กกต.เคาะ 23 ต.ค. เลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม รับสมัคร 30 ก.ย.-28 ต.ค.นี้ พลังประชารัฐหลีกทางให้ประชาธิปัตย์ แต่ชาติไทยพัฒนาไม่หลบ "สะสมทรัพย์" ขอล้างตา เพื่อไทยไม่ส่งคนลงชิงชัย ปล่อยอนาคตใหม่ลุย "สมพงษ์" อ้างหรูเพื่อให้ศึกระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจสมศักดิ์ศรี แต่ "ธนาธร" ไม่รู้ ไม่ขอยุ่งเกี่ยว ไม่มีแม้คำขอบคุณจากพรรคเพื่อนบ้าน

    เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ?เผยแพร่เอกสารข่าวแจ้งว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่างปี 2562 ในวันนี้ โดย กกต.ได้มีมติกำหนดวันเลือกตั้ง และกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้
    วันเลือกตั้ง วันพุธที่ 23 ต.ค.2562 ส่วนวันรับสมัคร วันจันทร์ที่ 30 ก.ย.-วันศุกร์ที่ 4 ต.ค.2562
    ทั้งนี้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าวเป็นวันพุธที่ 23 ต.ค.2562 เนื่องจากเป็นวันหยุดที่ กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะ กกต.ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกตั้ง และปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2561
    มีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า หลังจากที่มีการประกาศในพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 5 นครปฐม พรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว ซึ่งได้มีการพูดคุยกับแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อลงแข่งขันกับผู้สมัครของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งถือเป็นพรรคพันธมิตรด้วยกัน 
    แต่ทั้งนี้เป็นเพียงข้อสรุปในส่วนของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพรรคชาติไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยจะต้องมีการพูดคุยระหว่างกัน ว่าจะส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ เพราะพรรคชาติไทยยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะส่งผู้ลงสมัครหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของพรรคชาติไทย ที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย ซึ่งอาจจะต้องการรักษาฐานเสียงเดิม 
    และเมื่อทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดวันเลือกตั้งวันรับสมัคร และถึงช่วงเวลาหาเสียง ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐก็มีความพร้อมที่จะลงช่วยสมัครหาเสียงอย่างเต็มที่ รวมถึงในพื้นที่ เขต 5 จังหวัดสมุทรปราการ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแจกใบเหลืองให้กับนายกรุงศรีวิไล ซึ่งชนะการเลือกตั้ง และได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก็จะระดมลงช่วยหาเสียง เพราะการเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าวนี้มีผลต่อการนำไปคำนวณคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ
ปชป.ส่ง"สุรชัย อนุตธโต" 
    ส่วนปัญหาของนายนวัธ เตาะเจริญสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ถูกศาลชั้นต้นจังหวัดขอนแก่นตัดสินประหารชีวิต ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสถานภาพว่าจะหลุดจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ แกนนำพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า หากมีความชัดเจน และอาจต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ทางพรรคก็พร้อมที่จะส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าวอย่างแน่นอน 
    เนื่องจากผู้สมัครคนเดิม ซึ่งมีคะแนนเป็นอันดับ 2 ตามนายนวัธอยู่เพียง 2,000 คะแนน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคมีโอกาสจะชนะในการเลือกตั้งเขตพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มคะแนนเสียงให้กับพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล โดยหากมีความชัดเจน ก็จะส่งผู้ลงสมัครและลงพื้นที่หาเสียงในทันที และจะทำอย่างเต็มที่
    นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เพื่อหลีกทางให้กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นหลักการของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคใดที่ได้รับคะแนนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเป็นอันดับสอง ต้องได้รับการสนับสนุนให้ลงสมัครในรอบที่จะถึง อีกทั้งในบรรดาระหว่างพรรคร่วมด้วยกันเอง ยังจะต้องให้การสนับสนุนรณรงค์หาเสียงอีกด้วย
    เมื่อถามว่า ปชป.ได้ตกลงกับพรรคชาติไทยแล้วหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ตั้งแต่แรกเขายอมแล้ว แต่ล่าสุดยังไม่ยอม โดยอ้างว่าไม่สามารถเจรจากับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตัวเองได้ แต่โดยมารยาทจะต้องหลีกทางให้กับ ปชป. เพราะเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เราได้คะแนนเป็นอันดับสอง ทั้งนี้ ไม่ว่าการพูดคุยรอบใหม่จะออกมาเป็นอย่างไร พรรคชาติไทยจะยอมหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัครแน่นอน 
    นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้พรรคได้มีการพิจารณาคัดเลือกตัวผู้สมัครตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ ได้มีการสมัครตามข้อบังคับ มีการตรวจสอบคุณสมบัติ และได้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านกระบวนการตัวแทนจังหวัด คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อย และได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัครที่พรรคเห็นชอบให้ลงสมัครรับเลือกตั้งคือนายสุรชัย อนุตธโต พรรคยืนยันว่าการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งพร้อมแข่งขันตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย มั่นใจว่าประชาชนในเขต 5 จังหวัดนครปฐม ให้ความไว้วางใจ ด้วยการทำงานของพรรคในระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านโยบายของพรรคได้นำไปขับเคลื่อนจนเป็นผลสำเร็จได้ ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง
ชาติไทยพัฒนาไม่หลบ
    นายราเมศกล่าวต่อว่า นายสุรชัยถือได้ว่าเป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ อยู่ร่วมกับชาวบ้านเคียงข้างทุกปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด เป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมายาวนาน เป็นคนที่รับรู้ปัญหาของพี่น้องเขต 5 มาโดยตลอด เช่น ปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องการจราจรในถนนเพชรเกษม ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ที่สำคัญนายสุรชัยเป็นลูกหลานชาวสามพราน หากได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนอย่างเข้าใจ เข้าถึง ประชาชนพึ่งพิงได้แน่นอน
    ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าพรรค ชทพ.เดินหน้าเต็มตัวในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยจะส่งนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงสมัครอย่างแน่นอน โดยในที่ 30 ก.ย. เวลา 08.30 น. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. จะนำทีม ส.ส.และสมาชิกพรรค เดินทางไปให้กำลังใจนายเผดิมชัยในวันสมัคร ส.ส.ด้วย
     เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีการส่งคนมาเจรจากับพรรค ชทพ. เพื่อหลบให้กับผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธยืนยันว่าพรรค ชทพ.ไม่ได้มีใครมาพูดคุย ไม่มีใครติดต่อเรื่องหลบเรื่องหลีกหรืออะไร เราก็เดินหน้าของเรา ยืนยันว่าพรรค ชทพ.จะส่งนายเผดิมชัยลงสมัครในครั้งนี้ เพราะพื้นที่ จ.นครปฐม เป็นพื้นที่ที่ตระกูลสะสมทรัพย์ทำงานให้กับประชาชนมาหลายสิบปี
    ถามว่า แต่คะแนนในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 นายเผดิมชัยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 4 ครั้งนี้จะสู้ไหวหรือไม่ นายวราวุธตอบว่า แม้ว่าคะแนนเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะด้วยความผิดพลาดอย่างไรก็เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ แต่ทุกอย่างย่อมแก้ไขได้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ 
    "พรรคเชื่อในความเป็นตระกูลสะสมทรัพย์ ซึ่งทราบว่าทุกคนของตระกูลสะสมทรัพย์จะระดมทุกสรรพกำลังมาช่วยในการเลือกตั้งซ่อมอย่างแน่นอน เพราะถ้าจะเอาเพียงคะแนนล่าสุดมาดูกันเพียงครั้งเดียวคงไม่ได้ ในเมื่อกติกาเปลี่ยนแปลงไปมาก สถานการณ์แต่ละสถานการณ์ย่อมเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มีการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ เพราะรู้จุดบอดแล้วว่าอะไรคืออะไร คราวนี้จะไม่พลาดอีก" นายวราวุธกล่าว    
    ส่วนท่าทีฝ่ายค้านนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยว่า คราวที่แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเขตนี้ เพราะพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ส่งแล้ว แต่ตอนนี้ถือเป็นพื้นที่ของพรรคอนาคตใหม่ ที่นางจุมพิตา จันทรขจร ชนะการเลือกตั้งเมื่อการเลือกตั้งครั้งล่าสุด การที่พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงในเขตนี้ด้วยก็ทำได้ แต่พอมองมาที่ฝั่งรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ก็ยอมถอยไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยได้คะแนนลำดับ 2 รองจากนางจุมพิตาลงสมัครแทน ทั้งที่ปกติพรรคพลังประชารัฐจะส่งทุกเขตที่ว่าง 
เพื่อไทยถอยให้
    "พรรคเพื่อไทยก็น่าจะถอยให้กับพรรคอนาคตใหม่ โดยอาจไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. เพื่อให้ศึกเลือกตั้งนครปฐมเขต 5 ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจสมศักดิ์ศรี แต่ทั้งนี้ต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาและลงมติก่อนว่าจะส่งหรือไม่ ส่วนตัวไม่มองว่าเป็นการฮั้วกัน เพราะถ้าอย่างนั้นฝ่ายรัฐบาลก็ฮั้วด้วย"
         ส่วนกรณีนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ถูกฝากขังหลังศาลชั้นต้นจังหวัดขอนแก่นมีคำพิพากษาประหารชีวิตในคดีจ้างวานฆ่าปลัด อบจ.ขอนแก่น นายสมพงษ์ชี้แจงว่าต้องรอฟังจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าจะถือว่าสิ้นสภาพ ส.ส.หรือไม่ ตอนนี้ทางพรรคก็เตรียมตัวอยู่ แต่ความผิดยังไม่แน่ใจ เพราะยังพิจารณาไม่ครบ 3 ศาล
      หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ที่ จ.กำแพงเพชร เคยเป็นเขตของพรรคเพื่อไทยมาก่อน หากศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ไวพจน์อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่าอย่างไรพรรคก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ต่อไป เช่นเดียวกับ จ.สมุทรปราการ หลังจากนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ได้รับใบเหลืองจาก กกต. พรรคเพื่อไทยก็ต้องส่งผู้สมัครส.ส.ลงแข่งขันในเขตนี้เช่นกัน เพราะนายกรุงศรีวิไลก็เคยเป็นคนเก่าของพรรค และเขตนี้ก็เป็นพื้นที่เก่าของพรรคเช่นกัน ครั้งนี้ไม่ว่าจะไหวหรือไม่ไหวก็ต้องสู้ พรรคจะเอาความเป็นประชาธิปไตยทำให้ประชาชนเข้าใจ
      ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงความพร้อมการส่งผู้สมัครเลือกตั้ง เขต 5 จ.นครปฐม ย้ำว่าพรรคจะใช้ทรัพยากร ผู้บริหาร ส.ส.ของพรรค รวมถึงตนเอง จะให้เวลากับการหาเสียงที่ จ.นครปฐมอย่างเต็มที่ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ จ.นครปฐม จะเป็นมติของประชาชนนอกสภาผู้แทนราษฎรว่าจะไว้ใจรัฐบาลชุดนี้หรือไม่
         ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะเปิดทางให้พรรคอนาคตใหม่ได้ทำพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวไม่ทราบ และไม่ขอยุ่งเกี่ยว พรรคอื่นจะมีรูปแบบอย่างไร พรรคอนาคตใหม่จะสู้เต็มที่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐหลบให้พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัคร แล้วพรรคอนาคตใหม่จะสู้ได้หรือไม่นั้น นายธนาธรยืนยันว่า ไม่ขอก้าวก่ายเรื่องพรรคอื่น แต่พื้นที่นี้พรรคอนาคตใหม่มีบุคลากรที่มีคุณภาพและจะส่งลงพื้นที่
         นายธนาธรยังกล่าวว่า ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้มีเสียงปริ่มน้ำทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้น การเลือกตั้งทุกเขตทั้ง จ.สมุทรปราการ จ.นครปฐม จ.กำแพงเพชร และ จ.ขอนแก่น มีความสำคัญ เพราะหนึ่งเสียงของประชาชนที่อยู่ในเขตที่เลือกตั้งใหม่ จะเปลี่ยนดุลสมการในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งนั่นหมายความว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และจะเป็นโอกาสที่ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ จึงอยากฝากประชาชนคนไทยและในเขตที่มีการเลือกตั้งใหม่ ทุกเสียงของท่านมีความหมาย ให้ออกมาใช้สิทธิของตัวเองในการกำหนดอนาคตของประเทศอีกครั้ง
"สนธิ ลิ้ม"เตือนอย่าตี"ธนาธร"
         สำหรับการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคอนาคตใหม่จะส่งตัวแทนของพรรค เริ่มต้นในระดับจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยจะส่ง 15 จังหวัด เพราะพรรคจะเน้นบุคคลที่มีคุณภาพ ส่วนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ในระหว่างพิจารณา แต่ส่วนตัวอยากให้มีผู้สมัครในนามของพรรคอนาคตใหม่
         นายธนาธรกล่าวถึงการส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พรรคยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวในตอนนี้ เพราะยังมีงานใหญ่หลายงาน โดยเฉพาะในสนามการเมืองท้องถิ่น ส่วนเลือกตั้งกรุงเทพฯ จะขอหารือและจัดลำดับความสำคัญก่อน หากจัดการคนที่จะลงสมัครใน อบจ.เสร็จเมื่อไหร่ จะมาคัดเลือกคนลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกครั้ง
    ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวระหว่างการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กคุยทุกเรื่องกับสนธิ ใจความตอนหนึ่งว่า ไม่ได้เข้าข้างพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้สนับสนุนนายธนาธร แต่อยากจะพูดจากประสบการณ์ว่า ใครก็ตามที่มีคนรุ่นใหม่ชื่นชม ถ้าเราไปแกล้งเขา ไปบีบเขามากขึ้น ใครจะไปรู้ว่าพรรคอนาคตใหม่อาจจะอยากให้พรรคตัวเองถูกยุบ เพราะถ้ายุบพรรคได้ คนที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคอนาคตใหม่ก็อาจจะเฮ แต่หารู้ไม่ นั่นคือการย้อนประวัติศาสตร์ที่ตนเคยสู้กับนายทักษิณ ชินวัตร 
    "จะมีคนจำนวนมากมายมหาศาลเห็นใจพรรคอนาคตใหม่และคุณธนาธรขึ้นมาทันที ตรงนี้ต้องขอเตือนไว้ก่อน พูดอย่างผู้ใหญ่ที่เคยผ่านประสบการณ์มา” นายสนธิกล่าว
    นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงความเสี่ยงของพรรคการเมืองขนาดเล็กที่อาจต้องสูญเสียที่นั่ง ส.ส.หนึ่งเดียวไปจากการเลือกตั้งซ่อมในกรณีที่มีการทุจริตเลือกตั้งภายใน 1 ปี หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ว่า ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ แม้ว่าล่าสุด กกต.จะมีมติแจกใบเหลืองนายกรุงศรีวิไล โดยอยู่ในระหว่างยกร่างคำร้องส่งศาลฎีกาตัดสิน ซึ่งหากศาลฎีกายืนตามมติ กกต.ก็จะมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตดังกล่าว และทำให้ต้องมีการคำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ทั้งระบบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 131 และอาจส่งผลต่อคะแนนที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละพรรคการเมือง จนพรรคการเมืองขนาดเล็กอาจต้องสูญเสียที่นั่งส.ส.ไป เช่นเดียวกับกรณีของนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ที่ต้องพ้นตำแหน่ง ส.ส.ไปหลังเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่
    "ไม่เคยคิดยุบพรรคเพื่อหนีความเสี่ยงจากการคำนวณคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ แม้ว่าในขณะนี้คะแนนของพรรคพลังธรรมใหม่จะอยู่รั้งท้าย และมีความเสี่ยงที่สุดที่อาจจะหลุดจากตำแหน่งส.ส.ได้ แต่ไม่รู้สึกกังวล เพราะเหตุผลที่อาสาเข้ามาทำงานการเมือง ก็เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนตามแนวทางของตัวเอง และอุดมการณ์การเมืองที่ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชน เดินหน้าสร้างการเมืองใหม่ด้วยการใช้คุณธรรมนำการเมือง ซึ่งตลอดเวลาที่เป็นส.ส.ก็เดินตามเส้นทางนี้ และจะเดินหน้าต่อไปด้วยการทำงานที่เป็นอิสระ ยึดประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นสำคัญ"
    นพ.ระวีกล่าวว่า การดำรงอยู่ของพรรคพลังธรรมใหม่จึงมีความสำคัญกับระบบการเมืองไทย ในการจุดประกายให้ทุกคนได้เห็นว่าเมื่อมีความฝันและความมุ่งมั่นเราเดินไปตามทางของเราได้ เพราะเราไม่ได้เข้ามาทำงานการเมืองเพื่อต่อรองตำแหน่งหรือเรียกร้องผลประโยชน์ ดังนั้นจะได้เป็น ส.ส.ต่อ หรืออาจต้องหลุดจากส.ส. เพราะการคำนวณคะแนนใหม่พรรคพลังธรรมใหม่จะทำงานการเมืองต่อไป ไม่มียุบพรรคแน่นอน.