วยก็มี ก็ยังตามไปด้วยก็มี บางคนก็อาจจะบอกไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองแล้ว กปปส.เสร็จแล้ว ผมกลับประชาธิปัตย์ แต่บางส่วนที่เป็นแฟนคลับเลย ไปไหนไปด้วย ถามว่ากระทบหรือไม่ ก็กระทบ อาจจะมีบ้าง แต่ผมว่าไม่มาก คิดว่าไม่มาก เพราะว่าความเป็นประชาธิปัตย์ยังอยู่ ความเป็นสมาชิกพรรคของเขายังอยู่

ถามย้ำว่า หากพรรคเครือข่าย กปปส.เกิดขึ้นจริง บางพื้นที่ซึ่งเป็นฐานหลักของ ปชป. เช่น ภาคใต้ หรือกรุงเทพมหานคร คนที่เคยเลือกพรรค ปชป.ก็อาจไปลงคะแนนให้พรรคมวลมหาประชาชนฯ อิสสระ-อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ยอมรับว่า ก็มีบ้าง ที่ว่าจะไม่ให้มีเลย เป็นไปไม่ได้ ก็อย่างตอนชุมนุม ประชาชนที่มาจากภาคใต้ก็เข้ามาเยอะมาก ส่วนหนึ่งที่มาร่วมกับ กปปส.เป็นประชาธิปัตย์ เมื่อจบแล้วเขาก็คงกลับไปประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่อาจมีบางส่วนที่เป็นฮาร์ดคอร์เลย ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ขอไปด้วยกันก็มี ถามว่ามากเท่าไหร่ ผมก็ว่ามีพอสมควร แต่คงไม่มาก กระทบไหม กระทบบ้าง ก็เรื่องธรรมดา

ผมไม่อยากใช้คำว่ากระเทือน คืออาจจะมีผลกระทบอยู่ แต่ผมว่าก็ไม่มาก เพราะเชื่อว่าพรรคมวลมหาประชาชนเขาคงไม่มาเจาะกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เขาก็ต้องหาแนวร่วมเอง ถามว่าจะไม่กระทบเลย คงเป็นไปไม่ได้ ก็มีบ้าง แต่ปัญหาว่า นอกจากสมาชิกแล้ว จะมีอดีต ส.ส.ไปหรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่าในส่วนของอดีต ส.ส.ปชป.ในภาคอีสานยังอยู่ครบ

คำว่ากระทบหมายถึงจะถูกแย่งฐานเสียงไป ใช่ไหม ผมว่าก็มีบ้าง อย่าลืมว่ามวลมหาประชาชนคือไปจาก กปปส. แล้ว กปปส.ก็ไปจากประชาธิปัตย์ ผมว่า กปปส.ที่เป็นประชาธิปัตย์จริงๆ เมื่อจบแล้ว เขาก็กลับมาพรรค อย่างผมก็กลับมาพรรค ปชป. เพราะจบภารกิจแล้ว

...สำหรับภายในพรรค ปชป.ที่ผ่านมา ไม่มีการประชุมกัน หากมีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ยังอาจพอเห็นได้ว่าใครมีท่าทีอย่างไรบ้าง ผมก็เลยตอบไม่ได้ว่าจะมีใครไปหรือไม่ แต่เท่าที่ฟังหลายคนที่เป็นนักการเมืองของพรรคก็ยืนยันว่ายังคงอยู่ที่พรรค ปชป.

สำหรับภาคอีสาน อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยังอยู่กับพรรคครบหมดทุกคน วิฑูร นามบุตร ก็ไม่ไป เพราะสุเทพเป็นสุภาพบุรุษ ผมเคารพคุณสุเทพเป็นการส่วนตัว แม้จะไม่ได้อยู่พรรค ปชป.ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะขัดแย้งอะไรกัน อย่างผมเองไปร่วมหัวจมท้ายตอน กปปส. 204 วันด้วยกัน เขาไม่เคยชวนอะไรผม รวมถึง บุณย์ธิดา สมชัย ลูกสาวผม อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ก็ไม่ถูกชวน

พื้นที่อีสานก็ยืนยันว่า อดีต ส.ส.ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ยังอยู่ ปชป.ครบทุกคน และจะต้องส่งผู้สมัครอีสานให้ครบทุกเขต เพราะใช้ระบบเลือกตั้งใบเดียว

อิสสระ-อดีตแกนนำ กปปส. กล่าวตอบหลังถามว่า มองยังไงที่คนก็มองว่า พรรค กปปส. จริงๆ ก็อาจเป็นพรรคพันธมิตรกับ ปชป.ก็ได้ เพราะอาจไม่ได้หวัง ส.ส.เขต แต่หวังส่งคนลงเลือกตั้งมากๆ แล้วเก็บคะแนนเพื่อหวังปาร์ตี้ลิสต์ โดยให้ทัศนะว่า ผมว่าทุกพรรคที่ส่งคนลงเลือกตั้งทั้ง ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ ผมมองว่าคนที่มีอำนาจในการตั้งพรรค กปปส. ผมไม่ได้หมายถึงท่านสุเทพ เพราะเขาก็บอกว่าเขาไม่เกี่ยว ผมว่าเขาก็ต้องหวังจะได้ ส.ส.เขตเหมือนกัน แต่จะได้หรือไม่ ก็อีกเรื่อง เพราะเห็นเขาบอกว่าจะส่งทุกเขต

การเลือกตั้งมันจำเป็นต้องส่งคนลงทุกเขต เพราะมีบัตรเลือกตั้งใบเดียว การจะส่งคนลงเลือกตั้งทุกเขต แม้คนที่ลงจะได้ ส.ส.หรือไม่ แต่การส่งคนลง ก็เพื่อให้คนกาเลือกเขา เพื่อพรรคจะได้คะแนนพรรคด้วย เพราะหากไม่ส่ง พรรคก็ไม่ได้คะแนน

- จะมาแย่งคะแนนพรรค ปชป.หรือไม่?

ก็เรื่องธรรมดา แย่งพรรคเพื่อไทยก็แย่ง เพราะผมมองว่าคนเขาก็ไม่ได้ยึดมั่นอะไรกับพรรคเพื่อไทย อย่างหลังเกิดเหตุปรากฏการณ์ กปปส. ทำให้ประชาชนรู้เรื่องการเมืองเยอะ คนที่มาชุมนุมก็ไม่ได้ว่าจะสนับสนุนประชาธิปัตย์ทั้งหมด แม้แต่คนที่เคยนิยมพรรคเพื่อไทยบางส่วน ก็ยังมียังมาร่วม ดังนั้นมองว่าไม่ได้กระทบกับแค่ประชาธิปัตย์ แต่ฐานของเพื่อไทยก็กระทบ แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น

ดันอภิสิทธิ์นายกฯ ไม่ใช่ประยุทธ์

อิสสระ-อดีตแกนนำ กปปส. ยังกล่าวตอบข้อถามที่ว่า มีโอกาสหรือไม่ที่พรรค ปชป.กับพรรคมวลมหาประชาชนฯ จะเป็นพันธมิตรการเมืองด้วยกัน ทั้งช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง โดยบอกว่าก็เป็นไปได้ทั้งนั้น การเมืองเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เบื้องต้น เราชูหัวหน้าพรรค ปชป.เป็นนายกฯ ก็ต้องยึดแนวที่หัวหน้าพรรคเคยพูดไว้ ต้องดูแนวว่าไปด้วยกันได้ไหม เช่น อุดมการณ์ นโยบายพรรค ว่ามันสอดคล้องไปกันได้หรือไม่ ถ้าไปไม่ได้ เราจะถูกชาวบ้านด่า

อิสสระ-อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ยังมองถึงโอกาสเกิดนายกฯ คนนอกหลังเลือกตั้งว่า ผมว่าเป็นได้ แต่บริหารยาก คือต้องมี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเกิน 250 เสียง เพราะแม้จะมี ส.ว.มาโหวตตอนเลือกนายกฯ แต่โหวตเสร็จ ส.ว.ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่อองการบริหารประเทศของรัฐบาล หากรัฐบาลที่จะตั้ง ถ้าไม่มี ส.ส.รัฐบาลเกินกึ่งหนึ่ง ก็ไปไม่รอด อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งเดียวก็เสร็จเลย

- โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะเปิดประตูรับนายกฯ คนนอกเป็นไปได้ไหม

ผมตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค เราจะไปพูดล่วงหน้าเดี๋ยวกรรมการบริหารพรรคเขาจะว่า

ถามต่อไปว่าหากมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ๆ โดยมุ่งเจาะฐานคนรุ่นใหม่ จะแย่งฐานคนรุ่นใหม่ที่คิดจะเลือกพรรค ปชป.หรือไม่ อิสสระ มองว่าก็เป็นไปได้ที่เขาอาจสามารถดึงฐานเสียงของ ปชป.ไป แต่อนาคตการเมืองผมมองว่าจะเหลือแค่สองพรรคเท่านั้น เหลือพรรคใหญ่สองพรรค พรรคเล็กๆ ผมมองว่ายาก คุณลองดูการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่กาบัตรสองใบ คะแนนพรรคมีแค่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ต่อให้พรรคอื่นมาก็ได้เฉพาะตัวผู้แทน แต่คะแนนพรรคในเขตผู้แทนไม่มี คนที่ได้ ส.ส.เขตในต่างจังหวัดได้เพราะบารมีส่วนตัว แต่คะแนนพรรคจะได้น้อยมาก เขาเอาคุณแต่เขาไม่เอาพรรคคุณ คือบัตรเขตเขาเลือกคุณ แต่บัตรพรรคเขาไม่เลือกพรรคคุณ บัตรพรรคเขาเลือกถ้าไม่ใช่เพื่อไทยก็ประชาธิปัตย์ ความถี่ห่างขึ้นอยู่กับพื้นที่ เช่นภาคใต้คะแนนพรรคอันดับหนึ่งประชาธิปัตย์ อันดับสองก็เพื่อไทย แต่คะแนนห่างไกลกันมาก เหมือนอีสานคะแนนผู้สมัครได้ แต่คะแนนพรรคก็เป็นแบบเลือกคนที่เรารัก เลือกพรรคที่เราชอบ เพราะฉะนั้นก็เลยกลายเป็นว่าคะแนนพรรคได้เพื่อไทย ประชาธิปัตย์คะแนนได้น้อยกว่าเพื่อไทยมาก ก็เหมือนกับในภาคใต้ที่คะแนนพรรคคือประชาธิปัตย์ โดยที่ภาคใต้เพื่อไทยได้น้อยมาก โดยมีสองเขตในภาคอีสานที่คะแนนพรรคประชาธิปัตย์ชนะพรรคเพื่อไทย คือเขตเลือกตั้งในจังหวัดอุบลราชธานีของบุณย์ธิดา สมชัย และวุฒิพงษ์ นามบุตร คือคะแนนเขตก็ชนะ คะแนนพรรคก็ชนะ

คสช.ไม่ได้ทำให้คอร์รัปชันลดลง

ต่อข้อถามที่ว่าหากการเมืองวันข้างหน้ามีเผด็จการรัฐสภา มีการออกกฎหมายโดยมิชอบ การเมือง มวลชนบนท้องถนนมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือไม่ อิสสระ-อดีตแกนนำ กปปส. มองว่าในระยะ 5-10 ปีจากนี้เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่มี เพราะประชาชนได้บทเรียนหลายอย่างจากครั้งนี้ ที่ทหารออกมาแก้ปัญหาการชุมนุมการเมือง ด้วยความคาดหวังทหารจะมาทำการปฏิรูปประเทศชาติบ้านเมืองเพื่อให้มันดีขึ้น ให้มีการเลือกตั้งแล้วนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน แต่ปรากฏว่ามันเหมือนกับว่าทหารออกมาทำให้ประชาชนผิดหวัง ตอนนี้เขาถึงอยากให้กลับไปมีการเลือกตั้ง หาก คสช.ทำแบบที่ใจชาวบ้านต้องการ แบบที่เคยสั่งพักงานนายก อบต., นายก อบจ. ฟันไปเลยปฏิรูปแบบนี้ เช่นปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา มันจะได้ใจชาวบ้าน แต่ตอนนี้ชาวบ้านมองว่า คสช.ไม่ทำอะไรเลย คือทำแต่ก็เกาไม่ถูกที่ มันก็เลยไม่ทำให้ชาวบ้านแฮปปี้ที่จะให้อยู่ต่อไป เลยอยากให้เลือกตั้ง

 ...การคอร์รัปชันก็ไม่ได้ลดน้อยลง อย่างเช่นเรื่องเงินสงเคราะห์ในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ผมเคยเป็นอดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ มาก่อน ถามว่าทำไมกินกันได้กับเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้ป่วย ศูนย์คนไร้ที่พึ่งที่มีทุกแห่ง แบบนี้มันแย่ ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ได้อย่างไร กินเงินคนยากไร้ บาปกรรม อย่างนี้ ทั้งที่ยุคนี้ไม่มีนักการเมือง

          ถึงบอกว่าไม่อยากเลือกก็ต้องให้เลือก มันถูกบังคับโดยกระแสสังคม ความรู้สึก เห็นได้จากโพลตอนนี้อยากให้เลือกตั้ง คะแนนนายกฯ ก็วูบลง ประชาชนอยากให้เลือกตั้งเพราะเขาเห็น คสช.ทำงานไม่เข้าเป้าแก้ปัญหาไม่ได้ เลยอยากให้เลือกตั้งแล้วเพราะอย่างน้อยก็ยังตรวจสอบได้ แต่ยุคนี้ตรวจสอบไม่ได้

...ลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เคยพูด เผด็จการหากสร้างชาติบ้านเมืองให้เจริญ ก็ยังดีกว่าประชาธิปไตยที่ได้คนเลวมาบริหาร เขาพูดแบบนี้เลย ผมถึงบอกว่าทั้งหมดอยู่ที่สำนึกของคน คนที่จะมาบริหารอย่างบิ๊กตู่ ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้โดยยกคำพูดของเติ้งเสี่ยวผิง ที่บอกว่า อย่าตอบแทนบุญคุณส่วนตัว ด้วยผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ผมมองว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปมันอาจเกิดแลนด์สไลด์ตอนเลือกตั้ง.

...............................................................

ล้อมกรอบ หน้า 4-5

ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า

อิสสระ สมชัย-อดีต 1 ใน 9 แกนนำ กปปส.-อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. คีย์แมนพรรคในภาคอีสาน ซึ่งที่ผ่านมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช.มาต่อเนื่อง มารอบนี้เขาก็ให้ทัศนะต่อการทำงานของ คสช.ที่จะครบ 4 ปีในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ว่า เท่าที่เห็น คสช.อยู่มาเกือบจะสี่ปีแล้ว แต่ปฏิรูปไม่สำเร็จสักเรื่องทั้งที่มีอำนาจอยู่ในมือ ทำได้หมด แต่ไม่ปรากฏว่าเรื่องปฏิรูปจะสำเร็จแม้แต่เรื่องเดียว 

ผมเคยบอกว่าไม่ขัดข้องหากพลเอกประยุทธ์จะอยู่ต่อ แต่ต้องปฏิรูปให้เห็นว่าทำอะไรบ้าง ให้สัมผัสได้ แต่ปรากฏว่า คสช.อยู่ไปก็ไลฟ์บอย ไม่สำเร็จสักเรื่อง ทำให้ประชาชนตอนนี้ถึงอยากเลือกตั้งกันแล้ว  เพราะเขาเห็นว่า คสช.ไม่ได้ทำเรื่องปฏิรูป อำนาจอยู่ในมือทำได้ทุกอย่าง มีมาตรา 44 ในมือแต่กลับเอาไปใช้ปลดนายก อบจ., นายก อบต. ไปแช่แข็งเขาไว้ ใช้มาตรา 44 ไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองเท่าที่ควร

“ตอนนี้ถึงมีกระแสเพราะคนหงุดหงิด อยู่มาจะ 4 ปีแล้วแต่ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เขาเลยอยากเลือกตั้งแล้ว ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า เพราะอยู่ไปก็ไม่ทำอะไร แถมยังปล่อยให้มีการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองไม่แพ้นักการเมือง อย่างตอนนี้ก็เรื่องทุจริตเงินช่วยเหลือคนจน หรือเงินทอนวัด พวกนี้เกิดในสมัยไม่มีนักการเมือง ถามว่าคุณเชื่อไหมพลเอกประวิตรยืมนาฬิกาเพื่อนมา 25เรือน ผมว่าไม่มีใครเชื่อ แต่ทำไมพลเอกประวิตรยังอยู่ได้ หากเป็นยุคมีสภาปกติ ป่านนี้เรียบร้อยไปแล้ว”

