30 ก.ย.62 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เพื่อยื่นหลักฐานเกี่ยวกับการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือ "ลัลลาเบล" หลังตำรวจจับกุม นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น ในข้อหา "กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำอนาจาร และกระทำอนาจารผู้อื่น" โดยมี พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.8 เป็นผู้รับแทน

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นหลักฐานเฉพาะในส่วนของคดีลัลลาเบล ซึ่งเป็นหลักฐานที่รวบรวมส่วนหนึ่ง ที่ได้มาจากผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในงานปาร์ตี้ เนื่องจากทาง บช.น.ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับหลักฐานที่ผู้เกี่ยวข้องนำมาเปิดเผย เขาคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเขา แต่ความจริงคือหลักฐานที่จะมัดตัวเขาเอง ตนเชื่อว่าหาก พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ได้เห็นหลักฐานชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ในการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า หลักฐานที่นำมามอบ มีทั้งวีดีโอการร่วมเพศ ภาพและแชท ซึ่งทางตำรวจยังไม่มี และจะสอดรับกับผลของแพทย์นิติเวช รวมถึงการสืบสวนของฝ่ายสืบสวน บก.น.8  โดยหลักฐานมีความเชื่อมทั้ง 2 จุดเกิดเหตุคือ สน.บุคคโล และ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  ขอยืนยันว่า ไม่ใช่เฉพาะนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น ที่เป็นผู้ก่อเหตุคนเดียว  น้ำอุ่นเป็นเพียงตัวละครที่ถูกจัดฉากขึ้น ตนมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหาเดียวกันกับน้ำอุ่นได้ ส่วนจะมีการแจ้งความเพิ่มหรือไม่ อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล เป็นผู้พิจารณา ส่วนหลักฐานชิ้นนี้จะนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีกกี่คนก็ขึ้นอยู่กับทางตำรวจ ตนไม่ขอก้าวล่วงสำนวนคดี

“ในส่วนคดีของพริตตี้เดียร์ พื้นที่ สภ.บางบัวทอง ซึ่งมีคลิปล่าสุดที่เผยแพร่ออกมาในลักษณะคล้ายจะถอดเสื้อผ้าด้วยตนเองและมีความชอบพอกับนายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ เจ้าของงานปาร์ตี้นั้น ตนมองว่าถือเป็นการสร้างความบันเทิงในเวลางาน แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมองในประเด็นนี้ คือการตื่นมาแล้วชุดชั้นในหายไป พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจึงไม่ปล่อยคลิปออกมาทั้งหมด แต่กลับจงใจปล่อยคลิปออกมาแค่บางช่วงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่นายนที แจ้งความกลับพริตตี้เดียร์ ว่าลักทรัพย์เอาผ้าห่มออกไปนั้น ตนไม่มีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสั่งไม่ฟ้องแน่นอนเนื่องจากผ้าห่มดังกล่าวเป็นหลักฐานในคดี” นายอัจฉริยะ กล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า พยานหลักฐานที่ได้รับมีบางส่วนที่เป็นพยานหลักฐานใหม่ แต่จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่นั้น ต้องไปดูในรายละเอียดก่อน