เปิดรับสิทธิ "ชิมช้อปใช้" วันที่ 5 ยิ่งคึกคัก ปชช.แห่ลงทะเบียนไม่ถึง 3 ชม.ครบ 1 ล้านราย "อุตตม" ยันปิดรับสิทธิแค่ 10 ล้านคนไม่มีขยายเพิ่มขึ้น "คลัง" แจ้งผลตรวจสอบผู้ลงทะเบียนเมื่อ 23 ก.ย.สำเร็จ 807,321 ราย ไม่ผ่านเกือบ 2 แสน เหตุยืนยันตัวตนเกินเวลา กรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน เลือกจังหวัดซ้ำซ้อนทะเบียนบ้าน เผยยอดใช้จ่ายวันแรกกร่อย

    เมื่อวันที่ 27 ก.ย. บรรยากาศการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ วันที่ห้า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา มีประชาชนเริ่มเข้าเว็บไซต์ w ww.ชิมช้อปใช้.com เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิเข้าร่วมในโครงการอย่างต่อเนื่องจนครบสิทธิ 1 ล้านราย ช่วงเวลา 02.56 น. หรือคิดเป็นการใช้เวลาหลังเปิดระบบเพียง 2 ชั่วโมง 56 นาที และในวันนี้ประชาชนที่ลงทะเบียนสำเร็จและผ่านการตรวจสอบในวันแรก 23 ก.ย.2562 จำนวน 807,321 ราย เงินจะเริ่มเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในแอปเป๋าตัง
    โดยผู้ที่ได้รับเอสเอ็มเอสและทำการยืนยันตัวตนเองเปิดกระเป๋าตังผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ประมาณการจะมีเม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบรอใช้จ่ายได้ทันทีกว่า 800 ล้านบาท 
    นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.การคลัง) ยืนยันมาตรการชิมช้อปใช้จะไม่เพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 1,000 บาท ที่ปัจจุบันให้ 10 ล้านคนแน่นอน เนื่องจากได้ศึกษาแล้วว่าจำนวนดังกล่าวเหมาะสมต่อการดำเนินโครงการนี้ ขณะเดียวกัน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมบัญชีกลางไปตรวจสอบร้านค้าที่ดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะการจำหน่ายลอตเตอรี่ ร้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการทอนออกจาก G-wallet ของธนาคากรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ซึ่งหากพบร้านค้าใดดำเนินการดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากโครงการทันที
    นายอุตตมกล่าวถึงปัญหาการลงทะเบียนในแอปพลิเคชันเป๋าตังของธนาคารกรุงไทยว่า ประชาชนที่มีปัญหาการยืนยันตัวตนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้จาก Call Center ของธนาคารและกรมบัญชีกลางได้ ซึ่งจะสามารถให้ข้อมูลและแก้ไขปัญหาประชาชนแต่ละรายได้ทันที เชื่อว่าธนาคารได้ดูแลระบบอย่างเหมาะสม ถึงแม้ว่าจะมีความขัดข้องในบางครั้ง แต่ยังสามารถบริหารจัดการให้โครงการมีประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี
     “ในการดูแลระบบนั้น ธนาคารกรุงไทยได้นำระบบ AI เข้ามาติดตามพฤติกรรม โดยเฉพาะร้านค้าที่ทำผิดวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีระบบ AI แต่หากใครที่พบการกระทำผิด สามารถแจ้งให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเอาผิดได้ทันที” รมว.การคลังกล่าว
    ด้านนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า กรณีผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ วันแรกเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลได้ทำการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทยและตรวจสอบจังหวัด แสดงความประสงค์ออกเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ซ้ำซ้อนกับจังหวัดในทะเบียนบ้าน พบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย จากการลงทะเบียนทั้งหมดในวันแรก ทำให้ผู้ได้รับสิทธิ์ที่ผ่านเกณฑ์ทยอยได้รับเอสเอ็มเอสยืนยัน ตั้งเวลา 17.00 น. เมื่อวันที่ 26 ก.ย. จากนั้นสามารถโหลดแอปเป๋าตังของธนาคารกรุงไทยเพื่อยืนยันตัวตน จากนั้นจะได้รับเงินเข้าแอปเป๋าตังทันที เพื่อเตรียมเดินทางออกไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
    นายชาญกฤชกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาสิทธิ์คงเหลือในแต่ละวันต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อยกไปใช้ต่อเป็นโควตาในวันที่เหลืออย่างไรบ้าง เพื่อเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมให้ได้ครบโควตา รวมตลอดโครงการ 10 ล้านราย เพื่อเปิดให้ประชาชนทยอยลงทะเบียนได้ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 พ.ย.2562 
    "ผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์เกือบ 2 แสนรายนั้น เนื่องจากปัญหาการยืนยันตัวตน หรือการกรอก OTP ไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดประมาณ 75,000 ราย รองลงมาเป็นการกรอกข้อมูลส่วนตัวไม่ครบถ้วน เช่น รหัสบัตรประชาชนไม่ตรงกับฐานข้อมูลจากกรมการปกครอง 60,000 ราย และการเลือกจังหวัดซ้ำกับทะเบียน 56,000 ราย โดยวันนี้ (27 กย.) ลงทะเบียนครบ 1 ล้าน เวลา 2.56 น." นายชาญกฤชกล่าว
    ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนผู้ถูกตัดสิทธิ์สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ หากใครไม่ได้รับ SMS หรือไม่ได้มีการยืนยันสิทธิ์ ยังสามารถลงทะเบียนซ้ำใหม่ได้ในวันถัดไปก่อนครบ 10 ล้านรายตามเป้าหมาย
    ถามว่า หากผู้สูงอายุบัตรประชาชนแบบเดิมไม่มีรหัสด้านหลังต้องทำอย่างไร ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมนำไปพิจารณาดูแลเพิ่มเติม ขอขอบคุณประชาชนที่สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนชิมช้อปใช้ในครั้งนี้ รัฐาบาลจะเร่งรัดแก้ปัญหาระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
    ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการแฝงขายลอตเตอรี่ผ่านร้านค้าอื่น เช่น ร้านอาหาร ว่า ในทางปฏิบัติคงตรวจสอบได้ยาก แต่กระทรวงการคลังจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามว่าร้านค้าดำเนินกิจการตามที่แจ้งไว้ในระบบหรือไม่ หากมีการขายลอตเตอรี่ร่วมด้วย ในขั้นแรกก็จะขอความร่วมมือให้งดขายก่อน หากยังฝ่าฝืนก็อาจจะต้องมีการตัดสิทธิ์ต่อไป
    “กรณีแผงลอตเตอรี่ไปร่วมขายกับร้านข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ที่อยู่ในมาตรการชิมช้อปใช้เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เพราะว่าเป็นเรื่องของความเอื้ออาทร รู้จัก ช่วยเหลือกัน ซึ่งเชื่อว่าคนที่ได้สิทธิไม่ได้มีความตั้งใจจะนำเงิน 1,000 บาทที่ได้รับไปซื้อลอตเตอรี่ทั้งหมด คงมีการนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นตามวัตถุประสงค์ของมาตรการด้วย” นายลวรณกล่าว
    ผอ.สศค.กล่าวว่า ในส่วนของการขยายระยะเวลาการรับลงทะเบียนร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ถึง 15 ต.ค.2562 ขณะนี้มีร้านค้าที่มาลงทะเบียนเพิ่มเติมแล้วจำนวน 5,000 ร้านค้า โดยกระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าเข้ามาสมัครเพิ่มเติมประมาณ 2 หมื่นร้านค้า โดยเมื่อรวมกับที่มาลงทะเบียนก่อนหน้านี้ 7 หมื่นร้าน และร้านค้าธงฟ้า 8 หมื่นล้าน จะทำให้มีร้านค้าที่อยู่ในมาตรการชิมช้อปใช้ทั้งสิ้น 1.7 แสนร้านค้า ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ 10 ล้านคน
    นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มทยอยใช้จ่ายเงินกับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการแล้ว โดยยอดการใช้จ่ายวันแรก (27 ก.ย.) อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท
    "สำหรับข้อเสนอแนะเรื่องการปรับเปลี่ยนเวลาการลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนในทุกกลุ่มนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกรอบระยะเวลาเริ่มลงทะเบียน 00.00 น. เป็นช่วงเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ ดังนั้นประชาชนที่สนใจ ต้องหาเวลามาลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ" กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศใช้จ่ายเงินชิมช้อปใช้วันแรก (27 ก.ย.) ซึ่งรัฐบาลได้โอนเงิน 1,000 บาท ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ 8.07 แสนราย ยังไม่ค่อยคึกคักนัก เนื่องจากเป็นวันแรกตรงกับวันทำงาน ประชาชนยังไม่ตื่นตัว เพราะมีเวลาทยอยใช้เงินได้ภายใน 14 วัน อาทิ ห้างเทสโก้ โลตัส ซึ่งจัดช่องสำหรับรับจ่ายเงินชิมช้อปใช้ไว้โดยตรง แต่ก็มีคนใช้บริการไม่มาก ขณะที่ร้านโชห่วยก็ยังเงียบเหงา เนื่องจากขั้นตอนใช้เงินยังยุ่งยาก แต่หวังว่าช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์คนน่าจะมาใช้จ่ายมากขึ้น.