หลังจาก พรรคเพื่อชาติ เจอกระแสข่าวถาโถมเข้ามาในระยะหลัง เกิดการแบ่งขั้วทางความคิดอย่างรุนแรง ของคนสองกลุ่มใหญ่ ระหว่างขั้ว ยงยุทธ ติยะไพรัช, สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ กับขั้วตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำหัวขบวนเสื้อแดง พร้อมกับการขอคืนพื้นที่ ฐานที่มั่นเดิม ห้างอิมพีเรียลชั้น 5-6 ที่คนเสื้อแดงปักหลักเป็นที่ประชุม ที่ทำกิจกรรม ห้องทำงาน ห้องส่งสัญญาณทีวีดาวเทียมพีซ ทีวี อันเป็นกระบอกเสียงหลักคนเสื้อแดง ได้รับผลกระทบตามไปด้วย

                ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อชาติในสายที่สนิทสนมกับจตุพร ต้องออกมาหาสถานที่ก่อตั้ง สถานีพีซทีวีแห่งใหม่เอาเอง จนมาได้สถานที่ซอยวัดนวลจันทร์ รามอินทรา 40 และได้มีการวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อ 22 ส.ค.2562 สำหรับการขยับเขยื้อนทางการเมืองของจตุพร และมิตรสหายจะเป็นอย่างไรต่อไป วันข้างหน้าเคลียร์ใจกับคนที่เคยระหองระแหงมาร่วมกันฟื้นฟู พรรคเพื่อชาติต่อไป หรือกลับบ้านเก่าที่ร่วมชายคามานานอย่าง พรรคเพื่อไทย หรือไม่ก็ก่อร่างทำพรรคการเมืองตัวเองไปเลย ก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม ยังไม่มีความชัดเจน

                เรามีโอกาสได้สนทนา ‘พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ’ อดีตผู้ประสานงานพรรคเพื่อชาติ หนึ่งในเพื่อนคู่คิด ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ หัวขบวนใหญ่คนเสื้อแดง บางช่วงเวลาก็เป็นพ่อหมอใหญ่ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเชื่อ โชคลาง บางช่วงก็เปลี่ยนมาเป็นที่ปรึกษาทางการเมือง เป็นอีกหนึ่งที่เดินเคียงข้างกับจตุพรมาหลายสิบปี ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการเมืองที่มองทั้งพรรคพันธมิตรด้วยกัน ไล่ไปถึงการก่อร่างตั้งสถานีแห่งใหม่

                พรรคเพื่อชาติ เป็นพรรคไม่มีตังค์ แต่ได้ ส.ส.มา 5 คน ไปเทียบกับบางพรรคที่ได้ ส.ส.มากกว่า เขาอาจใช้เงินมากกว่าเราอีก แต่หลังจบภารกิจเลือกตั้ง พี่ตู่ เจ๋ง ดอกจิก (ยศวริศ ชูกล่อม) และผมประกาศขอยุติบทบาท จากนั้นให้ทางพรรคเขาดำเนินงานทางการเมืองต่อไป ส่วนพวกเราอนาคตทางการเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ยังไม่รู้ แต่จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ น่าเสียดายเพื่อไทยไม่ได้บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว เบอร์ใหญ่ๆ ในพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ (เกยุราพันธุ์), คุณเฉลิม (อยู่บำรุง) อาจารย์โภคิน (พลกุล) ไม่ได้เข้ามาเป็น ส.ส.เลยสักคน และงวดหลังก็ไม่ได้เหมือนเดิม ถ้ายังเดินตามแนวทางนี้ เว้นแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็แก้ยาก ถ้าไม่แก้ ก็จะไม่ได้ ส.ส.เลย ทำให้เกมการเมืองในสภาฯ พวกอภิปรายที่จะไปหักกับพลังประชารัฐได้ ก็ไม่ค่อยมี เพราะเบอร์ใหญ่ๆ ไม่ได้เข้าสภาฯ

                "ฝ่ายพลังประชารัฐ เขาก็ไม่ได้อ่อนทางเกมการเมือง วิรัช รัตนเศรษฐ, สมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พวกนี้อ่อนการเมือง หรือประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พวก ส.ส.ก็หน้าเก่า เขี้ยวๆ กันทั้งนั้น แต่เพื่อไทยเมื่อไม่มีเบอร์ใหญ่ๆ เข้าไปในสภาฯ การจะอภิปรายแบบหักเล่นงานพลังประชารัฐ ก็น้อยลงไป แนวร่วม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากเสรีรวมไทย ท่านอาจเคยเป็นนายกตำรวจใหญ่ เก่งปราบปราม แต่เวลามาอยู่สภาฯ ฟังแกอภิปรายแล้วมันคนละเรื่องกันเลยนะ เหมือนบอกเล่าเรื่องมากกว่า อนาคตใหม่ ก็ใหม่สมชื่อ อาจารย์ปิยะบุตร (แสงกนกุล เลขาธิการพรรค) แม้อภิปรายได้ เพราะเป็นนักวิชาการมา ท่านอภิปรายดี แต่เนื้อหาที่จะหักคอเขาเลย มันยาก เพราะทฤษฎีกับปฏิบัติไม่เหมือนกัน ฝ่ายค้านเลยยาก จะไปต่อกรในสภาฯ มันยาก ไม่เหมือนกับเพื่อไทย เหมือนยุคก่อน"

                ข่าวเรื่องดูด ส.ส.มันไม่ใช่เรื่องใหม่ พวก ส.ส.ที่ไปกินข้าว ไม่ได้ผิด นคร มาฉิม, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ย้อนไปดูมาจากไหน ก็มาจากประชาธิปัตย์ทั้งนั้น เพื่อไทยก็เคยทำมา มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นวัฎจักรทางการเมือง การเมืองยุคนี้ต้องใช้ความแหลมคมมาก ยิ่งวันนี้ระบบเศรษฐกิจไม่ดี มองว่าจะย้ายไปพรรคไหน ก็ย้ายไป แต่ต้องเอาความทุกข์ยากประชาชนเป็นที่ตั้ง แม้เป็นฝ่ายค้าน แต่เอางบประมาณไปช่วยบ้านที่ทุกข์ร้อน อย่างนี้ใครจะมาด่า เพราะเขาเอาไปช่วย ต้องแยกกัน การได้รับการสนับสนุน ไม่ใช่คนทรยศนะ แต่เขาเอาไปช่วยชาวบ้าน ต้องมองให้ออก

                ศักดิ์ระพี ยังบอกไปถึงที่ทำการแห่งใหม่พีซทีวี ทีวีคนเสื้อแดงและของ นปช.ว่า ตอนนี้เร่งก่อสร้างกันอยู่ ในส่วนของฐานรากที่เคยทำได้อย่างช้าๆ ทำเสร็จไปแล้ว ที่ตั้งอยู่แถวซอยนวลจันทร์ สถานีใหม่น่าจะเสร็จวันที่ 15 ธ.ค.นี้ แต่จะเปิดอย่างเป็นทางการ คงเป็นต้นปี 2563 โครงสร้างทำเพียงอาคารชั้นเดียว เนื้อที่สามไร่ครึ่ง ใช้เวลาไม่นาน ที่นี้ก็เช่ามาจากพรรคพวกคนรู้จักกัน อุปกรณ์ก็เอาจากสถานีเก่า ยังใช้ได้อยู่ ตอนนี้ปลูกต้นไม้ เอาต้นไผ่มาทำรั้ว ลงไปประมาณ 4,500 ต้น แบบที่พี่ตู่ (จตุพร พรหมพันธุ์) แกชอบ อยากให้ออกมาเป็นธรรมชาติๆ พีซทีวียังเป็นเหมือนเดิมเหมือนสมัยอยู่ที่เก่า มีร้านกาแฟ ห้องสตูดิโอสำหรับออกอากาศ มีที่ทำงาน นปช.เป็นรูปแบบเดิมทุกอย่าง ตอนนี้ก็เร่งกัน ก็ได้จากพรรคพวก ในสายเราช่วยเหลือกัน บางคนช่วยออกปูน บางคนช่วยเรื่องหลังคา ใช้ทุนพรรคพวกกันเองทั้งนั้น มาจากพรรคพวกพี่น้องเรา

                ย้ายไปที่ใหม่ พีซก็ยังยืนอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนเดิม รูปแบบรายการจะปรับรูปแบบใหม่เข้ามาด้วย แต่เนื้อหาก็ยังอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย ช่องเราคนดูติดแล้ว ไม่เหมือนทางวอยซ์ทีวี ที่ย้ายจากดิจิตอล มาออกดาวเทียม มาใช้ช่อง mv5 ใช้คลื่นสัญญาณนี้ ตอนแรกๆ คนอาจไม่รู้จัก เพราะก่อนหน้าเขาเป็นดิจิตอลก็ใช้ได้ ส่วนของเราเป็น 214 ล็อกเลขนี้ไว้ จะปิดกี่ครั้ง กลับมาเปิดใหม่ก็ใช้ช่องนี้เหมือนเดิม และยังเป็นช่องประชาธิปไตยเหมือนเดิม.