อิสสระ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนเลยบอกอุ้มกันแบบนี้ก็ให้มีสภาดีกว่า ดีชั่วอย่างไรก็ยังมีสภาตรวจสอบ แล้วตอนนี้เขามีปัญหาเรื่องปากท้อง แล้วมาอ้างว่าราคาข้าวดีขึ้น แต่ที่ดีขึ้นมันดีตอนที่ข้าวไม่ได้อยู่ในมือชาวนาแล้ว เพราะข้าวมาขึ้นช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ แต่ข้าวออกไปจากนาของชาวนาตั้งแต่ พ.ย.แล้ว

ถามความเห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศที่ส่วนใหญ่ผิดหวัง คสช.ที่ไม่ได้ดำเนินการ อย่างปฏิรูปตำรวจ มองว่าเป็นเพราะอะไร คสช.ถึงไม่ทำ อิสสระ วิพากษ์ว่าก็ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ถามว่าเกือบสี่ปีตำรวจยังซื้อตำแหน่งกันไหม ก็ยังซื้อกันเหมือนเดิม อย่างที่วิทยา แก้วภราดัยออกมาพูด ผมถึงบอกแบบนี้ไม่กล้าทำ อำนาจอยู่ในมือ เห็นอะไรทั้งหมด ท่านชวน หลีกภัยพูดถูกมากที่สุด ที่ว่ากฎหมายไม่ได้เป็นปัญหาของบ้านเมือง แต่ปัญหาอยู่ที่คนบังคับใช้กฎหมาย ก็อย่างกรณีหวย 30 ล้าน ตำรวจสอบเหมือนกัน แต่ทำไมผลออกมาไม่เหมือนกัน ก็เพราะมันเป็นปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย

-ทำไมคะแนนนิยมพลเอกประยุทธ์หายไป กองหนุนหายไป?

แกสะสม พฤติกรรมแก จากคนก้าวร้าว สะสมมาเรื่อย มีการด่าสื่อ แต่ตอนหลังอ่อนลง จนบางทีเหลิงไปด่าชาวบ้านที่ภาคใต้ ตอนนั้นคะแนนวูบเลย คนเคยชอบยังต้องถอย ก็เพราะหลงในอำนาจ ลืมตัวไป แต่คงมีคนไปสะกิดว่าเสียคะแนน นายกฯ เลยออกมาขอโทษ

ที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ท่านบอกไว้ว่ากองหนุนหมด อย่างผมเองผมบอกเลยเคยเชียร์พลเอกประยุทธ์ แต่ตอนหลังท่านเปลี่ยนไป ด่าแต่นักข่าว แกถูกคนเดียว ไม่ฟังใครเลย จนพลเอกเปรมเตือนกองหนุนหมด 

ปัญหาปากท้องสำคัญมาก ชาวบ้านยอมรับเรื่องความมั่นคง แต่จะมั่นคงอย่างไรก็แล้วแต่หากท้องหิวเรื่องมั่นคงเขาไม่ได้สนใจ หากครอบครัวจะอดตาย หลักเศรษฐศาสตร์ยังบอกปากท้องสำคัญกว่าเรื่องมั่นคง

เห็นรัฐบาลแถลงเหลือเกินจะสร้างอะไรต่างๆ แต่ถามว่าชาวบ้านได้อะไรจากเมกะโปรเจกต์ เช่น สร้างรถไฟอะไรต่างๆ แล้วถามว่าชาวบ้านเขามีความเป็นอยู่อย่างไร เคยไปถามเขาไหม ชาวบ้านเลยพูดแล้วว่า คสช.ทำอะไรต่างๆ แต่ตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย ขาดระบบตรวจสอบ

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ไหม คสช.จะตั้งพรรคการเมืองเครือข่าย อิสสระ-อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. มองว่า ผมว่าอยู่ในนั้นก็คงจะมี ที่ไปยื่นเรื่องจดจัดตั้งพรรคการเมือง ก็ลองดูบางพรรคยังบอกว่าไม่ปฏิเสธเรื่องนายกฯ คนนอก อย่างพรรคพลังธรรมใหม่

ส่วนโอกาสที่พลเอกประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ เห็นว่าก็ต้องมาช่องทางรัฐสภาอย่างเดียว ต้องมีเสียงหนุนในสภา แต่ปัญหาคือว่าจะหาเสียงสนับสนุนอย่างไร จะได้มาจากไหน เพราะหากเสียงหนุน ส.ส.มีไม่ถึง 250 เสียงก็อยู่ไม่ได้

ผมมองกุนซือนายกฯ ไม่ใช่เซียนการเมืองสักคน พวกประเภทที่ว่าอาศัยบารมี คสช.เข้าไปเป็นแม่น้ำสายต่างๆ ไอ้ห้อยไอ้โหนบ้าง บางทีผมก็สงสารนายกฯ เพราะบางทีไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองในบางเรื่อง เช่นเรื่องที่ สนช.ไปแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ให้ใช้บังคับหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 90 วัน พอมีคนไปถามนายกฯ ก็ตอบว่าไม่รู้เพราะสั่งใครไม่ได้ แต่พอต่อมาวันหนึ่งมารับรองว่า สนช.จะผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. แกไปรู้หัวใจเขาได้อย่างไร

อิสสระ ยังกล่าวถึงกรณีนายกฯ ยืนยันจะมีการเลือกตั้งในช่วง ก.พ.ปีหน้าว่า หลายคนเขาบอกไม่มั่นใจจะมีเลือกตั้งเพราะเลื่อนมาสี่ครั้งแล้ว โรดแมปทำให้คนไม่เชื่อไม่มั่นใจคำพูดนายกฯ แล้วมาพูดครั้งที่สี่ว่า ก.พ.ปีหน้ามีแน่นอน ซึ่งผมก็เชื่อว่าจะมีเลือกตั้งตามที่นายกฯ บอก

“เพราะท่านจะเลื่อนอีกไม่ได้ ถ้าเลื่อนอีกจะเจอกระแสมวลชนออกมา”

ผมจะบอกให้อย่างตอนที่มีคนออกมาไม่เห็นด้วยที่ สนช.ไปขยายกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เป็น 90 วัน   กลุ่มที่ออกมาพอดีว่าเป็นฝ่ายเสื้อแดง คนอื่นเลยไม่กล้าออกมาร่วม 

“แต่หากคุณสังเกตการมา คนที่ไม่ใช่เสื้อแดงก็มี มีหลายกลุ่มเสื้อสี เริ่มอึดอัดแล้ว เพราะฉะนั้นมันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเกรงว่ามันพร้อมที่จะระเบิด”

 ผมมองว่าคนเป็นนายกฯ จะพูดไปพูดมามากไม่ได้ เพราะพูดแต่ละครั้งต่างประเทศเขาก็ฟัง หากเลื่อนอีกคนจะขาดความเชื่อมั่น ก็อย่างที่ผมบอกทำไมตอนนี้คนคิดเรื่องอยากเลือกตั้ง ทั้งที่เขาก็ไม่ได้อยากเท่าไหร่ก่อนหน้านี้ แต่เพราะเขาเห็นว่าอยู่ไปก็ไม่เห็นทำอะไรเลย อยู่ไปก็เหมือนเป็นสุญญากาศประเทศไทย ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

อิสสระ กล่าวต่อไปว่ารัฐบาลมีของดีในมือแต่ไม่รู้จักใช้ เช่นบัตรสวัสดิการคนจน คืออาวุธสำคัญของรัฐบาล แต่รัฐบาลใช้ไม่เป็น ที่มีคนมาลงทะเบียน 11 ล้านคน แต่สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้ใจคนเท่าไหร่ เพราะไปบังคับให้เขาต้องรูดจากร้านธงฟ้า ที่ของในร้านก็เอามาจากโรงงาน เขาอยากนำเงินไปซื้อของที่อื่นก็ซื้อไม่ได้ จะเอาเงินไปใช้อย่างอื่นเช่นตัดผมก็ไม่ได้ ถามว่าทำไมไม่ให้เป็นเงินสด เขาอยากได้อะไรก็นำไปใช้ซื้อสิ่งที่อยากได้ และสินค้าในร้านธงฟ้าทั่วประเทศถามว่ามีกี่ร้านก็หลัก 2-3 หมื่นร้านทั่วประเทศ แต่ร้านค้าย่อยขายของแบบเดียวกันมีร่วม 3 แสนร้านทั่วประเทศ พวกร้านเหล่านี้ก็เลยด่ารัฐบาล เพราะทำให้เขาขายของไม่ได้ แล้วไปซื้อของร้านธงฟ้าก็แพงกว่าร้านปกติ แต่เขาไม่ได้ซื้อเพราะเขารูดฟรี เขาเลยไม่รู้สึกว่าแพง หากไม่ไปรูดสิ้นเดือนก็ถูกตัดเงินออกไป ผมถึงบอกว่าทำไมรัฐบาลไม่ให้เงินเขาไปจะได้ใจคนมากกว่า อย่างเช่นพวกร้านขายของตั้งสองแสนกว่าร้าน ก็จะได้ใจคนเหล่านั้นด้วยเพราะเขาได้ขายของด้วย

ผมไปเจอเจ้าของร้านเหล่านี้เขาด่ารัฐบาลหมด บอก เมื่อไหร่จะไปเสียทีรัฐบาล ผมก็ถามว่าทำไม  เขาบอกว่า ร้านผมขายของไม่ได้ เพราะคนถือบัตรนั่งรถไปเอาของจากร้านอื่น ถามว่ารัฐบาลทำแบบนี้ ช่วยใคร ก็ช่วยโรงงาน กลุ่มทุน ไม่ได้ช่วยคนจน แทนที่คนจะเอาเงินไปใช้ในพื้นที่ ผมเคยถามร้านธงฟ้าเหมือนกันว่าทำไมเขาขายแพง เขาบอกว่าเพราะกว่าจะได้เงินจากรัฐต้องรออีกสามเดือน ไม่ใช่ได้เงินสด หากรัฐบาลให้เงินสดจะได้ใจชาวบ้านมากกว่า ไม่ใช่มาบอกว่าไม่ให้เงินสดเพราะเกรงประชาชนจะเอาเงินไปเล่นหวย เล่นไก่ชน ก็ไปมองเขาแบบนั้น

อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ยังกล่าวถึงพื้นที่เลือกตั้งในภาคอีสานว่า ในภาคอีสานเพื่อไทยก็ยังโอเค แต่ถึงพรรคเพื่อไทยเสียงจะดีในอีสาน แต่ผมว่าเสียงก็จะไม่เท่าเดิม เว้นแต่การกระทำของ คสช.ยามนี้เหมือนกับหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยทางอ้อม ทำให้เขาคิดถึงทักษิณ เหมือนหาเสียงให้เพื่อไทยทางอ้อม เพราะฉะนั้นยิ่งอยู่นานมันก็ยิ่งไปโดยอัตโนมัติ

...ถามว่าแล้วในอีสานพรรคประชาธิปัตย์เสียงดีขึ้นหรือไม่ ก็ยืนยันว่าดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไปที่อีสานบ่อย ก็ทำให้กระแสดีขึ้น ตอนนี้หากมองไปในซีกการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็แล้วแต่ ก็มีแค่อภิสิทธิ์คนเดียวที่ลงไปอีสานตลอด แต่ก็อย่างที่บอกหากยังเป็นแบบนี้ก็เหมือน คสช.ไปช่วยเพื่อไทยเขา ช่วยโดยตัวเองก็ไม่รู้ตัว แล้วด่าแต่ทักษิณอยู่อย่างนั้น ด่าแล้วไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม แล้วหลายเรื่องที่เกิดตอนนี้ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลทั้งสิ้น แล้วก็ไม่ได้จัดการอะไร ผมถึงบอกว่าเป็นการหาเสียงให้เขา อย่างไรก็ตาม ในอีสานเพื่อไทยเองเสียงก็ไม่มั่นคงเหมือนเดิม แต่ถึงเขาลดลงมาแต่ก็ยังดีกว่าทุกพรรค.

          ………………….