สานหัวใจ 2 แผ่นดิน ที่สุดแห่งความปลาบปลื้มของคนไทย "สี จิ้นผิง" ถวายรัฐมิตราภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน  แด่กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ด้วยคุณูปการมหาศาลที่ทรงมีต่อการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่าง 2 ประเทศ ในโอกาสสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบ 70 ปี 
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง มีพิธีมอบเหรียญรางวัลเกียรติยศแด่บุคคลผู้กระทำคุณความดีอย่างสูง ในโอกาสสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 1 ตุลาคม  
    โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐมิตราภรณ์ อันเป็นเหรียญมิตรภาพ เป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติที่รัฐบาลจีนมอบให้ ด้วยคุณูปการมหาศาลที่ทรงมีต่อการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้องมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง 
    ทั้งนี้ ในสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ได้ถ่ายทอดสดพิธีมอบรางวัลเหรียญแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีนและตำแหน่งกิตติมศักดิ์แห่งชาติ เช้าวันที่ 29 กันยายน โดยเริ่มจากขบวนรถบุคคลเกียรติยศ พร้อมขบวนรถอารักขานำเข้าสู่พิธีมอบเหรียญบุคคลเกียรติยศแห่งชาติจีน ซึ่งจัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชน เวลา 10.00 น. ของวันที่ 29 กันยายน ตามเวลาปักกิ่ง
    ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสหลังจากรับการถวายเหรียญดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ และมีพระราชดำรัสเป็นภาษาจีน โดยทรงยกบทกวีจีนขึ้นมากล่าวถึงความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ และในตอนท้ายทรงอวยพรด้วยภาษาจีนให้สาธารณประชาชนจีนเนื่องในโอกาสการสถาปนาครบรอบ 70 ปี
    ทั้งนี้ พระองค์มีพระราชดำรัสว่า ทรงปลื้มปีติต่อเหรียญรางวัลมิตรภาพที่รัฐบาลจีนทูลเกล้าฯ ถวาย อีกทั้งทรงรู้สึกตื่นเต้นไปกับพิธีประกาศรางวัลที่ประเทศจีนด้วย โดยพระองค์มีกระแสพระราชดำรัสด้วยว่า โอกาสครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของพระองค์ โดยที่ผ่านมา 70 ปี คนจีนและรัฐบาลจีนได้พัฒนาประเทศ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายทั้งคนจีนและผู้นำจะต้องอดทน อดกลั้น ขยันขันแข็ง ใฝ่รู้ จึงเจริญได้ทุกวันนี้
    นอกจากนี้ พระองค์ทรงแสดงความยินดีต่อประเทศจีนและชาวจีนในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพระราชดำรัสว่า “ขอให้สาธารณรัฐประชาชนจีนก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ และขอให้ประชาชนชาวจีนสมปรารถนา มีความสุขทั้งกายใจ มั่งคั่ง และมั่นคง”
    พระองค์ยังมีพระราชดำรัสว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีนในด้านการศึกษานั้น ยังช่วยมอบโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประเทศไทย ตอนที่มีโอกาสมาศึกษาภาษาและสังคมจีนเป็นเวลาเดือนหนึ่ง ได้คิดถึงแนวทางที่จะส่งนักเรียนนักศึกษามาเรียนที่จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอื่นๆ ที่ไม่มีผู้อื่นเคยมาเรียนที่จีน
    “หลายคนได้กลับไทยทำงานเป็นประโยชน์ หรือไปเรียนต่อประเทศอื่น ส่งนักวิจัยมาทำงานร่วมกับนักวิจัยจีน ที่เราไม่มีโอกาสแน่นอน ถ้าไม่ได้ร่วมโครงการกับจีน จีนได้ค้นคว้าเรื่องเหล่านี้มานาน เป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องมาในระยะเวลา 70 ปีนี้” พระองค์มีพระราชดำรัส
    การมอบเหรียญเกียรติยศครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการฉลองวาระครบรอบ 70 ปี ของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยประธานาธิบดีสีกล่าวปราศรัยในพิธีมอบเหรียญเกียรติยศว่า บุคคลสำคัญเหล่านี้ เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีน ในพิธีมีการมอบรางวัล 3 ประเภท ได้แก่ เหรียญแห่งสาธารณรัฐ เหรียญมิตรภาพและตำแหน่งกิตติมศักดิ์ โดยเหรียญแห่งสาธารณรัฐมีสีแดงและสีทอง มอบให้แก่บุคคลที่มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อการสร้างและการพัฒนาประเทศจีน 
    ส่วนเหรียญมิตรภาพ ซึ่งเป็นสีทองและสีน้ำเงิน แสดงถึงมิตรภาพอันยืนยาวระหว่างประชาชนชาวจีนและประชาชนทั่วโลก ส่วนเหรียญเกียรติยศสำหรับผู้ได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์มีสีแดงและสีทอง มอบให้กับผู้ได้รับเชิดชูเกียรติที่มีคุณูปการโดดเด่นในหลายสาขา สำหรับบุคคลสำคัญที่ได้รับการเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ 
    ทั้งนี้ นอกจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังมีชาวต่างชาติอีก 5 ราย ที่ได้รับเหรียญมิตรภาพ ประกอบด้วย นายราอุล คาสโตร ผู้นำคิวบา, นายซาลิม อาเหม็ด ซาลิม อดีตนายกรัฐมนตรีแทนซาเนีย,  นางกาลินา คูลิโควา รองประธานคนที่ 1 สมาคมมิตรภาพรัสเซีย-จีน, นายฌอง-ปิแอร์ ราฟฟาแร็ง อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส และนางอิซาเบล ครูก ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัย Beijing Foreign  Studies ชาวแคนาดา โดยมีบุคคลที่ได้รับการยกย่องในครั้งนี้ 42 คน แต่มีเพียง 29 คน ที่เดินทางไปเข้าร่วมพิธีที่จัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชน.