“ประยุทธ์” ชี้ทุกประเทศมีปัญหาภายในหมด ลั่นต้องเข้ามาหยุดสงครามกลางเมือง ซึ่งไทยยามนี้เป็นประชาธิปไตยแล้ว “ทรัมป์-นานาชาติ” รับรอง ลั่นต้องเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ใครหนีคำสั่งศาลถือว่าไม่ใช่คนดี เมินม็อบบอกไม่เสียเวลามาทะเลาะ "อนุสรณ์" แขวะ “บิ๊กป้อม” ไร้ความน่าเชื่อถือมาทวงถามคลิปดูด ฝ่ายค้านประสานเสียงอย่าปริวิตกอภิปรายงบประมาณ “ปิยบุตร” เล็งขอขยายเวลาเป็น 4 วัน
เมื่อวันที่ 25 กันยายน เวลา 12.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหารเอเชียโซไซตี้ ก่อนปาฐกถาในหัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนระหว่างประเทศ จากความแข็งแกร่งภายในสังคมไทย”
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกประเทศมีปัญหาหมด เพียงแต่เป็นปัญหาภายใน ถามว่าประเทศไหนไม่เคยขัดแย้ง ก็ขัดแย้งกันหมดทั่วโลก เพียงแต่แก้ปัญหานี้อย่างไร จะเดินหน้าประเทศกันต่อได้อย่างไร จึงเข้ามาเพื่อหยุดปัญหาเหล่านั้น หยุดความขัดแย้งไม่ให้บานปลายอีก แล้วเดินหน้าไปสู่การปฏิบัติ การเป็นประชาธิปไตยด้วยการสร้างระเบียบต่างๆ
ทั้งนี้ ระหว่างนายกฯ กล่าวปาฐกถา มีผู้หญิงตะโกนบริเวณหน้าห้องปาฐกถาเรียก “มิสเตอร์ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาขอความร่วมมือให้ออกไปจากพื้นที่ ซึ่งก็ยอมออกไปแต่โดยดี ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ฮัลโหล แต๊งกิ้ว เวรีมัช” แล้วกล่าวปาฐกถาต่อ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทราบดีว่าประชาธิปไตยเป็นสากลที่ทุกคนยอมรับ เป็นโรงเรียน เป็นระบบมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบัน ตนเองยอมรับ แต่ขอว่าต้องเข้าใจเรานิดหนึ่งว่าอะไรคือปัญหา และปัญหาอยู่ตรงไหน ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เราควรทำแค่ไหน ถ้าเราได้ความร่วมมือแบบนี้มันแก้ได้หมด ความขัดแย้งก็คงลดลง หรืออย่างเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ก็ไม่เกิดขึ้น ส่วนที่มีคนมาประท้วงที่หน้าโรงแรมที่พักกว่า 20 คน แต่กลับไม่ใช่คนไทยสักคน ยังไม่ทราบเลยว่ามาจากไหน แต่ไม่ได้สนใจคนเหล่านี้ที่มาประท้วง แต่เมื่อมีคนไปถามว่าประเทศไทยอยู่ไหน กลับไม่รู้จักประเทศไทย ก็งงๆ นะ แต่ไม่สนใจ เพราะมีงานสำคัญกว่าไปทะเลาะกับคนเหล่านี้ให้เสียเวลา
นายกฯ กล่าวว่า เป็นรัฐบาลมา 5 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 6 เจอมาทุกปัญหา ก็รับฟังปัญหา นำกลไกต่างๆ ของเดิมกลับมาปรับมาแก้ อ่านตำราศึกษาอ่านหนังสือ ไม่ได้ใช้วิธีการทางทหาร ทำอย่างเดียวคือทำงานด้วยความเสียสละ อดทน อดกลั้น จริงจัง เพราะวินัยทหารคือทำงานแล้วต้องสำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จอย่าไปทำ ทหารต้องสั่งคนไปรบ ส่งคนไปตาย หากยึดที่หมายไม่ได้ก็ตายไปเลย นั่นคือทหาร และก็สำเร็จทุกครั้ง ถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าเราทำไม่ได้ เราทำไม่เก่งก็ตายไป นั่นคือความเสียสละ นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจเสมอมา ไม่เคยคิดถึงประโยชน์ตัวเอง ไม่คิดถึงความเสี่ยงของตัวเอง ครอบครัวก็เป็นห่วง แต่เขาก็ยอมเพราะสละตนเองไปแล้ว ครอบครัวก็สละตนเองให้กับประเทศชาติไปแล้ว แล้วจะไปเรียกร้องอะไรจากใคร แต่เขาเข้าใจ
หยุดสงครามกลางเมือง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ใครหนีคำสั่งศาลถือว่าไม่ใช่คนดี ซึ่งเมื่อกล่าวถึงตรงนี้ นายกฯ ได้ถามผู้บริหารเอเชียโซไซตี้ว่าสนับสนุนคนเหล่านี้หรือไม่ บางเรื่องไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีอาญา ยืนยันไม่เคยทำผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเข้ามาลักษณะนี้ และไม่ได้อยากเข้ามา แต่เพราะไทยมีปัญหา ไม่อยากให้เกิดสงครามกลางเมือง จึงต้องเข้ามายุติปัญหา กฎหมายจะบังคับได้ ไม่ได้อยู่ที่ประชาชน เจ้าหน้าที่เป็นคนดูแลบริหารจัดการ แต่ต้องไม่ทุจริต
“ทุกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ถือป้ายเมื่อกี้คือใคร ทั้งที่โรดแมปทำแล้ว เลือกตั้งทำแล้ว ขอยืนยันไทยผ่านการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับ ใครจะว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย ผมเลือกตั้งได้อาทิตย์เดียว รัฐบาลสหรัฐเป็นประเทศแรกๆ ที่ออกแถลงการณ์ยอมรับผลการเลือกตั้ง แล้วลงลายมือชื่อด้วยลายมือของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ แล้วใครมาว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย หลายประเทศล้วนแต่มายินดีกับผม การทะเลาะกันเป็นเรื่องภายใน ซึ่งทุกประเทศมีกันทั้งนั้น เลือกตั้งมีปัญหา ทุกประเทศก็มีหมด แต่เราอย่าไปทำไปฟังในสิ่งที่ไม่ใช่ที่บิดเบือน สื่อโซเชียลต่างๆ อย่าไปฟังมากนัก” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทุกคนเวลาตื่นเช้า แต่งตัวก่อนจะออกนอกบ้านจะก้มดูตัวเองเสมอ หล่อหรือยัง แต่ไม่เคยดูกระจกแบบนั้น แต่งตัวเสร็จ ตรงไหนไม่ดี ลูกน้องจะคอยบอก บางครั้งก็เนคไทไม่เรียบร้อย เป็นแบบนี้ ไม่อยากเสียเวลา จะได้มีเวลาไปคิดอย่างอื่น จึงต้องมี รปภ.ไว้ดูแล ถ้าแต่งกายไม่เรียบร้อย
ด้าน พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงชาวต่างชาติที่มาประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ที่สหรัฐ ว่ารายละเอียดเหมือนที่สื่อรายงาน ส่วนใครจะให้ชาวต่างชาติมาประท้วงหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่ทราบ ต้องสืบสวนสอบสวนว่าลักษณะดำเนินการเป็นอย่างไรต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ของเราที่อยู่ในต่างประเทศคงทราบเรื่อง และมีความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานให้ทราบต่อไป โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า นอกจากการประท้วงของคนต่างชาติแล้วยังมีความเคลื่อนไหวของคนไทยด้วย คิดว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.อ.วัลลภตอบว่า ยังไม่ทราบข้อมูลชัดเจน แต่ถือเป็นธรรมดาที่การดำเนินการต่างๆ จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไทย โดยเฉพาะในเรื่องดูด ส.ส.นั้น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรออกมาทวงถามถึงคลิปดูด ส.ส. ว่าประชาชนตัดสินใจได้ว่า สิ่งที่ พล.อ.ประวิตรพูดมีน้ำหนักและคุณค่าเพียงพอรับฟังได้หรือไม่ ตั้งแต่ให้ความเห็นเรื่องเรือฟีนิกซ์ล่ม, เหตุกราดยิงในกรุงไนโรบี และนาฬิกา 25 เรือนยืมเพื่อนมา
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ประชาชนสะท้อนผ่านโพลว่า เชื่อและมองเห็นถึงความจำเป็นที่พรรครัฐบาล ต้องการเสียงสนับสนุนไปแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ ส่วนจะเสนอการดูดแบบไหนอย่างไร คนทำรู้อยู่แก่ใจ พล.อ.ประวิตร อย่ามัวแต่ไปถามหาคลิปอยู่เลย เอาเวลาไปสอบสวนคนในพรรคให้ดีกว่า มีใครไปเสนอสิ่งจูงใจ พยายามไปตกปลาในบ่อเพื่อนหรือไม่ ถ้าพูดไปเรื่อย โดยไม่สำรวจและละทิ้งข้อเท็จจริงที่สำคัญ ต่อให้เอาข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน ผัดไทย มาเลี้ยงอีกกี่ตัน กี่พันโต๊ะ ถ้ายังมีทัศนคติแบบนี้ คงไม่ช่วยอะไร เพราะความเชื่อมั่นที่มันเสียแล้ว มันเรียกคืนได้ยาก อย่ามาเสียคนตอนแก่เลย
ฝ่ายค้านเดินสายภาคใต้
นายอนุสรณ์ ในฐานะรองประธานและโฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังกล่าวถึงโครงการฝ่ายค้านเพื่อประชาชนสัญจร 4 ภาค ว่ากิจกรรมต่อไปจะจัดในภาคใต้ในวันที่ 27-28 ก.ย. ที่จังหวัดยะลาและปัตตานี ซึ่งในวันศุกร์ที่ 27 จะออกรับฟังและสะท้อนปัญหาชาวสวนยางพารา ปัญหาชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ เศรษฐกิจปากท้องที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และวันเสาร์ที่ 28 ก.ย. จะเปิดเวทีเสวนา 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ในหัวข้อพลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่
สำหรับกรณีรัฐบาลกังวลการอภิปรายและลงมติในพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปีรายจ่ายงบประมาณปี 2563 นั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ในฐานะเลขานุการวิปพรรค พท. กล่าวว่า อย่ากังวลว่าฝ่ายค้านจะค้านอย่างเดียว หากโครงการใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลสามารถอธิบายการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีเหตุผลรองรับ ไม่เป็นภาระของประเทศ ไม่เป็นภาระหนี้สาธารณะมากเกินไป และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ตอบคำถามสังคมได้ ทั้งงบประมาณในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้า พรรคฝ่ายค้านพร้อมสนับสนุน
“รัฐบาลอย่าไปกังวลหรือมโนเกินเหตุ ถ้าทำดีจริง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ฝ่ายค้านก็ไม่ได้ค้านแบบไม่มีเหตุผล ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเอาภาษีของประชาชนไปใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนอย่างสูงสุดหรือไม่” นายจุลพันธ์กล่าว และว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงที่จะลงมติใดๆ ในที่ประชุมสภา เพราะกังวลว่าจะคุมเสียงไม่ได้ แต่เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญและมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนในวงกว้าง ซึ่งการอภิปรายงบประมาณก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการท้วงติงของพรรคฝ่ายค้านที่มีประสบการณ์บริหารประเทศมาแล้ว
ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ประเมินว่าการอภิปรายกฎหมายงบประมาณเพียง 2 วันนั้น อาจไม่พอ โดยจะใช้มาตรฐานสมัยที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ทำมาก่อนหน้าไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้เป็นสภาผู้แทนราษฎร มีพรรคฝ่ายค้านที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ทั้งงบประมาณและหน่วยงานต่างๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นการอภิปรายในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยอาจขอขยายเวลาเพิ่มเป็น 3-4 วัน อย่าเอาเวลามาเป็นข้อจำกัดในการแสดงความเห็นของผู้แทนราษฎร
“การทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน เป็นการทำหน้าที่บนผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราไม่มีการตรวจสอบเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายมาหลายปีแล้ว ซึ่งการประชุมที่จะถึงนี้เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ย้ำว่าเราไม่ได้ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล หรือฉวยโอกาสจ้องล้มรัฐบาล แต่นี่เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านว่าในการตรวจสอบว่ารัฐบาลตั้งงบประมาณ หรือมีแนวทางการบริหารที่มีประสิทธิภาพหรือไม่” นายปิยบุตรระบุ
เมื่อถามว่า มีกระแสว่าฝ่ายค้านมีชุดความคิดไม่อยากให้ พ.ร.บ.งบประมาณผ่าน นายปิยบุตรกล่าวว่า เราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เพียงแต่เราต้องการอภิปรายเพื่อการตรวจสอบเท่านั้น ดังนั้นฝ่ายค้านจึงต้องทำภารกิจดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าการใช้งบประมาณในอดีต และที่ผ่านมาเป็นอย่างไร หรือจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยงานไหนมากเป็นพิเศษ ซึ่งหลายเรื่องที่ฝ่ายค้านพูดในสภา เป็นการพูดแทนประชาชนที่ตั้งคำถามว่าทำไมงบประมาณของกลาโหมมันโป่งขึ้นมาเยอะ เราก็ต้องตั้งคำถาม ซึ่งในรายละเอียดนั้น ทางเราขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำการบ้านเรื่องนี้อย่างหนัก และจะอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ตีรวนเพื่อล้มรัฐบาล แต่อยากให้เป็นประโยชน์ของประเทศจริงๆ
วันเดียวกัน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีปมถวายสัตย์ปฏิญาณ และการแถลงนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ชี้แจงงบประมาณว่าขัดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ ว่าหากฝ่ายค้านยื่นเรื่องมา ป.ป.ช.จะตรวจสอบข้อกฎหมายว่าสามารถรับไว้ไต่สวนได้หรือไม่ ซึ่งคงต้องรอให้เห็นคำกล่าวหาก่อน จึงให้ความเห็นเพิ่มเติมได้ว่าจะต้องเชิญนายกฯ มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่ เชื่อว่ากรณีนี้อยู่ในความสนใจของสังคม ป.ป.ช.ก็จะนำมาพิจารณาเพื่อตรวจสอบดูว่ามีเนื้อหาเช่นไร และต้องใช้กรอบเวลาในการพิจารณามากน้อยแค่ไหน โดยจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อจะได้ตอบคำถามสังคมได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |