พระสังฆราชฯ ประทาน1ล้าน น้ำท่วมอีสาน


เพิ่มเพื่อน    

 "สมเด็จพระสังฆราชฯ" ประทานปัจจัยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัย 1 ล้านบาท พร้อมประทานกำลังใจให้ผู้ประสบภัยมีสรรพกำลังเข้มแข็งเร็ววัน

    เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์  กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม เดินทางลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ตรวจเยี่ยมและถวายกัปปิยภัณฑ์พระสงฆ์สามเณร และมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบภัย 
    โดยช่วงเช้าคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.วารินชำราบ เยี่ยมชุมชนวัดวารินทราราม พบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพ จำนวน 600 ชุด จากนั้นเดินทางไปยังวัดเสนาวงศ์และวัดหายโศก เพื่อถวายกัปปิยภัณฑ์แก่พระภิกษุสามเณร จำนวน 30 ชุด 
    ในช่วงบ่าย เดินทางเข้าสู่วิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือเยียวยาพระสงฆ์ สามเณร และประชาชนในพื้นที่ โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานปัจจัยเพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้จัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน 1 ล้านบาท ประทานแก่คณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ เพื่อนำไปเป็นทุนตั้งต้นสำหรับฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบเหตุอุทกภัยต่อไป และให้เชิญรับสั่งประทานกำลังใจให้ผู้ประสบภัยมีสรรพกำลังเข้มแข็งเร็ววัน
    รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัยแก่ญาติผู้เสียชีวิต จ.ยโสธร จ.ศรีสะเกษ จ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี รวม 20 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 1,700,000 บาท จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี
    ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประธานการประชุมกองบัญชาการฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ โดยที่ยโสธรและร้อยเอ็ดไม่มีน้ำท่วมบ้านเรือน ประชาชนกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยได้แล้ว  
    ส่วนพื้นที่การเกษตรยังมีน้ำท่วมขังบางจุด ขณะที่อุบลราชธานีและศรีสะเกษระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าระดับน้ำจะอยู่ในระดับตลิ่งและกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่ง บกปภ.ช.ได้ประสานจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายรายครัวเรือน โดยจำแนกข้อมูลรายละเอียดตามประเภทให้ครบถ้วนและสมบูรณ์ เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้อง 
    นายฉัตรชัยเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการฯ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 4 จังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้การบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ พร้อมกำชับให้จังหวัดที่ได้รับการขยายวงเงินทดรองราชการฯ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบ และยึดระเบียบกระทรวงการคลังเป็นหลัก
       ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ทุกครัวเรือนต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจะแยกเป็น 2 ส่วน 
    ส่วนแรก เป็นเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบอุทกภัย 5,000 บาท ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือพิเศษที่มอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยสามารถนำมาใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตในช่วงที่น้ำยังมีท่วมขังและอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูความเสียหาย หรือยังไม่สามารถประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยผู้ประสบอุทกภัยใน 32 จังหวัดที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งผู้ประสบอุทกภัยที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือต้องเป็นผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ประจำในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโพดุล พายุคาจิกิ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ใน 3 กรณี 
    คือ 1.กรณีน้ำท่วมบ้านเรือนโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 2.บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 3.บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยทั้ง 3 กรณีต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ หากเป็นผู้ประสบภัยซ้ำซ้อนทั้ง 3 กรณี จะได้รับการช่วยเหลือเพียงกรณีเดียว 
    ส่วนที่สอง เป็นการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัย มิได้มุ่งชดเชยความเสียหายทั้งหมด ซึ่งเป็นการเยียวยาภายหลังน้ำลด แบ่งการช่วยเหลือออกเป็นด้านต่างๆ อาทิ ค่าวัสดุ ซ่อมแซมบ้านเรือน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพเบื้องต้น ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพที่เสียหาย ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต ค่าชดเชยพื้นที่การเกษตร ประมง ปศุสัตว์ โดยให้การช่วยเหลือตามความจำเป็นเหมาะสม 
    นายฉัตรชัยกล่าวว่า บกปภ.ช.ได้เร่งรัดสั่งการให้จังหวัดที่ประสบภัยดำเนินการสำรวจ ประเมิน จัดทำบัญชีความเสียหาย และรวบรวมข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน มิให้ซ้ำซ้อน เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
    ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เน้นย้ำให้จังหวัดสำรวจข้อมูลความเสียหายให้ถูกต้องและครบถ้วน โดยระบุพื้นที่เป้าหมายให้ชัดเจน และรายงานผลการดำเนินงานมายัง ปภ. เพื่อรวบรวมเสนอระดับนโยบายพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยโดยเร็วที่สุด.     


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"