หนังสือร้องเรียนของผู้เปิดโปงที่สื่อระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวโทษว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เพียงใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยการเรียกร้องให้ยูเครนแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2563 เพื่อประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวเท่านั้น แต่ทำเนียบขาวยังพยายามปกปิดหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของทรัมป์ด้วย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะมาถึงทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 26 กันยาย 2562 / AFP
เอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า รายงานที่คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐภายใต้การนำของพรรคเดโมแครตเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2562 เปิดเผยว่า ผู้ร้องเรียนรายนี้กล่าวไว้ในคำร้องทุกข์ต่อผู้ตรวจการณ์ของหน่วยงานด้านข่าวกรอง ความยาว 9 หน้า ลงวันที่ 12 สิงหาคมว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายรายเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการย้ายบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสถานที่เก็บข้อมูลปรกติ
"บทสนทนานี้ถูกเก็บไว้ในระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นต่างหากที่ใช้เก็บและจัดการข้อมูลลับที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ" รายงานกล่าว "เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวถึงการกระทำนี้ว่าเป็นการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในทางที่ผิด เพราะการโทรศัพท์นี้ไม่ได้มีข้อมูลใดที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติ"
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เมื่อวันพฤหัสบดีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ผู้เปิดโปงรายนี้เป็นเจ้าหน้าที่ชายของสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ที่เคยทำงานในทำเนียบขาว ต่อมาทนายความของเจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวเตือนว่าการเปิดเผยข้อมูลตัวตนของเขาเป็นความสะเพร่าและเป็นอันตราย แต่ไทมส์อ้างว่าต้องเผยรายละเอียดอย่างจำกัดนี้เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือ
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต ซึ่งประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อกลางสัปดาห์นี้ กล่าวโทษทรัมป์ว่าเกี่ยวข้องกับการปกปิดเพื่อซ่อนรายละเอียดความพยายามของเขาในการโน้มน้าวยูเครนในสอบสวนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้เป็นตัวเต็งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในนามตัวแทนของเดโมแครต ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
ด้านทรัมป์ยังเก็บปฏิกิริยาโกรธแค้นไว้ไม่อยู่ ลอสแองเจลีสไทมส์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีอ้างเสียงบันทึกคำพูดที่ทรัมป์กล่าวกับคณะทำงานจากคณะผู้แทนสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์กว่า เขาอยากรู้ว่าใครคือคนปากโป้งที่ให้ข้อมูลกับผู้เปิดโปงรายนี้ และระบุว่าพฤติกรรมของคนปากโป้งรายนี้ใกล้เคียงกับการเป็นสายลับและคนขายชาติ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนจะถูกจัดการด้วยวิธีที่ต่างจากสมัยนี้เล็กน้อย
แถลงการณ์ร่วมของประธานคณะกรรมาธิการ 3 ชุดของสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นเดโมแครต กล่าวว่า คำข่มขู่ใช้ความรุนแรงของทรัมป์ถือเป็นการข่มขู่พยานอย่างน่าตำหนิ
ราชา กฤษณมูรติ ส.ส.เดโมแครตที่เป็นกรรมาธิการข่าวกรอง กล่าวว่า คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องได้ซักถามผู้เปิดโปงรายนี้โดยเร็วที่สุด เพราะคำกล่าวของทรัมป์ก่อความวิตกว่าเขาอาจแก้แค้นบุคคลผู้นี้
ในการสนทนาทางโทรศัพท์ ทรัมป์รบเร้าให้เซเลนสกีสอบสวนไบเดน และฮันเตอร์ ลูกชายของเขาที่ทำงานในบริษัทพลังงานของยูเครนแห่งหนึ่งมานานหลายปี ทรัมป์กล่าวหาสองพ่อลูกไบเดนว่าคอร์รัปชัน แต่เขาไม่มีหลักฐานยืนยัน
คำร้องเรียนของผู้เปิดโปงกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของทรัมป์เกิดภายหลังเขาสั่งให้รัฐบาลระงับเงินช่วยเหลือแก่ยูเครนเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ เงินนี้ได้รับอนุมัติในเวลาต่อมา แต่ก่อนหน้านั้น รัฐบาลยูเครนได้รับแจ้งเตือนว่า ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเซเลนสกีกับทรัมป์นั้นขึ้นอยู่กับว่า ผู้นำยูเครนจะ "รับลูก" อย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |